วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนภาคใต้ ที่ประสบอุทกภัย โดยพระราชทานเงินส่วนพระองค์แก่ผู้เสียชีวิตรายละ 20,000 บาท และทรงรับศพผู้เสียชีวิตทุกรายไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ (พระราชทานเพลิงศพสำหรับชาวพุทธ และพระราชทานดินฝังศพสำหรับชาวมุสลิม)หลังจากที่ก่อนหน้านี้พระองค์ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ 100 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ทดแทนที่เสียหายจากน้ำท่วม พระราชทานโดรน ให้แก่กองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อใช้ในภารกิจบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ พระราชทานถุงยังชีพ ตลอดจนอาหารจากโรงครัวพระราชทานที่เข้าไปถึงพื้นที่ประสบภัยตั้งแต่ช่วงแรก นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ ความทุกข์ความเดือดร้อนของพสกนิกร อยู่ในสายพระเนตรของพระองค์เสมอ
...nn สถานการณ์น้ำท่าหาดใหญ่ ลดลงพ้นวิกฤตแล้ว จากนี้ไปก็เข้าสู่ช่วงของการฟื้นฟูเมือง และเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่างๆ ไฟฟ้า ประปา สัญญาณอินเตอร์เนต เริ่มกลับมาใช้ได้ แม้จะยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่ก็ถือว่าทุกที่มีแนวโน้มที่ดี
...nn แต่ที่รวดเร็วทันใจ ก็คือ เงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 โอนเข้าบัญชีผู้ประสบภัยเรียบร้อยแล้วในวันแรก(1 ธันวาคม) 3 จังหวัดคือ สงขลา สตูล ปัตตานี 26,571 ครัวเรือน เป็นเงิน239 ล้านบาท ทำดีแบบนี้ก็ต้องวันต่อมา (2 ธันวาคม) โอนเพิ่มอีก 4 จังหวัด คือ สงขลา สตูล นราธิวาส ปัตตานี 97,466ครัวเรือน
...nn ระดับนโยบายตัดสินใจรวดเร็ว แต่ระดับปฏิบัติยังทำตัวเป็นไดโนเสาร์เหมือนเดิม ขนาดมีหนังสือแจ้งชัดจาก “ธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สั่งการให้ 9 จังหวัดที่ประสบอุทกภัย ประกอบด้วย สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เร่งรัดการให้ความช่วยเหลือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้รับการเยียวยาอย่างรวดเร็ว โดยใช้แค่เลขบัตรประจำตัวประชาชน (ID) และหมายเลขบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน แต่พอถึงหน้างานชาวบ้านก็ยังไปเจอกับระบบราชการเชื่องช้าเหมือนเดิม
...nn อย่างที่เทศบาลนครหาดใหญ่ ชาวบ้านไปเข้าแถวรอคิวตั้งแต่เช้า ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยันว่าต้องใช้ทั้งหนังสือคำร้อง สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านเหมือนเดิม “นายพริบพรี” เห็นว่าเรื่องนี้ถือว่าเป็น “ความล้มเหลวอย่างมหันต์” เสร็จจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ารอบนี้ไปได้ นอกจากเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ใหม่แล้ว ถึงเวลาต้องผ่าตัดระบบราชการกันอย่างจริงจังเสียที นอกจากเปลี่ยนโครงสร้างจัดสมดุลอำนาจส่วนกลางส่วนท้องถิ่นใหม่แล้ว หน่วยงานเจ้าหน้าที่หน้างาน ที่ต้องให้บริการกับประชาชน ก็ต้องเปลี่ยนมายเซ็ทใหม่กันให้ได้
...nn ใกล้เข้ามาแล้ว พิธีเปิดกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 หลายคนบ่นมาว่า ทำไมเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกังวลกันว่าไทยพร้อมจะเป็นเจ้าภาพจริงๆ หรือไม่ล่าสุด “อรรถกร ศิริลัทธยากร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่าพิธีเปิดในวันที่ 9 ธันวาคมนี้จะได้พิธีเปิดอย่างสมเกียรติประเทศไทยแน่นอน ส่วนกีฬา10 ประเภท ที่มีโปรแกรมแข่งขันที่จ.สงขลา ก็ได้เปลี่ยนสถานที่มาแข่งขันที่กรุงเทพฯ และชลบุรี เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามคอกีฬาที่รอติดตามด้วยความเป็นห่วงหลายคนฝากติงมาว่า ตอนนี้แม้แต่เพลงประจำการแข่งขันก็ยังไม่ได้ฟังกันเลย ฝากรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดูแลด้วย...nn
นายพริบพรี


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี