เรื่องหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ หากไม่มีปัญหาขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา และลากยาวมาจนถึงปัญหาสแกมเมอร์ ซึ่งทางการสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และเกาหลีใต้ กำลังเข้าไปสะสางปัญหาอย่างจริงจังในกัมพูชาอยู่ในเวลานี้ เราก็คงไม่มีวันได้รู้เลยว่า ระบบกลไกต่างๆ ในบ้านเราไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล นักการเมือง และภาครัฐไร้ประสิทธิภาพ อ่อนแอ และล้มเหลวแค่ไหน
ไม่ต้องไปดูอื่นไกลถึงสหรัฐฯ หรืออังกฤษแค่เกาหลีใต้ชาติในเอเชียด้วยกันก็พอจะมองเห็นภาพชัดว่า รัฐบาลเขานั้นให้ความสำคัญต่อคุณค่าชีวิตขนาดไหน หลังพบว่ามีพลเมืองตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมข้ามชาติในกัมพูชา และประสบชะตากรรมน่าสยดสยอง ทั้งสมาชิกรัฐสภา และรัฐบาล พร้อมใจกันแสดงปฏิกิริยาอย่างแข็งกร้าว ยกขึ้นเป็นปัญหาระดับชาติโดยไม่รั้งรอ
สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ ได้เสนอรัฐบาลให้ใช้มาตรการอย่างเข้มข้นจัดการกับกัมพูชาทันที ทั้งเสนอการคว่ำบาตร ส่งทีมพิเศษ นำโดยคิม จีนารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนที่ 2 พร้อมคณะ หอบข้อมูลบินด่วนเข้าพนมเปญ ปิดห้องคุยกับฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กดดันจนยอมพลิกลิ้นส่งตัว 64 เหยื่อสแกมเมอร์เขมร กลับภูมิลำเนาทันที
เท่านั้นยังไม่พอ รัฐบาลเกาหลีใต้ ออกคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุมเข้มโฆษณาการรับสมัครออนไลน์ในกัมพูชาอย่างเข้มงวด ยกระดับความร่วมมือกับต่างประเทศ รวมถึงประชาคมอาเซียนเพื่อไล่ยึดทรัพย์ คว่ำบาตรกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ และยังให้ทูตในต่างประเทศทั้ง 190 แห่งประเมินความเสี่ยง และจัดทำแผนที่เครือข่ายอาชญากรรมทั่วโลก
ที่น่าจับตาก็คือ ประธานาธิบดี อี แจ-มยองของเกาหลีใต้ ประกาศเตรียมนำเรื่องนี้ไปหารือในที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กำลังจะจัดขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่าง
วันที่ 23-28 ตุลาคมนี้ นี่คือความเข้มแข็งเอาจริงเอาจัง และเด็ดขาดของเกาหลีใต้ที่กล้าจะจัดการเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติในกัมพูชาที่ใหญ่สุดของเอเชีย
ตัดภาพมาที่ประเทศไทย จนถึงวันนี้เรายังเห็นพฤติกรรมวนเวียนซ้ำซากของนักการเมืองทะเลาะกันไม่เสร็จ แบ่งพรรคแบ่งพวก คิดแต่ช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง ทั้งๆ ที่กองกำลังทหารอีกฝ่ายหันปากกระบอกปืนใหญ่จ่ออยู่ตามแนวชายแดน ชาวบ้านยังนอนระทึกทุกคืน แต่เรากลับไม่เห็นความร้อนรนที่จะเข้าไปช่วยเหลือหรือจัดการปัญหาจากนักการเมืองเหล่านี้
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ตั้งแต่เกิดปัญหาข้อพิพาทเกิดขึ้น ฝ่ายผู้นำกัมพูชาไม่เคยแสดงความยำเกรง หรือเกรงกลัวใดๆ ต่อไทยเลย ทั้งที่เหนือกว่าทุกอย่าง มิหนำซ้ำยังแสดงความโอหัง เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องต่างๆ อย่างไม่แยแส และออกมาตอบโต้ข่มขู่แทบจะทุกวัน แต่ทีกับประเทศอื่น ทางผู้นำกัมพูชาได้แสดงในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับไทยโดยสิ้นเชิง
นี่คือภาพสะท้อนสองด้าน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามันได้ตอกย้ำความเชื่อของประชาชนส่วนหนึ่งที่ว่า ประเทศไทยมีนักการเมือง หรือกลุ่มผู้มีอำนาจเข้าไปมีส่วนพัวพันกับผลประโยชน์ของแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชาหรือไม่ ที่ผ่านๆ มา จึงไม่มีคนกล้าเข้าไปจัดการอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทำให้อีกฝ่ายเลยไม่เกรงอกเกรงใจ หรือเกรงกลัว
ขณะนี้ปัญหาสแกมเมอร์กัมพูชา กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังจับตา จึงเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ต้องกล้าแสดงความจริงจังเข้าร่วมกระชากหน้ากากกลุ่มที่เข้าไปมีผลประโยชน์จากแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติพวกนี้โดยไม่ลูบหน้าปะจมูก เพราะคนไทยเองก็ตกเป็นเหยื่อไม่น้อย แต่ถ้ายังเลือกที่จะเงียบต่อไป กลุ่มไทยเทาก็อาจจะทำไทยเน่ากันทั้งประเทศ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี