นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานหมุนเวียนอาเซียน 2025 คุยว่า ผู้นำระดับโลกอาทิ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียจะมาร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เดือนตุลาคม 2025

จากสถานการณ์สงครามการค้า และ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เชื่อว่าคำคุยโวของนายอันวาร์เป็นเพียงการบ้าน้ำลาย ที่เข้าใจเอาเองว่า ในฐานะประธานหมุนเวียนอาเซียน ทำให้เขายิ่งใหญ่ทำอะไรได้ตามอำเภอใจ เหมือนที่เคยทำกับประเทศไทยในความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

ที่นายอันวาร์เข้าข้างพนมเปญตามบัญชาของประธานาธิบดี ทรัมป์ เป็นเหตุให้ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยังคงดำรงอยู่ และยืดเยื้อต่อไปตราบใด ที่ประธานอาเซียนและสหรัฐอเมริกา ยังไม่รู้นิสัยถาวรของตระกูลฮุน

นายอันวาร์ อาจเชิญ ประธานาธิบดี ทรัมป์ มาประชุมในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ แต่อย่าหมายว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะมาร่วมประชุมในวาระของอาเซียน เนื่องจากว่าประธานาธิบดีสี และ ประธานาธิบดีปูติน ได้แสดงพลังยิ่งใหญ่ในกรุงปักกิ่งร่วมกับ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย และ ผู้นำจาก 26 ประเทศโลกใต้ เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ผู้นำระดับโลกร่วมประชุม SCO 2025 เป็นการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งรัฐครั้งที่ 25 ขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน 2568 ณ เมืองเทียนจินและร่วมสวนสนามฉลองครอบรอบ 80 ปี จีนชนะสงครามเป็นมหกรรมชุมนุมผู้นำครั้งยิ่งใหญ่มาแล้ว

ประธานาธิบดีสี และ ประธานาธิบดีปูตินคงไม่เสียเวลามาประชุมอาเซียนในเดือนตุลาคมนายอันวาร์จึงได้หาแสงด้วยการแทรกแซงกิจการภายในของไทย ในประเด็นความขัดแย้งกับกัมพูชา เป็นที่น่าสนใจ ที่นายอันวาร์แทรกแซงประเทศไทยตามความต้องการของกัมพูชาอย่างออกหน้า

วันที่ 18 กันยายน 2568 นายอันวาร์ อิบราฮิมนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และ ประธานอาเซียน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยย้ำว่า ทุกฝ่ายควรรักษาความสงบเรียบร้อย อย่าปล่อยให้ความแตกต่างใดๆ ก่อให้เกิดความตึงเครียดโดยไม่จำเป็น

นายอันวาร์ ยังขอให้หยิบยกทุกประเด็นที่เกิดขึ้น นำเข้าสู่โต๊ะเจรจาผ่านกลไกการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา เพราะเชื่อว่าการเจรจา คือ หนทางที่ดีที่สุด ในการรักษาสันติภาพ และเสถียรภาพในภูมิภาค

นายอันวาร์หลับหูหลับตา โพสต์ข้อความ โดยไม่มองความจริงว่า ฝ่ายกัมพูชาละเมิดหยุดยิงและยั่วยุเพื่อให้กองทัพไทยใช้กำลัง กัมพูชาใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์บังหน้า เช่น กรณีบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ที่ครอบครัวทหารและทหารกัมพูชาปลอมเป็นชาวบ้านสร้างสถานการณ์ยั่วยุ ทหารและตำรวจไทยที่ประจำการอยู่ใกล้รั้วลวดหนาม ที่ทหารติดตั้งในเขตไทยป้องกันไม่ให้เขมรรุกล้ำ

ครอบครัวทหารกัมพูชาและทหารปลอมตัวเป็นชาวบ้าน ทำการประท้วงยั่วยุ รื้อลวดหนามทำร้ายเจ้าหน้าที่ เมื่อตำรวจไทยระงับเหตุร้ายด้วยการใช้แก๊สน้ำตา รัฐบาลกัมพูชาก็เอะอะโวยวายเหมือนเด็กไม่ได้ของเล่น

นายกฯ ฮุน มาเนต ของกัมพูชา สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายกฯอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เกี่ยวกับสถานการณ์ที่หมู่บ้านไพร จาน แขวงโอวโจรว จ.บันเตียเมียนเจย และร้องขอให้นายอันวาร์เข้าแทรกแซง เพื่อช่วยให้สถานการณ์ไม่ลุกลามบานปลาย ด้วยการดำรงสถานะเดิมไว้ และให้ JBC แก้ไขปัญหา

นางควน สุดารี ประธานรัฐสภากัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียนที่มาเลเซีย เรียกร้องให้ประชาคมโลกติดตามสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา-ไทยอย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาคมโลกประเมินสถานการณ์ บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง

นายกฯ ฮุน มาเนต ของกัมพูชาส่งหนังสือถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ลงวันที่ 17 กันยายน 2568 ระบุฝ่ายไทยสกัดกั้นชาวกัมพูชา 25 ครอบครัว กลับเข้าบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของตัวเอง ที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนที่เป็นข้อพิพาท

นอกจากนั้น หนังสือของผู้นำกัมพูชาระบุว่าทหารไทยขยายพื้นที่ขัดแย้ง ด้วยการตั้งลวดหนาม และสิ่งกีดขวางต่างๆ รวมทั้งบีบบังคับขับไล่พลเรือนกัมพูชา ออกจากพื้นที่ที่ตั้งรกรากมาเป็นเวลานาน ใน 2 หมู่บ้านที่อยู่ใน จ.บันเตียเมียนเจย ตั้งแต่เดือนสิงหาคม

การเคลื่อนไหวของฮุน มาเนต และนางควน สุดารี ประธานรัฐสภากัมพูชา ล้วนเป็นการโกหกหลอกลวงพูดดำให้เป็นขาว ซึ่งแม้แต่ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย ในฐานะผู้สังเกตการณ์เฉพาะกิจ ลงพื้นที่ขัดแย้งเป็นสักขีพยานที่ทหารเขมรวางกับระเบิดในเขตแดนไทยและได้เห็นพฤติกรรมเลวทรามชั่วร้ายฝ่ายกัมพูชาที่บ้านหนองจาน

ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย ยกย่องชื่นชมทหารไทยว่า เป็นมืออาชีพ มีระเบียบวินัย อดทนอดกลั้นต่อพฤติกรรมชั่วร้ายของฝ่ายกัมพูชา และปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติตามหลักปฏิบัติสากล

แต่น่าประหลาดใจที่นายอันวาร์มองไม่เห็นความชั่วร้ายของรัฐบาลกัมพูชา และเข้าข้างกัมพูชามาตั้งแต่ครั้งเป็นคนกลางการเจรจาหยุดยิง เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา การตกลงหยุดยิงที่ประเทศไทยเสียเปรียบทุกด้าน ที่ทุกฝ่ายเข้าใจดีว่า นายอันวาร์ ทำตามคำแนะนำที่ปรึกษาคนไทย และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่ดึงสหรัฐอเมริกามาร่วมกดดันรัฐบาลไทยในยุคนั้น

นายอันวาร์คงไม่สำเหนียกว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีผู้นำจิตวิญญาณเป็นสหายคนสนิท และเป็นหนี้บุญคุณสมเด็จฮุนเซน รัฐบาลเพื่อไทย จึงเอนเอียงเข้าข้างกัมพูชา และนายอันวาร์ ไม่ตระหนักด้วยว่ารัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ที่นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูลมีท่าทีต่อกัมพูชาแตกต่างกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เหมือนหน้ามือกับหลังเท้า

นายอนุทินไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณฮุนเซน และพรรคภูมิใจไทย เห็นด้วยและสนับสนุนแม่ทัพภาคที่ 2 ตั้งแต่ต้นว่า ประเทศไทยต้องใช้ไม้แข็งปรามกัมพูชาให้หยุดบ้าคลั่งรุกรานอธิปไตยไทย ใช้มาตรการกดกัมพูชาด้วยการปิดด่านเพื่อตัดกำลังทุบหม้อข้าว ฮุนเซนต้องมีต่อไปในรัฐบาลนายอนุทิน

นายอันวาร์โทรศัพท์มาหานายกรัฐมนตรีไทยในขณะที่นายอนุทินยังไม่ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯและยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อสภา ถือว่านายอันวาร์เสียมารยาททางการทูตอย่างแรง พอๆกับที่นายอันวาร์นั่งเรือมาพบกับทักษิณ ชินวัตร ในทะเลอันดามัน ในห้วงเวลาที่ศาลสั่งห้ามจำเลยคดีอาญามาตรา 112 เดินทางออกนอกประเทศ

การพบกันในทะเลอันดามันครั้งนั้น เป็นที่คลางแคลงใจว่า พบกันในเขตประเทศไทยหรือในเขตประเทศมาเลเซีย เมื่อไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้สังคมไทย จึงสรุปว่า นายอันวาร์เสียมารยาททางการทูต และอาจเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลของประเทศเพื่อนบ้าน

ด้วยความอหังการถือว่าเป็นประธานหมุนเวียนอาเซียน และมีทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาได้ อันวาร์จึงไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาใดๆในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหารุนแรงในจังหวัดชายแดนไทย ที่นายอันวาร์ตกลงกับที่ปรึกษาคนไทย เรื่องปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ และร่วมกันพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ตั้งแต่นายอันวาร์และนายทักษิณร่วมมือกันแก้ปัญหา สามจังหวัดชายแดนใต้ ที่เงียบมาสงบสองสามปี ทันทีที่นายอันวาร์เข้ามาเกี่ยวข้อง เหตุร้ายรายวันก็กลับมา เกิดเหตุวางระเบิด ลอบยิงเจ้าหน้าที่ ลอบวางเพลิงถี่ขึ้น ตั้งแต่นายอันวาร์กับ|ที่ปรึกษาคนไทยดำริจะช่วยแก้ปัญหา

นายอันวาร์ไม่สำเหนียกว่า ผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของพรรค PAS มาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองนายอันวาร์ ปฏิบัติการร้ายรายวันเป็นการฉีกหน้า นายอันวาร์และที่ปรึกษาคนไทยว่าไม่มีน้ำยา

ด้านสถานการณ์ในประเทศพม่านายอันวาร์ในฐานะประธานอาเซียน พยายามขัดขวางไม่ให้พม่าจัดการเลือกตั้งปลายปีนี้และต้นปีหน้า โดยอ้างว่าพม่าต้องไม่จัดเลือกตั้งระหว่างสงครามกลางเมือง ในเวลาเดียวกัน จีน รัสเซีย อินเดีย สนับสนุนให้พม่าจัดการเลือกตั้ง นเรนทราโมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย บอก พลเอกมิน อ่องหล่าย ในกรุงปักกิ่ง ว่า อินเดียพร้อมส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์เลือกตั้งในพม่า

วันที่ 7 กันยายน คณะกรรมการการเลือกตั้งพม่าออกแถลงการณ์พร้อมจัดการเลือกตั้งหลายพรรคทั่วประเทศ แต่ไม่จัดเลือกตั้ง สส. 56 เขตเลือกตั้งและไม่จัดเลือกตั้ง สว. 9 เขตเลือกตั้งโดย กกต.พม่ากล่าวว่า เขตเลือกตั้งเหล่านี้ ยังไม่พร้อมเลือกผู้แทนทำหน้าที่นิติบัญญัติในสภา

จึงสรุปว่านายอันวาร์ล้มเหลวภารกิจประธานอาเซียน ในฐานะคนไทยขอเรียกร้องให้นายอันวาร์ หยุดแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย ดีที่สุดคือหยุดปฏิบัติหน้าที่ประธานหมุนเวียนอาเซียน

สุทิน วรรณบวร