•แนวคิดเรื่อง “การทำบุญ” นั้นเป็นหัวใจสำคัญของหลายศาสนา
ซึ่งมีความหลากหลายตามหลักความเชื่อและวัฒนธรรม
ประสบการณ์ 76 ปีของผม และข้อสรุปเรื่อง “การให้ความคิดหลักธรรม”
เป็นแนวคิดที่ลึกซึ้งและถูกต้องตามหลักการสูงสุดของการทำความดีอย่างแท้จริงหรือไม่
การเรียบเรียงสรุป “หลักคิดการทำบุญตามศาสนาหลักของโลก”
การวิเคราะห์ และคำแนะนำ
สรุปหลักคิดการทำบุญตามศาสนาหลักของโลก
แม้ว่าคำว่า “บุญ” จะเป็นคำที่มาจากภาษาบาลีในพระพุทธศาสนา
แต่หลักการพื้นฐานของการทำความดี การให้ และการพัฒนาตนเอง
มีปรากฏอยู่ในศาสนาสำคัญต่างๆ ทั่วโลก:
1.พระพุทธศาสนา (Buddhism)
หลักการทำบุญในพุทธศาสนามีความครอบคลุมและละเอียดอ่อน
โดยถูกประมวลไว้ใน บุญกิริยาวัตถุ 10
ซึ่งชี้ให้เห็นว่าบุญไม่ได้จำกัดอยู่แค่การบริจาคเงินหรือสิ่งของเท่านั้น
แต่รวมถึงการพัฒนาตนเองด้วย:
ทานมัย (บุญจากการให้):
การสละ แบ่งปันสิ่งของ เงินทอง
หรือแม้แต่กำลังกาย/ความรู้เพื่อลดความตระหนี่ถี่เหนียว
สีลมัย (บุญจากการรักษาศีล):
การประพฤติชอบทางกายและวาจา ไม่เบียดเบียนผู้อื่น (เช่น ศีล 5)
ภาวนามัย (บุญจากการเจริญภาวนา):
การฝึกอบรมจิตใจให้สงบ (สมาธิ) และการเจริญปัญญาให้เข้าใจความเป็นจริงของชีวิต
อปจายนมัย, เวยยาวัจมัย:
การอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ และการขวนขวายช่วยเหลือในกิจที่ชอบ
(งานสาธารณะ/ช่วยเหลือผู้อื่น)
ปัตติทานมัย, ปัตตานุโมทนามัย:
การอุทิศส่วนบุญ และการยินดีในการทำความดีของผู้อื่น (พลอยยินดี)
ธรรมสวนมัย, ธรรมเทศนามัย:
การฟังธรรม/คำแนะนำที่เป็นธรรม และการแสดงธรรม/ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์
ทิฏฐุชุกรรม:
การทำความเห็นให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม หรือการมี สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)
2.ศาสนาอิสลาม (Islam)
หลักปฏิบัติที่สำคัญซึ่งถือเป็นการทำความดี (บุญ/กุศล) และ
การแสดงความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า (อัลลอฮ์) คือ
หลักปฏิบัติ 5 ประการ (รุกนอิสลาม 5) หนึ่งในนั้นคือ:
การจ่ายซะกาต (Zakat):
การบริจาคทานภาคบังคับ เป็นการชำระทรัพย์สินและจิตใจของผู้ให้
ถือเป็นสิทธิของคนยากจนในทรัพย์สินของผู้มีอันจะกิน
นอกจากนี้ยังมีการบริจาคด้วยความสมัครใจเรียกว่าซอดาเกาะห์ (Sadaqah)
ซึ่งรวมถึงการให้ความช่วยเหลือ การให้คำปรึกษา การเผยแผ่ความรู้
และการแสดงความเมตตาต่างๆ
3.ศาสนาคริสต์ (Christianity)
หลักการสำคัญในการดำเนินชีวิตที่ดีงามและการทำความดี(ซึ่งคล้ายคลึงกับการทำบุญ) คือ ความรัก (Agape) และการกระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า โดยเน้นที่:
การให้ความรักแก่เพื่อนมนุษย์:
การช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลน ผู้เจ็บป่วย ผู้หิวโหย ผู้ถูกจองจำ โดยถือว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คือการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า
การให้อภัย:
การละความโกรธ การให้โอกาส และการมีเมตตาจิต
การดำเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรม:
การประพฤติชอบ การเป็นพยานถึงความดีงาม และ
การแบ่งปันคำสอนเพื่อความรอดทางจิตวิญญาณ
การวิเคราะห์การทำบุญตามหลักวิทยาศาสตร์และหลักธรรมที่ถูกต้อง
1.การทำบุญตามหลักวิทยาศาสตร์ (ทางด้านจิตวิทยาและสังคม)
ในแง่ของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ “บุญ” หรือการทำความดี
สามารถอธิบายได้ในมิติของ จิตวิทยา (Psychology) และ
ประสาทวิทยา (Neuroscience):
ความสุขและเคมีในสมอง:
การให้ (Giving) หรือการช่วยเหลือผู้อื่น
จะกระตุ้นการหลั่งสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับความสุข เช่น
โดปามีน (Dopamine), ออกซิโทซิน (Oxytocin) และ
เอ็นโดรฟิน (Endorphin)
ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกดี รู้สึกเติมเต็ม และเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Helper’s High”
สุขภาพจิตที่ดี:
การมีเจตนาที่ดีและกระทำความดีช่วยลดความเครียด และ ความวิตกกังวล
เพราะเป็นการดึงจิตออกจากความเห็นแก่ตัวและความคิดวนเวียนในปัญหาของตนเอง ทำให้จิตใจผ่องใส (สอดคล้องกับความหมายของบุญว่า “เครื่องชำระสันดาน”)
การบริจาคเลือด:
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ การบริจาคเลือด ซึ่งเป็น ทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ ตามหลักศาสนา
แต่ในทางวิทยาศาสตร์ คือ การช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นโดยตรง
และยังกระตุ้นร่างกายให้สร้างเม็ดเลือดใหม่ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริจาคด้วย
2.การทำบุญตามหลักธรรมที่ถูกต้อง
หลักธรรมที่ถูกต้องของการทำบุญในทุกศาสนาเน้นที่ “เจตนา”
และ “ผลที่เกิดกับจิตใจ” เป็นสำคัญ:
บุญที่แท้จริงคือความบริสุทธิ์ของจิต:
หลักธรรมสอนว่าบุญไม่ได้อยู่ที่มูลค่าของวัตถุที่ให้ แต่อยู่ที่ เจตนาบริสุทธิ์
(ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ก็เบิกบานใจ) และ
การทำบุญที่สมบูรณ์คือการให้โดยไม่ยึดติดในผลตอบแทน
ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของผม
ทาน ศีล ภาวนา:
การทำบุญที่แท้จริงต้องครบทั้ง 3 องค์ประกอบหลัก (ทานมัย, สีลมัย, ภาวนามัย) โดยเฉพาะ ภาวนามัย (การพัฒนาจิตใจ/ปัญญา)
ถือเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ คือการชำระกิเลสออกจากจิตใจ
•ภาพประกอบ
https://www.facebook.com/share/p/1BD1fcDb7G/
https://www.facebook.com/share/p/1Hhti8XHSo/
ชัยวัฒน์ สุรวิชัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี