น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลือกที่จะอ้างเหตุผลในแถลงการณ์ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอย่างสวยหรูดูดีว่าเป็นความตั้งใจ และจำเป็นต้องเริ่มต้นยกเครื่อง พลิกโฉม เปลี่ยนโครงสร้าง กระบวนการ และวิธีคิดใหม่ทั้งหมด เพื่อให้พรรคสามารถชนะเลือกตั้ง แล้วไปยกเครื่อง พลิกฟื้นประเทศไทยต่อไป

แม้การลาออกครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติและฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุนเซน กลัวว่า หากลงนามรับรองการส่งผู้สมัคร สส. อาจถูกร้องเรียนจนเกิดปัญหานิติสงครามขึ้นในอนาคต

แต่ในความเป็นจริงนั้น นี่คือการดิ้นรนเพื่อสร้างทางรอดให้กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป จากการบริหารงานที่ล้มเหลว และไร้ความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ในช่วง เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ความอื้อฉาวคดีป่วยทิพย์ชั้น 14 โดยเฉพาะหลังเกิดกรณีคลิปเสียงฮุนเซน ได้ก่อวิกฤตศรัทธาต่อน.ส.แพทองธาร และตระกูลชินวัตร อย่างรุนแรง

วิกฤตศรัทธาทางการเมือง เป็นเรื่องที่น่ากลัว เหมือนที่น.ส.แพทองธาร และคนในตระกูลชินวัตรกำลังประสบอยู่ในเวลานี้ ต้องยอมรับว่า ในบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ที่กำลังแข่งขันกันจัดทัพรับศึกเลือกตั้งในอีก 2-3 เดือนเศษนี้น.ส.แพทองธาร มีจุดอ่อนและคะแนนนิยมดำดิ่งมากกว่าใคร เรียกได้ว่ามีแต่จุดตาย แทบจะไม่มีจุดขายทางการเมืองเอาเสียเลย

แล้วยิ่งมาเจอสถานการณ์ทางการเมืองที่ตกอยู่สภาวะเปราะบาง ไม่รู้จะยุบสภาเลือกตั้งใหม่กันวันไหน ดังนั้นโอกาสนี้จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย เพื่อดิ้นหนีความล่มสลายทางการเมืองของตระกูลชินวัตร อย่างน้อยๆต้องพยายามลบภาพจำหรือตัดตอนพรรคเพื่อไทยออกจากคลิปเสียงให้ได้มากที่สุดภายในระยะเวลาที่มีอย่างจำกัด ก่อนระฆังยุบสภาจะดังขึ้น

ประเด็นที่น่าสนใจ แม้น.ส.แพทองธารลาออกเพื่อปลดล็อกให้มีการยกเครื่องก็จริง แต่ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คำถามตามมาอีกก็คือ ใครจะเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง ให้สเปกคร่าวๆว่า เป็นคนในพรรค แต่ไม่ได้อยู่ในตระกูลชินวัตร

ตอนนี้โฟกัสพุ่งจับไปที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสงอดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ขณะเดียวกันชื่อของนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายคนโตของนายสมชาย-นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รวมทั้งนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี น.ส.พินทองทาชินวัตร ก็ยังอยู่ในเกมหากจะเล่นกับกระแสคนรุ่นใหม่

ผลชี้ขาดแพ้-ชนะการเลือกตั้งอันใกล้นี้ นอกจากปัจจัยทั้งเรื่องกระแส กระสุน นโยบาย และสื่อออนไลน์ต้องพร้อมรบในมือแล้ว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็เป็นตัวแปรสำคัญด้วยเหมือนกัน
หากวัดกันตัวต่อตัวตอนนี้ ยังไม่มีใครโดดเด่นเหนือใครมากนัก แม้แต่สำนักนิด้าโพลก็ชี้ว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี

นี่คือโจทย์ใหญ่สำคัญของพรรคเพื่อไทยที่กำลังถูกจับตาว่า การยกเครื่องพรรคครั้งนี้จะช่วยแก้ไขภาพลักษณ์ที่ตกต่ำได้แค่ไหน ใครจะมาเป็นผู้นำคนใหม่ แม้จะใช่หรือไม่ใช่คนในตระกูลชินวัตร แต่ถ้าคนกุมอำนาจเป็นคนเดิม หรือหัวหน้าครอบครัวยังใหญ่กว่าหัวหน้าพรรค แม้จะเปลี่ยนอีกสักกี่หัวก็คงจะปลุกไม่ขึ้น เพราะสุดท้ายมันก็แค่เปลี่ยนตัวหุ่นเชิดเท่านั้นเอง