วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
การรักษาผลประโยชน์แห่งชาติเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นมากสำหรับผู้นำประเทศ แต่ก็มีเงื่อนไขว่าการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ จักต้องดำรงอยู่บนพื้นฐานของเกียรติยศเกียรติประวัติ และความน่าเชื่อถือของประเทศเป็นสำคัญ หากประเทศใดที่มีผู้นำแสวงหาผลรประโยชน์แห่งชาติโดยไม่คำนึงถึงความดีงาม ชื่อเสียง เกียรติคุณ เกียรติภูมิของประเทศ ก็เท่ากับประเทศนั้นมีผู้นำที่จัดอยู่ในประเภทชั่วช้า เลวร้าย และสามานย์
อันที่จริงแล้วบทความนี้ไม่ต้องการกล่าวประณามผู้นำประเทศใดว่าเลวทรามต่ำช้า แต่ก็จำเป็นต้องมีข้อยกเว้นสำหรับผู้นำบางประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีผู้นำกลับกลอก ยอกย้อน ไม่รักษาคำพูด สร้างเรื่องโกหกตลอดเวลา แต่ที่มากกว่านั้นคือจงใจรุกรานประเทศอื่นเป็นประจำ
สำหรับไทยกับกัมพูชานั้น อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นประเทศคู่หนึ่งที่มีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะปมปัญหาพรมแดน เนื่องจากมีรากเหง้าของปัญหามาจากยุคที่ฝรั่งเศสเข้าครอบครองกัมพูชา แล้วในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสก็ใช้อำนาจเถื่อนเอารัดเอาเปรียบสยามในยุคที่ฝรั่งเศสดำเนินนโยบายล่าอาณานิคม ซึ่งปัญหาที่ฝรั่งเศสจงใจกระทำกับสยามนั้นเกิดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จนเกิดกรณีพิพาท ร.ศ. 112
ขอย้ำว่าปัญหาพรมแดนไทยกับกัมพูชา ที่มีรากเหง้ามาจากการกระทำของฝรั่งเศส ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 19 ไล่เรื่อยมาจนถึงยุคต้นศตวรรษที่ 20 แต่ปัญหาระหว่างสยาม (ต่อมาคือไทย)
กับกัมพูชาไม่ได้จบสิ้นลงหลังจากฝรั่งเศสให้เอกราชกับกัมพูชา เพราะผู้นำกัมพูชายังคงดำเนินนโยบายแสวงผลประโยชน์แห่งรัฐ โดยไม่คำนึงถึงความมีสัมพันธไมตรีในฐานะประเทศเพื่อนบ้านระหว่างไทยกับกัมพูชา และปัญหาหนึ่งที่ดำเนินมาโดยตลอดคือปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชา
ถามว่าทำไมไทยจึงไม่มีปัญหาพรมแดนกับลาวมากเท่ากับมีปัญหากับกัมพูชา ทั้งๆ ที่ลาวก็เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสเช่นกัน ตอบได้โดยพื้นฐานว่าเป็นเพราะผู้นำการเมืองของลาวมีอุปนิสัยต่างกับผู้นำการเมืองของกัมพูชา และอาจจะกล่าวได้ว่าเพราะผู้นำลาวไม่มีนิสัยเผด็จการ และไม่ได้ต้องการผูกขาดอำนาจการเมืองไว้ในกำมือของตนเหมือนกับผู้นำกัมพูชา ดังนั้น จึงไม่ค่อยมีปัญหาชายแดนไทยกับลาวมากเท่ากับปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชา
อันที่จริง หากจะพูดให้ชัดคือ เพราะฮุนเซนแห่งกัมพูชาต้องการผูกขาดการมีอำนาจรัฐไว้ในกำมือแบบชั่วชีวิตแล้วยังต้องการสืบทอดอำนาจรัฐไปยังลูกหลานของตนเองแบบไม่รู้จบ ดังนั้น ฮุนเซน จึงต้องพยายามทำทุกหนทางเพื่อให้ตนเองมีอำนาจรัฐได้ยาวนานที่สุด ดังนั้น ก็จึงทำให้ฮุนเซนต้องแสดงอิทธิฤทธิ์การเมืองให้ปรากฏแก่สายตาและการรับรู้ของชาวกัมพูชา เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวจนไม่มีชาวกัมพูชากล้าลุกขึ้นประท้วงขับไล่ และเพื่อให้ตนเองและลูกมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ ฮุนเซน จึงต้องหาเหยื่อและหาคู่กรณีเพื่อทำให้ตนเองสามารถยึดกุมอำนาจได้ต่อไป เมื่อมองไปทางเวียดนามก็เห็นว่าไม่น่าจะใช้เป็นเหยื่อการเมืองไทย ดังนั้น ไทยจึงตกเป็นเหยื่อการเมืองของฮุนเซน ด้วยเพราะเหตุว่าประเมินแล้ว
ไทยคือเหยื่อที่ง่ายที่สุดของฮุนเซน เพราะรัฐบาลไทยไม่มีความมั่นคงทางการเมือง แถมยังเปลี่ยนรัฐบาลได้แสนง่ายดาย
ฮุนเซนมีความเก่งฉกาจในการสร้างเรื่องลวงโลกโดยเฉพาะการหาเรื่องรุกรานไทย แล้วก็ฟ้องโลกว่าไทยเป็นฝ่ายรุกราน โดยปากก็บอกว่าไม่กลัวการรบกับไทยแถมยังท้ารบอีกด้วย แต่เมื่อไทยส่งกำลังรบเพียงเบื้องต้นเข้าจัดการ ฮุนเซนก็ป่าวประกาศสร้างเรื่องโกหกว่าไทยรังแกกัมพูชา มีผู้กล่าวว่าเรื่องบาดหมางระหว่างไทยกับกัมพูชาจะไม่มีวันจบสิ้น หากกัมพูชายังมีผู้นำการเมืองชื่อฮุนเซนและฮุน มาเนต จอมโกหกคู่พ่อลูก

ประกาศสำนักพระราชวัง สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต
เที่ยวลพบุรี อลังการทุ่ง'ดอกคอสมอส' สวยงามที่สุดในไทย
ตร.ไซเบอร์ทลายธุรกิจเถื่อน รับแลกเหรียญ Worldcoin หลังคนแห่สแกนม่านตา
เมืองพัทยาจัดใหญ่'วันลอยกระทง' ลานโพธิ์นาเกลือ–เกาะล้าน 'ลอยกระทง ไม่ลงทะเล'
แม่ค้าลูกชิ้นทอดเผยชะตากรรม หลังจรวดเขมรถล่มเซเว่นฯ รายได้ตกต่ำ-ยังรอเงินเยียวยา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี