วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
สงสัยมานานว่า ทำไมนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์บางรายถึงใช้สิงคโปร์ ฮ่องกง กัมพูชา เป็นที่พบปะเจรจาธุรกิจการเงินการค้า และ พบปะสั่งการสมุนบริวารในประเทศเหล่านั้น
หลังจากได้อ่านรายงานพิเศษของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเรื่อง“ผู้ต้องหาคนสำคัญสร้างอาณาจักรจากกัมพูชาถึงลอนดอนได้อย่างไร”ทำให้เราเข้าใจได้ว่า ทำไมผู้มีอิทธิพลบารมีในเมืองไทยจึงมักเดินทางไปฮ่องกง สิงคโปร์ และกัมพูชา
รายงานของ บลูมเบิร์ก ได้ให้รายละเอียดถึงวิธีสร้างคอนเนคชั่นกับผู้มีอิทธิพลทางการเมืองของนายเฉิน จื้อผู้ก่อตั้งและเป็นประธาน Prince Holding Group ที่ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐ ฟ้องยึดบิตคอยน์ มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5 แสนล้านบาท) ฐานค้ามนุษย์ที่เกี่ยวพันกับไซเบอร์สแกมที่เขาเป็นเจ้าของ
การแซงก์ชั่นของสหรัฐ เมื่อกลางเดือนตุลาคม กระตุ้นให้หลายประเทศ ตรวจสอบธุรกรรมการเงิน เครือข่ายปรินซ์กรุ๊ป ของนายเฉิน จื้อ โดยเฉพาะสิงคโปร์ ที่ได้ชื่อว่าไม่ทนต่อคอร์รัปชั่นและอาชญากรรม ที่น่าประหลาดใจ คือ นายเฉิน จื้อ ทำธุรกิจหลายอย่างบังหน้าฟอกเงิน และ ใช้สิงคโปร์ เป็นฐานปฏิบัติการมานานหลายปีโดยที่เจ้าหน้าที่สิงคโปร์ไม่ระแคะระคายว่า อาชญากรรมข้ามชาติตัวสำคัญมีบ้าน มีเมีย มีลูก สามคนอยู่ที่นั่น
มาดูกันว่าบลูมเบิร์ก รายงานอย่างไร..บลูมเบิร์ก เปิดฉากว่า ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในกรุงพนมเปญเมื่อสามปีก่อน นายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ให้ของขวัญผู้นำโลกในขณะนั้น รวมทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นนาฬิกาข้อมือหรู Lotus Tourbillon ผลิตในกัมพูชา นาฬิกาแต่ละเรือนฝังเพชรพลอย 25 เม็ด พร้อม สลักโลโก้รูปมงกุฎของ บริษัทปรินซ์โฮลดิง กรุ๊ป บนนาฬิกา
ประธานาธิบดี ไบเดน ได้รับนาฬิกามาแล้วส่งมอบให้กับหอจดหมายเหตุแห่งชาติพร้อมกับสิ่งของอื่นๆ มูลค่ารวมกัน 1,790 ดอลลาร์
นาฬิกาซึ่งได้รับการออกแบบและประกอบโดยโรงเรียนทำนาฬิกาที่ปรินซ์กรุ๊ปเป็นผู้ก่อตั้ง แสดงให้เห็นว่า เฉิน จื้อ ประธานบริษัท ชาวจีนคนนี้ก้าวเข้าสู่แวดวงอิทธิพลโลกได้อย่างไร เฉิน จื้อ วัย 37 ปี พิถีพิถันสร้างภาพลักษณ์ทำทั้งงานการกุศล และสร้างคอนเนคชั่นกับบุคคลและองค์กรสำคัญ
เขาสะสมทรัพย์สินตั้งแต่อาคารสำนักงานในลอนดอน ไปถึงอพาร์ทเมนท์หรูในสิงคโปร์และไต้หวัน ดูแลอาณาจักรธุรกิจขยายกว้างไกลตั้งแต่ชายหาดของปาเลาไปถึงศูนย์กลางการเงินอย่างฮ่องกง
