ข่าวดี ข่าวใหญ่สำหรับคนที่นิยมชมชอบอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่างร้องไชโยโห่ร้อง ร่วมแสดงความยินดีปรีดากันยกใหญ่กับข่าวอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กลับไปรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยชนะแบบไร้คู่แข่ง เพราะไม่มีใครลงแข่งชิงตำแหน่ง ทำให้อภิสิทธิ์ได้รับคะแนนสนับสนุนเกือบเต็มร้อย
เมื่ออภิสิทธิ์ได้กลับมาครั้งนี้ มีคำถามว่าอภิสิทธิ์จะสร้างจุดขายอะไรทางการเมืองให้พรรคประชาธิปัตย์ จนถึงกับทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องพากันเทคะแนนให้ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรคประชาธิปัตย์
ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงวิพากษ์เชิงตั้งคำถามว่า การที่อภิสิทธิ์ได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องแย่งคะแนนกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ สำหรับคำตอบเรื่องนี้ที่ออกจากปากคอการเมืองไทยว่าเลิกพูดถึงพรรคทั้งสองได้เลย เพราะหมดยุค คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) แล้ว แต่ที่สำคัญ คือ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีทางหวนคืนสู่สนามการเมืองอีกต่อไป ส่วนประวิตร วงษ์สุวรรณก็ไม่น่าจะมีอิทธิฤทธิ์ทางการเมืองอีก เพราะเมื่อ คสช. หมดอำนาจก็หมายความว่าอำนาจของประวิตรก็หมดไปโดยปริยาย
เดิมพันการเมืองของอภิสิทธิ์ในครั้งนี้นับว่าสูงมาก เพราะบริบทการเมืองในวันนี้กับวันเก่าแตกต่างกันมากเหลือเกิน และที่สำคัญคือพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกมองว่าเป็นอนุรักษ์นิยม ก็มีคู่แข่งที่น่ากลัวคือพรรคภูมิใจไทย เพราะภูมิใจไทยก็ดำเนินกลยุทธ์การเมืองแบบอนุรักษ์นิยมเช่นกัน แม้ภาพของอภิสิทธิ์จะดีกว่า ขาวกว่า สะอาดกว่าอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ก็มีคำถามว่ากระสุนการเมืองระหว่างสองคนนี้ ใครมีมากกว่ากัน คำตอบนี้ตอบได้ชัดเจนคือภูมิใจไทยมีกระสุนการเมืองมากกว่าประชาธิปัตย์ และไม่มีวันที่อภิสิทธิ์จะใช้กระสุนการเมืองมากมายเหมือนอนุทิน คำถามตามมาคือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สส. จะยังยึดมั่นในอุดมการณ์การเมือง หรือยึดมั่นในกระสุนการเมือง
แน่นอนว่าอภิสิทธิ์มีจุดยืนการเมืองที่มั่นคงมาก และไม่มีวันที่อภิสิทธิ์จะเปลี่ยนจุดยืนการเมืองโดยง่าย เรื่องนี้คือจุดดีที่สุดของอภิสิทธิ์ ถึงแม้อภิสิทธิ์จะรู้ดีว่า ต่อให้เขาแพ้การเลือกตั้งในปี 2562 เพราะอภิสิทธิ์ประกาศชัดเจนว่าไม่เอาประยุทธ์ และไม่เอา คสช. การประกาศชัดเจนของอภิสิทธิ์ในครั้งนั้นทำให้แม่ยก คสช. ตัดสินใจไม่เลือกประชาธิปัตย์ แต่ขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังถูกพรรคอนาคตใหม่ (ก้าวไกล) แย่งคะแนนจากคนรุ่นใหม่ที่เป็น new voters ไปจำนวนมาก แถมยังเสียคะแนนจากกลุ่มแม่ยกที่ใจหนึ่งก็รักอภิสิทธิ์ แต่อีกใจหนึ่งก็ลุ่มหลงประยุทธ์ แล้วสุดท้ายแม่ยกที่เคยรักอภิสิทธิ์ก็จำต้องหักใจเทคะแนนให้ประยุทธ์ จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์หมดโอกาสเป็นรัฐบาลตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา
อย่าลืมว่าพรรคประชาธิปัตย์เคยได้เป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในยุคชวน หลีกภัย และต่อมาในยุคอภิสิทธิ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ถูกวิพากษ์อย่างรุนแรงว่าเป็นนายกรัฐมนตรีจากค่ายทหาร แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ถูกเสียดสีมาโดยตลอดว่าไม่เคยชนะพรรคการเมืองของทักษิณ ชินวัตร คือพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย แต่มาล่าสุดพรรคของทักษิณก็แพ้พรรคก้าวไกล (ประชาชน) ดังนั้น คำถามสำคัญคือในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์จะมีปัญญาเอาชนะพรรคประชาชนได้หรือ
อย่างไรก็ตาม เมื่ออภิสิทธิ์ตัดสินใจกลับเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ก็ย่อมหมายความว่า คนชื่ออภิสิทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องมีกลเม็ดเด็ดที่จะนำพาให้ประชาธิปัตย์กลับมาฉายแสงแวววาวบนเวทีการเมืองไทยให้ได้ เพราะอย่างน้อยอภิสิทธิ์ก็ไม่เคยมีเรื่องเสียหายในประเด็นทุจริตคอร์รัปชั่น แต่คำถามทิ้งท้ายคือ แล้วอภิสิทธิ์จะสามารถเอาชนะพวกที่ทุจริตเลือกตั้งได้หรือ แล้วยังมีอีกคำถามคือ อภิสิทธิ์จะเอาชนะพรรคประชาชนได้หรือ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี