สภาพทีมมีปัญหาบานตะไท ลิเวอร์พูล ยังต้องเช็คฟิตทั้ง ฟาบินโญ่ กับ ธิอาโก้ เพื่อลงดวลบิ๊กแมทช์กับ เลสเตอร์ ซิตี้
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์นี้มีเกมการดวลแข้งกัน 4 คู่ 4 เวลา ตั้งแต่หัวค่ำๆ 19.00 น. ยาวไปจนถึงจบคู่สุดท้ายกว่าตี 4 ซึ่งเป็นโปรเจกท์ใหม่แบบ“นิว นอร์มอล” ของวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่ปรากฏในช่วงของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปรีวิวการดวลแข้งทั้ง4 คู่มีดังนี้
19.00 น. ฟูแล่ม-เอฟเวอร์ตัน : “เจ้าสัวน้อย” ทีมน้องใหม่รั้งอันดับ 17 ของตาราง ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ไป 6 เกม มีแค่ 4 คะแนน นัดล่าสุดออกไปพ่ายให้ เวสต์แฮม แบบน่าเจ็บใจได้จุดโทษทดเจ็บ แต่ อเดโมล่า ลุคแมน ไปโชว์เหนือยิงแบบพาเนนก้าเข้ามือโกล์คู่แข่งแบบเบาหวิว
เกมนี้ยังไม่มีตัวริมเส้นอย่าง อบูบาการ์ กามาร่า ที่ยังติดโทษแบน ส่วน จอช โอโนมาห์ และเทเรนซ์ คองโกโล่ มีอาการบาดเจ็บ ในรายของ มาริโอ เลมิน่า ต้องเช็คความฟิต ถ้าเล่นไม่ได้ แฮริสัน รีด จะลงไปคุมแดนกลางร่วมกับ อังเดร-ฟร้องซ์ ซามโบ้ อองกิสซ่า ตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร มี ทอม เครนีย์ คอยออกบอลให้กับหน้าเป้าอย่าง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
ทีมเยือน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ที่เริ่มขำไม่ออกกับผลงานช่วงหลังแพ้มา 3 เกมติด แม้ว่าก่อนหน้านี้จะออกสตาร์ทได้อย่างร้อนแรงนัดนี้มีข่าวดีเมื่อจะได้ ริชาร์ลิซอน แนวรุกคนสำคัญพ้นโทษแบนพร้อมกลับมาช่วยทีม ทำให้เกมรุกน่าจะสมดุลขึ้นเมื่อจะได้เล่นเป็น 3 ประสานกับ ฮาเมส โรดริเกซ และ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิ่น
อย่างไรก็ตาม แบ๊กขวา เซมุส โคลแมน ยังบาดเจ็บอยู่ ส่วนแผงกลางจะกลับมาใช้ 3 ตัวหลักเดิมคือ อัลลัน เล่นร่วมกับ อับดูลาย ดูคูเร่ และอังเดร โกเมซ
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม ฟูแล่ม (4-2-3-1) : อัลฟงส์ อเรโอล่า - โอล่า ไอน่า, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น,โทซิน อดาราบิโอโย่, แอนโทนี่ โรบินสัน-แฮร์ริสัน รีด, อังเดรอังกีสซ่า-บ็อบบี้ เด คอร์โดว่า รีด, ทอม แคร์นีย์, อเดโมล่าลุคแมน-อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - จอนโจ้ เคนนี่, เยอร์รี่ มิน่า, ไมเคิ่ล คีน, ลูก้า ดีญ - อับดูลาย ดูกูเร่,อัลลัน, อังเดร โกเมส-ฮาเมส โรดริเกวซ, ริชาร์ลิซอน และโดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน
เบรแดน ร็อดเจอร์ส จะกลับมาเยือนถิ่นแอนฟิลด์อีกครั้ง วัดฝีมือกับ เจอร์เก้น คล็อปป์
21.00 น. เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด : “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ในปีนี้กำลังเจอบททดสอบสุดสำคัญบนลีกสูงสูงของฤดูกาลที่สอง เมื่อเล่นไป 8 เกม ยังไม่ชนะใครเลย เสมอ 1แพ้ไป 7 มีแต้มเดียวรั้งบ๊วยของตาราง เกมนี้ไม่มี แจ็ค โอคอนเนลล์แนวรับที่บาดเจ็บ ที่เหลือรอเช็คความฟิตของตัวหลักบางรายโดยเฉพาะ จอช บัลด็อก ที่พลาดเกมทีมชาติ แต่หลักๆ แล้วยังคงนำทัพโดย จอห์น อีแกน, จอห์น ลุนด์สสแตรม, ซานเดอร์เบอร์เก้, เดวิด แม็ค โกลดริค และโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่
ทีมเยือน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่รั้งอันดับ 12 ของตาราง ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 3 เกมนี้ไม่มี อันเดรย์ ยาร์โมเลนโก้ตัวรุกยูเครนที่ไปติดไวรัสโควิด-19 จากเกมทีมชาติ ส่วนข่าวดีมีลุ้นจะได้ มิคาอิล อันโตนิโอ หายเจ็บกลับมา พร้อมลงไปมั่วในตำแหน่งหน้าเป้า ในสไตล์ชนแหลก นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร วาง เดแคลน ไรซ์ และโทมัส ซูเซ็ค ตัดเกมแดนกลาง อาศัยความปราดเปรียวของแนวรุกอย่าง จาร็อด โบเว่น และซาอิดเบนราห์ม่า คอยสร้างสรรค์เกม
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : แอรอน แรมส์เดล-คริส บาแชม, จอห์น เอแกน, แจ็ค โรบินสัน-จอร์จ บัลด็อค, จอห์น ลุนด์สแตรม,อีธาน อัมปาดู, ซานเดอร์ เบอร์เก้, แม็กซ์ โลว์-เดวิด แม็ค โกลดริคและโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่
เวสต์แฮม (5-4-1) : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้-วลาดิเมียร์ ซูฟัล, ฟาเบียน บัลบูเอน่า, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, แอรอนเครสส์เวลล์, อาร์กตูร์ มาซูอากู-จาร์ร็อด โบเว่น, โทมัส ซูเช็ค, ดีแคลน ไรซ์, ซาอิด เบนราห์มา และมิคาอิล อันโตนิโอ
23.00 น. ลีดส์ ยูไนเต็ด-อาร์เซนอล : “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้มา 2 นัดติดต่อกัน แถมเสียไปถึง 8 ประตูใน2 เกมที่ผ่านมาด้วย เกมนี้ยังไม่มี ดิเอโก้ ญอเรนเต้ และปาโบล เอร์นานเดซ ที่บาดเจ็บ แต่ข่าวดีน่าจะได้ คาลวินฟิลลิปส์ แดนกลางคนสำคัญหายเจ็บกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ถือว่าไม่มีปัญหาอะไรพร้อมรบทั้งหมด วาง แจ็ค แฮริสัน และเอแดร์ คอสต้า คอยขึ้นเกมริมเส้นโยนบอลให้เป้าอย่าง แพทริค แบมฟอร์ด
มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซนอล จะนำทีมบุกไปเยือน ลีดส์ ในสถานการณ์ฟอร์มหลังที่ไม่ค่อยต่างกัน
ทีมเยือน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ที่ก่อนพักเบรกทีมชาติพ่ายให้กับ แอสตัน วิลล่า แบบหมดรูปคารังของตัวเอง 0-3 ไม่มี เซอัด โคลาซินัค และโมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ที่ไปติดไวรัสโควิด-19 จากการรับใช้ชาติ ส่วน วิลเลี่ยน แอบไปพักผ่อนที่ดูไบต้องกักตัว ในรายของ โธมัส ปาร์เตย์ มีอาการบาดเจ็บ คาดว่า มิเกล อาร์เตต้า
ยังยึดระบบ 3-4-3 เหมือนเดิม เปลี่ยนคู่กลางมาใช้ ดานี่ เซบาญอสเล่นกับกรานิต ชาก้า แนวรุกมี นิโคลัส เปเป้, อเล็กซองดร์ลากาแซตต์ และปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมยัง เป็นสามประสาน
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-1-4-1) : อิลลาน เมซิเย่ร์, ลุค อายลิ่ง, โรบิน ค็อค,เลียม คูเปอร์, สจ๊วจ ดัลลาส, คาลวิน ฟิลิปป์ส, เอลแดร์ คอสต้า,โรดรีโก้ โมเรโน่, มาเตอุสซ์ คลิค, แจ็ค แฮริสัน และแพทริค แบมฟอร์ด
อาร์เซนอล (3-4-3) : แบรนด์ เลโน่, ดาวิด ลุยซ์,กาเบรี่ยล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นีย์, เอคตอร์ เบเญริน, ดานี่เซบาญอส, กรานิต ชาก้า, บูกาโย่ ซาก้า, นิโคลัส เปเป้,อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ และปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมยัง
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด อาร์เซนอล เหนือกว่าเยอะพวกเขาไม่เคยปราชัยให้กับ ลีดส์ฯ เลย โดยชนะได้ถึง 4 และเสมอ 1 เจอกันหนล่าสุดในเกมเอฟเอ คัพ เมื่อซีซั่นที่แล้ว “ปืนใหญ่” เฉือน 1-0
02.15 น. ลิเวอร์พูล-เลสเตอร์ ซิตี้ : เกมบิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์เตะในวันอาทิตย์เป็นคู่ดึกสุด แชมป์เก่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของทีมฟอร์มแรงอย่าง “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งยืนเป็นจ่าฝูงก่อนจะเปิดแมทช์เดย์นี้
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ ลิเวอร์พูล ออกมายืนยันว่าจะไม่มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ที่บาดเจ็บบวกกับตัวที่เดี้ยงอยู่แล้วอย่าง เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค และโจ โกเมซ ส่วนในรายของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ติดไวรัสโควิด-19 เดินทางกลับอังกฤษมาแล้ว แต่ต้องถูกกักตัวตามระเบียบ
ขณะเดียวกัน ฟาบินโญ่ และธิอาโก้ อัลคันทาร่า ลุ้นเช็คความฟิต ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่วิกฤติที่สุด ซึ่งประวัติศาสตร์ฟุตบอลไม่เคยมีทีมไหนมีนักบอลบาดเจ็บและไม่อยู่ในทีมมากขนาดนี้มาก่อน
ทางฝั่ง เลสเตอร์ ซิตี้ ที่นำจ่าฝูงในช่วงพักเบรก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะได้ดวลกับทีมเก่า นัดนี้ยังไม่มี คักลาร์ โซยุนคู,วีลเฟร็ด เอ็นดิดี้ และริคาร์โด้ เปเรยร่า ส่วนวิงแบ๊กอย่าง ทีโมธีกาสตานเญ่ น่าจะหายเจ็บพร้อมกลับมายึดตำแหน่งตัวจริง ทำให้ เจมส์ จัสติน ต้องโยกไปประจำการวิงซ้าย ตำแหน่งอื่นๆ ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร นอมปาลิส เมนดี้ จับคู่มิดฟิลด์กับ ยูรี ตีเลอม็องส์ปล่อยให้ เจมส์ แมดดิสัน และฮาร์วีย์ บาร์นส์ ทำเกมอยู่ด้านหลังหน้าเป้าอย่าง เจมี่ วาร์ดี้
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล (4-3-3-) : อลิสซอน เบ็คเกอร์, นีโก้ วิลเลี่ยมส์, แน็ต ฟิลลิปส์, โฌเอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์, ดีโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-2-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, เวสลีย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, คริสเตียน ฟุคส์, ทีโมธี กาสตานเญ่,ยูรี ตีเลอม็องส์, นอมปาลิส เมนดี้, เจมส์ จัสติน, เจมส์ แมดดิสัน,ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และเจมี่ วาร์ดี้
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เลย ชนะไป 4 และเสมอ 1 ส่วนการเจอกันในฤดูกาลที่แล้ว “หงส์แดง” เก็บเรียบคว้าชัยทั้งไปและกลับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี