ชาวบ้านทั่วไปก็ได้แต่สงสัยว่า... นักการเมืองที่เขาว่ารวยๆ กันนั้น รวยกันขนาดไหน? รวยยังไง?

ซ่อนเร้นอำพรางความร่ำรวยไว้ได้อย่างไร?

ช่วงที่ผ่านมา มีข่าวเจาะเปิดโปงกลไกความร่ำรวยของ “นายหน้า” และ “นักการเมืองใหญ่” บางคน

ขอเก็บความมาเล่าสู่กันฟัง ง่ายๆ ดังนี้

1. เครือข่ายฟอกเงินมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ที่อยู่เบื้องหลังตระกูล... ของไทย

“นายหน้า” คนหนึ่ง เป็นมือทำงานคนสำคัญของขบวนการฟอกเงิน

มีฐานเงินสำคัญจากกัมพูชา ที่ขึ้นชื่อเรื่องการฉ้อโกงออนไลน์และการค้ามนุษย์

มีเงินมาให้ฟอกจำนวนมหาศาล

รวมทั้งเงินทุนจีนดำ และเงินจากอาชญากรรมร้ายแรง ยาเสพติด

2. “นายหน้า” ได้จัดหาเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ ให้กับ “อดีตนายกฯ”

ก่อนนี้ “นายหน้า” ก็เป็นคนจัดการให้ “อดีตนายกฯ” ได้ใช้เรือยอชต์สุดหรูความยาว 85 เมตร เดินทางไปพบปะกับผู้นำต่างชาติ

3. “นายหน้า” ใช้นามแฝงหลายชื่อ เพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก

ปัจจุบัน กลายเป็นคนใกล้ชิดของ “นักการเมืองใหญ่” เหมือนเป็นที่ปรึกษาการลงทุน การจัดการเงินคนสำคัญ

เคยใช้รถเฟอร์รารี่ เปลี่ยนมาขับรถแมคลาเรนสีส้ม

มีเรือยอชต์ส่วนตัว

ซื้ออพาร์ตเมนต์หรูหราในกรุงเทพฯ

ภรรยาของเขาได้ซื้ออพาร์ตเมนต์หรูมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ ในย่าน “Billionaire’s Row” ของแมนฮัตตัน

คุยโวกับหุ้นส่วนธุรกิจว่าตนเองมีอสังหาริมทรัพย์ในดูไบมูลค่าถึง4 พันล้านดอลลาร์

แต่ผู้สื่อข่าวสืบสวนมือฉมังต่างชาติ ให้ข้อมูลฟันธงว่า ทรัพย์สินของ “นายหน้า” ประมาณการว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะใกล้เคียงกับ 1.5 พันล้านดอลลาร์มากกว่า

หรือประมาณเกือบๆ 5 หมื่นล้านบาท

4. “นักการเมืองใหญ่” เคยถูกยึดทรัพย์ แต่ปัจจุบัน ก็ยังมีความมั่งคั่งที่อยู่ในเงามืดอีกมหาศาล

มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้นกับผู้นำเผด็จการประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเต็มไปด้วยเงินอาชญากรรม

ผู้สื่อข่าวสืบสวนมือฉมังต่างชาติ ให้ข้อมูลฟันธงว่า มูลค่าทรัพย์สินที่แท้จริงของ “นักการเมืองใหญ่” น่าจะอยู่ที่ราวๆ 2.5 พันล้านถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์

หรือประมาณ 1 แสนล้านบาทต้นๆ

เมื่อได้มาสานสัมพันธ์กับ “นายหน้า” จึงเป็นการจับคู่ที่ “นรกส่งมาเกิด” อย่างแท้จริง

คนนึงโกยเงินโกง อีกคนเงินไปฟอก จัดการให้เป็นเงินลงทุนที่ดูเหมือนจะถูกกฎหมาย

5. “นายหน้า” มีคอนเนคชั่นเส้นใหญ่ในกัมพูชา เพราะผูกติดกับลูกอดีตรองนายกฯ แถมพี่สาวของพาร์ทเนอร์ก็ดองลูกชายของฮุนเซน

ศูนย์กลางของอาชญากรรมข้ามชาติ ฉ้อโกงออนไลน์ กาสิโน ค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติดและอาชญากรรมอื่นๆ ได้รับการคุ้มครองจากผู้มีอำนาจในกัมพูชา

มีเงินมากมายให้ฟอก รวมทั้งเงินจากทุนจีนสีดำมหาศาลด้วย

ซื้อที่ดิน พัฒนาเป็นกาสิโน ใช้เป็นฉากบังหน้าในการฟอกเงินสกปรกของจีนเทา “นายหน้า” ได้รับส่วนแบ่ง20% ของเงินทั้งหมดที่ผ่านเข้ามา

ได้หนังสือเดินทางทางการทูตของกัมพูชา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของวุฒิสภากัมพูชา

พาร์ทเนอร์ของเขาก่อตั้งธนาคาร โดย “นายหน้า” เป็นหุ้นส่วนลับ

“นายหน้า” เคยเผยกับอดีตหุ้นส่วนของเขาว่า ธุรกิจการฟอกเงินของคนจีนมีมูลค่าสูงถึง 800 ล้านถึง 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี เขาได้ส่วนแบ่ง 20%

เมื่อ “นายหน้า” ได้จับคู่กับ “นักการเมืองใหญ่” อภิมหาดีลจึงบังเกิด คิดการใหญ่

เกิดขบวนการซื้อหุ้นบริษัทพลังงานไทย ในตลาดหลักทรัพย์ฯโดยใช้กลวิธีแยบยล ใช้ชื่อบริษัทลงทุน เป็นเหมือน “เปลือกหอย”ซ่อนเร้นเจ้าของที่แท้จริง

โดยไม่มีทั้งชื่อของ “นายหน้า” และ “นักการเมืองใหญ่”เป็นเจ้าของ

การดำเนินการนั้น สอดรับกับความพยายามเร่งอำนาจรัฐเจรจากับกัมพูชา แบ่งพลังงานใต้อ่าวไทย 50-50 สะเทือนเลื่อนลั่น ซึ่งหากสามารถนำพลังงานใต้อ่าวไทยมาแบ่งกันได้ คาดว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทพลังงานดังกล่าวจะได้รับผลกำไรมหาศาล เนื่องจากบริษัทจะเพิ่มกิจกรรมการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซให้มากขึ้น

6. ทำไม “นักการเมืองใหญ่” ถึงใช้เครือข่าย “นายหน้า” ?

เพราะทรัพย์สินขนาดใหญ่จะถูกซื้อ ถูกจัดการ ผ่านการเงินที่เชื่อมโยงกับกัมพูชา โดยไม่ให้ชื่อของ “นักการเมืองใหญ่” หรือแต่ชื่อของ“นายหน้า” ปรากฏในบันทึกทางการ

เหยียบหิมะไร้ร่องรอย

เชื่อว่า อาจไม่มีแค่ “นักการเมืองใหญ่” คนเดียว ใช้บริการ “นายหน้า”

กลวิธีซ่อนความมั่งคั่งไว้ในเงามืด เช่น ใช้บริษัทเปลือกหอย ใช้การเป็นเจ้าของทางอ้อม อาศัยพันธมิตรที่มีอำนาจในต่างประเทศเป็นผู้ดูแลหรือผู้รับมอบอำนาจ ใช้สัญชาติหลายใบ (การได้สัญชาติมอนเตเนโกรทำให้สามารถจดทะเบียนบริษัทในยุโรปและเปิดบัญชีธนาคาร หลีกเลี่ยงการตรวจสอบของไทย) ฯลฯ

7. อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บริษัทที่ถูกพาดพิง ได้ออกเอกสารชี้แจงว่า ตนเองไม่มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองในประเทศไทย ในการเข้าไปเป็นนอมินีซื้อหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ

8. ปัจจุบัน รัฐบาลหลานอังเคิล ล่มสลายไปแล้ว

อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เข้าคุก และลุ้นกับคดีอื่นๆ ที่อาจจะตามมาอีก

ขณะที่รัฐบาลชุดใหม่ นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศกร้าวไม่เปิดด่าน จนกว่ากัมพูชาจะยอมตามเงื่อนไขฝ่ายไทย “เราจะต้องรักษาอธิปไตย และเกียรติภูมิของประเทศ การเปิดด่านจะไม่เกิดขึ้น จนกว่าจะมีการปฏิบัติตามเงื่อนไข ที่เราเป็นผู้กำหนด”

ส่วนรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประกาศชัด “ประเทศไทยจะไม่เจรจาหรือหารือใดๆ เกี่ยวกับผลประโยชน์ด้านพลังงานกับกัมพูชา จนกว่าปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดนจะยุติลงอย่างชัดเจน”

เชื่อแน่ว่า “นายหน้า” และ “นักการเมืองใหญ่” กับเครือข่ายยังไม่จบงาน

สงครามใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้นอีก

สารส้ม