เฉิน จื้อ เริ่มลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาเมื่อปี 2011 ต่อมาปรินซ์กรุ๊ป ของเขาขยายกิจการด้านเอ็นเตอร์เทนเมนท์ด้านการเงิน แม้กระทั่งสายการบิน เมื่อเวลาผ่านไปเขากลายเป็น ที่ปรึกษาให้ ฮุนเซน รวมถึง ฮุน มาเนต บุตรชายผู้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีปัจจุบัน
การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ในพนมเปญเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 นาฬิกาหรูผลิตโดยโรงเรียนทำนาฬิกาของปรินซ์กรุ๊ป ถูกมอบเป็นของขวัญให้ผู้นำ รวมถึง นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา และนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย มีบันทึกว่า ทรูโดส่งมอบนาฬิกาให้รัฐบาล ส่วนอัลบาเนซีไม่รับของขวัญ
ในคำฟ้องของอัยการสหรัฐตอนหนึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสชาวต่างชาติรายหนึ่ง ผู้ได้รับนาฬิกาหรูมูลค่าหลายล้านดอลลาร์จากเฉิน ช่วยให้เขาได้หนังสือเดินทางทูตที่เฉิน ใช้เดินทางไปสหรัฐในเดือนเมษายน 2023
เฉิน จื้อ ลงหลักปักฐานในสิงคโปร์ ปี 2017 เขาทุ่มเงินเกือบ 40 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูรวมถึงเพนท์เฮ้าส์ 17 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ที่เกรเมอร์ซีพาร์คใกล้ย่านช้อปปิ้งถนนออร์ชาร์ด
ผู้คุ้นเคยเขาไม่เปิดเผยตัวตนสองคน เผยว่าห้องสูท 16.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ที่คอนโด Le Nouvel Ardmore กลายเป็นศูนย์กลางกิจกรรม อพาร์ทเมนท์แห่งนี้มีห้องเก็บไวน์ และเห็นวิวสิงคโปร์แบบพาโนรามา ถูกแปลงเป็นคลับเฮ้าส์สำหรับ“ดีล”ธุรกิจ มีพื้นที่สำหรับร้องคาราโอเกะ สูบซิการ์
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่าเฉิน จื้อ ไปไหนมาไหนในสิงคโปร์ด้วยรถหรู เช่น Mercedes-Maybach สีดำทะเบียน 5555 กลุ่มนี้จัดงานปาร์ตี้บ่อยครั้ง รวมถึงบน NONNI II เรือยอชต์สุดหรูจอดอยู่ ที่รีสอร์ทเซ็นโตซา
ปี 2018 เฉิน จื้อ ก่อตั้งสำนักงานครอบครัว และ DW Capital Holding ขึ้นในสิงคโปร์ อ้างว่าเพื่อจัดการสินทรัพย์กว่า 60 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เว็บไซต์ครอบครัวสำนักงานของเขาในสิงคโปร์เคยให้คำนิยาม “เฉินนักธุรกิจหนุ่มผู้อัจฉริยะ”ผู้เริ่มจัดตั้งเกมมิ่งเซ็นเตอร์ในเมืองฝูโจว
แต่ส่วนหนึ่งในคำฟ้องของอัยการสหรัฐ ระบุว่าเฉิน จื้อ เกิดในมณฑลฟูเฉียน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนเมื่อปี 1987 ต่อมาเขาสละสัญชาติจีน และปัจจุบันถือหนังสือเดินทางไซปรัส และวานูอาตูรวมทั้งหนังสือเดินทางกัมพูชา
เฉิน จื้อ แต่งตั้ง คาเรน เฉิน ซิ่วหลิง ผู้ช่วยคนสนิทเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน DW แคปิตอล พลเมืองสิงคโปร์ หนึ่งในสามคนที่คุ้นเคยกับคาเรน ถูกสหรัฐคว่ำบาตร เนื่องจากพัวพันกับคาเรน นอกจากนั้น เฉิน จื้อ กับพวกยังตั้งบริษัทปล่อยสินเชื่อรถยนต์ในสิงคโปร์ชื่อสกายไลน์อินเวสท์เมนท์
ในย่านชานเมืองบริษัทหลายแห่งที่เฉิน จื้อ ควบคุมเปิดโคเวิร์กกิ่งสเปซแห่งหนึ่งเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานชิมเตกิลาให้ทูตเม็กซิโกด้วยและเฉิน จื้อ มีคลังสินค้าเก็บชาวิสกี้ ซิการ์ ที่ได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
แม้แต่วันที่ข่าวการตั้งข้อหาของสหรัฐถูกเผยแพร่ออกมา สำนักงานครอบครัวของเฉิน จื้อ ยังประกาศรับสมัคร ผู้ช่วยส่วนตัว ทำหน้าที่หลายอย่าง รวมทั้งซื้อของชำ รับส่งเด็กๆ ไป-กลับโรงเรียน ด้วยค่าจ้างมากถึง 5,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 136,670 บาท) ต่อเดือน
ผู้คุ้นกับเขาบอกว่า เฉิน จื้อ แต่งงานและมีลูกสามคนตั้งรกรากอยู่ในสิงคโปร์
นอกจากนั้น เฉิน จื้อ มีทรัพย์สินในเมืองใหญ่อื่นๆด้วย ที่ลอนดอน ทางทหารอังกฤษอายัดทรัพย์ของเขาสกัดไม่ให้ เฉิน จื้อ และเครือข่ายเข้าถึงระบบการเงิน สินทรัพย์ของเฉิน เช่น อาคารสำนักงานมูลค่า 100 ล้านปอนด์บนถนนเฟนเชิร์ช ใจกลางการเงินเก่า พร้อมด้วยคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์และแฟลต 17 ยูนิต บนถนนนิวออกซฟอร์ด และในไนน์เอล์มส ทางตอนใต้ของลอนดอน
ในไต้หวัน ปรินซ์กรุ๊ป ซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูมูลค่าราว 3.8 พันล้านดอลลาร์ ในไทเป ระหว่างเดือนเมษายน-พฤศจิกายน 2019 ในเกาะ ฮ่องกง เฉิน จื้อ และกลุ่มของเขาบริหารทรัพย์สินกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐรวมทั้งหุ้นอสังหาริมทรัพย์ในย่านช้อปปิ้งชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง
เฉิน จื้อ คือ ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจตัดสินใจในสองบริษัทจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ได้แก่ จีโอเทคโฮลดิงส์ บริษัทก่อสร้าง และ Khoon Group ผู้ให้บริการเครื่องกลและไฟฟ้าในสิงคโปร์ ทั้งสองบริษัทอยู่ในบัญชีถูกทางการสหรัฐคว่ำบาตร หุ้นทั้งสองตัวมูลค่ารวมกันราว 141 ล้านดอลลาร์
ทั้ง จีโอเทค และ Khoon Group ต่างแถลง เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ว่า พวกเขา “กำลังเร่งหาคำแนะนำทางกฎหมายเกี่ยวกับการถูกคว่ำบาตร” และกำลังจับตาสถานการณ์
สำนักข่าว CNA ของสิงคโปร์รายงานว่า วันที่4 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ฮ่องกงอายัดทรัพย์สิน เฉิน จื้อมูลค่า 354 ดอลลาร์สหรัฐ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ปรินซ์กรุ๊ปบริหารโดย เฉิน จื้อ ผู้ประกอบการชาวจีนถือสัญชาติกัมพูชา ที่ถูกสหรัฐอเมริกาแซงก์ชั่น ฐานพัวพันอาชญากรรมข้ามชาติ
“ปรินซ์กรุ๊ปและ เฉิน จื้อ เป็นที่รู้จักมานานหลายปีแล้ว”มอร์แกน สตาร์ก หัวหน้าแผนกเอเชียบริษัท เอส-อาร์เอ็มอินเทลลิเจนซ์ แอนด์ ริสก์ คอนซัลติง ในฮ่องกงกล่าว และเสริมว่า นี่ทำให้เกิดคำถามว่า กลุ่ม“ดำเนินการโดยไม่มีใครสังเกต”มานานได้อย่างไร
ตำรวจสิงคโปร์กล่าวว่า พวกเขาได้รับข่าวกรองปี 2024 เรื่องธุรกรรมการเงินต้องสงสัย จึงติดต่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจต่างชาติ แต่ข้อมูลเพิ่มเติมจากแถลงการณ์ของสหรัฐ และอังกฤษเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม. กระตุ้นให้พวกเขาต้องดำเนินการ
ตำรวจสิงคโปร์ได้รับข่าวกรอง ธุรกรรมการเงินผิดปกติตั้งปี 2024 แต่เพิ่งจับผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้า 17 คนและออกหมายจับผู้ต้องหา 35 คน ที่ออกจากสิงคโปร์ไปแล้วข้อหาเกี่ยวข้อง สแกมเมอร์ในกัมพูชา ตำรวจสิงคโปร์บังคับใช้กฎหมาย หลายวันหลังจากสหรัฐ ริบทรัพย์เฉิน จื้อ
นอกจากสิงคโปร์ หน่วยงานอื่นๆ ในเอเชียกำลังสอบสวนเฉิน จื้อ และเครือข่าย สำนักงานอัยการแขวงไทเป กล่าวว่า รู้เรื่องจากรายงานข่าวของสื่อมวลชนจึงเปิดคดีสอบสวนทันที ตำรวจฮ่องกงกล่าว โดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่า กำลังรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อปราบปรามการฉ้อโกง
ด้านโฆษกรัฐบาลกัมพูชา ไม่ได้ให้ความเห็นกับบลูมเบิร์ก แต่อ้างความเห็นจาก เจีย เสรี ผู้ว่าการธนาคารกลางกัมพูชาแทน เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เจีย เสรี ได้พูด กว้างๆ ในฟอรัมของบลูมเบิร์กว่า กัมพูชาไม่ควรถูกมองเป็น“ศูนย์กลางสแกมเมอร์”การเรียกแบบนี้ ทำให้ประเทศเสียหาย
พิเคราะห์จากรายงานของบลูมเบิร์ก พบว่า ทั้งอังกฤษ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และกัมพูชา ไม่ได้สนใจตรวจสอบไซเบอร์สแกมอย่างจริงจัง จนกระทั่งสหรัฐแซงก์ชั่นยึดทรัพย์ เฉิน จื้อ ประเทศและเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เจ้าพ่อสแกมเมอร์ไปลงทุนทำธุรกิจ ทุ่มเงินซื้อทรัพย์สินเพื่อฟอกเงินเพิ่งตื่นจากภวังค์ ลุกขึ้นมาตรวจสอบเครือข่ายสแกมขึงขังจริงจัง
จากพฤติกรรมทั้งหมด ที่บลูมเบิร์กรายงาน ทำให้เราเข้าใจได้ว่า ทำไมนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์บางรายถึงมักชอบไปสิงคโปร์ ฮ่องกง และกัมพูชา
สุทิน วรรณบวร

‘รมว.ศธ.’ห่วงใยสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ กำชับเฝ้าระวัง 24 ชม. ดูแลครู-นักเรียนใกล้ชิด
นายกฯเตรียมลงพื้นที่ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี ให้กำลังใจกำลังพลพรุ่งนี้
'สส.ท็อป-สส.ยอร์ช'มอบถุงยังชีพ อธิบายเส้นทางน้ำจาก'เหนือ'ออก'อ่าวไทย'
'อนุทิน'ลั่น! เนรเทศด่วน ผู้ลักลอบเข้าเมือง ย้ำชัด'ไทยไม่ใช่พื้นที่พักพิงอาชญากรข้ามชาติ'
เรื่องราว‘ทีมหมอนทอง’ โมเดล-ต่อยอด สร้างความสมัครสมานสามัคคี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี