แชมป์ลีกคัพ หรือ คาราบาว คัพ ซึ่งเป็นถ้วยแรกของฤดูกาลนี้

การต่อกรในวงการฟุตบอลสโมสรจบสิ้นลงไป 1 สัปดาห์เต็มๆแต่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่องสำหรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

ทีมดังแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ ถูกมองไปในหลายๆ มิติที่แตกต่างบ้างก็ว่า ประสบความสำเร็จแล้วกับ 2 แชมป์บอลถ้วย หรือ“คัพ ดับเบิ้ล” ที่ได้มานั่นคือ แชมป์บอลถ้วยภายในประเทศ คือ ลีกคัพ กับ เอฟเอ คัพ

บ้างก็ว่า ล้มเหลวเพราะตัวเองมีลุ้น 4 แชมป์ แต่ไม่ได้ พรีเมียร์ลีกกับ แชมเปี้ยนส์ลีก

แน่นอนก็คือ ทุกอย่างอยูที่ “มุมมอง” และ “ทัศนคติ”

แน่นอนที่สุดก็คือ ต้องมี “อคติ” เข้ามาเจือปนเข้าไปด้วย!!!!

“การยอมรับซึ่งกันและกัน” คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเมื่อมีการแข่งขันมันก็ต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ แต่คุณจะเป็นผู้แพ้อยู่เสมอ ถ้าหากคุณชนะแต่ไม่มีคนยอมรับ

คุณจะเป็นผู้แพ้ไปตลอด หากคุณแพ้แล้วไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และไม่ยอมรับผู้ชนะ เพียงเพราะ “ไม่ชอบมัน” ก็เท่านั้นเอง

ซึ่งมันเป็นปัญหาของคนคนนั้น กลุ่มๆ นั้น มิสามารถบังคับทัศนคติ (ที่บางครั้งต้องเรียกมาปรับ) หรืออคติที่มันเป็น “แผลเป็นในใจ”

วันนี้ขอนำเรียนสถิติต่างๆ ที่ ลิเวอร์พูล สร้างขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ ในการแข่งขัน “ฤดูกาลแห่งความบ้าคลั่ง” แม้บทจบ“ไม่บ้าคลั่ง” ตามที่หลายคนวาดเอาไว้

นั่นแหล่ะ อยู่ที่ว่า “ความพอใจ” และ “ความเข้าใจ” ของแต่ละคนจะอยู่ตรงบรรทัดฐานไหนนั่นเอง!!!

l ไม่เคยมีทีมไหนจากอังกฤษที่สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศบอลถ้วยอย่าง คาราบาว ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกภายในฤดูกาลเดียว

l เป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์ 4 รายการ ในฤดูกาลเดียวที่ยาวนานที่สุดของสโมสรจากอังกฤษ เริ่มจากเกมแรกนัดเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ตั้งแต่วัน 14 สิงหาคม 2021 จนถึงวันสุดท้าย 22 พฤษภาคม 2022

l ลิเวอร์พูล พังสถิติยิงประตูมากที่สุดภายในฤดูกาลเดียว 148 ประตู จากการลงเล่น 63 เกม ในทุกรายการ กลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสร ทำลายสถิติเดิมในฤดูกาล 1986-87 ที่เคยทำไว้ 145 ประตู

l “หงส์แดง” ภายใต้การคุมของเจอร์เก้น คล็อปป์ จบพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยคะแนนที่เหนือกว่าคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ถึง 53 แต้ม ลิเวอร์พูล มี 92 คะแนน ส่วนเอฟเวอร์ตัน มี 39 คะแนน

l ลิเวอร์พูล สามารถเข้าชิงชนะเลิศบอลยุโรปได้ถึง 7 ครั้ง ในศตวรรษที่ 21 กลายเป็นทีมจากอังกฤษที่ถึงรอบชิงได้มากที่สุดในช่วงปี 2000 จนถึงปัจจุบัน ไล่ตั้งแต่ (ยูฟ่า คัพ 2001, แชมเปี้ยนส์ ลีก 2005, แชมเปี้ยนส์ ลีก 2007, ยูโรป้า ลีก 2016, แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018, แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019 และแชมเปี้ยนส์ ลีก 2022)

l โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลายเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำประตูในเกมนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้5 ฤดูกาลติดต่อกัน โดยฤดูกาลที่เพิ่งจบไป ซาลาห์ ยิง 1 จ่าย 2 ในการเปิดหัวบุกถล่ม นอริช ซิตี้ 3-0

วัตฟอร์ด (2017/18), เวสต์แฮม(2018/19), นอริช ซิตี้(2019/20), ลึดส์ ยูไนเต็ด (2020/21) และ นอริช ซิตี้ (2021/22)

l ในการลงเล่น 63 เกม ในทุกรายการ ลิเวอร์พูล สามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 46 นัด กลายเป็นสถิติสูงสุดของสโมสร ทำลายสถิติเดิม 43 นัด ที่เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2019-20

l ซาดิโอ มาเน่ กลายเป็นนักเตะจากทวีปแอฟริกาที่ยิงประตูในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อกเอาต์ ได้มากที่สุดด้วยจำนวน15 ประตู ทำลายสถิติที่ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา อดีตนักเตะทีมชาติไอวอรี่โคสต์ที่เคยยิงได้ 14 ประตู ในสีเสื้อเชลซี

l ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มีผู้เล่น 3 ราย สามารถยิงได้ 15 ประตูหรือมากกว่าภายในฤดูกาลเดียว คือ (โม ซาลาห์ 23 ประตู, ซาดิโอ มาเน่ 16 ประตูและดีโอโก้ โชต้า 15 ประตู) ทีมแรกที่ทำได้คือ แมนฯซิตี้ เมื่อฤดูกาล 2013-14

l เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค ทำสถิติไม่แพ้ในการลงเล่นเกมลีกที่แอนฟิลด์มากถึง 64 เกม ถือว่ามากที่สุด สำหรับนักเตะที่ลงเล่นให้กับสโมสรเดียวและไม่แพ้เลยในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

l ลิเวอร์พูล แซงหน้า แมนฯซิตี้ กลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์ลีก คัพ ได้มากที่สุด 9 สมัย จากการเอาชิง 13 ครั้ง (1981, 1982, 1983, 1984, 1995, 2001, 2003, 2012, 2022)

l ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมแรกในลีกสูงสุดอังกฤษ ที่สร้างประวัติศาสตร์ชนะเกมลีกถึง 2,000 นัด หลังจากเกมล่าสุด พลิกแซงชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1 ในตอนนั้นพวกเขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษไปทั้งหมด 4,227 นัด ชนะ 2,000 เสมอ 1,047 และแพ้ 1,180

l “หงส์แดง” ทำสถิติใหม่ของสโมสรในการยิงประตูได้ติดต่อกันมากที่สุดถึง 34 เกม กับทุกรายการที่ลงเล่น จากของเดิม 31 นัดในช่วงเดือนเมษายน 1957 ถึง มกราคม 1958

l ลิเวอร์พูล สามารถยิงได้ 2 ประตูขึ้นไปในการลงเล่น 18 เกมติดต่อกันในทุกรายการในฤดูกาลที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนจนถึงธันวาคม ทำลายสถิติของ ซันเดอร์แลนด์ มีสถิติยิงนัดละ2 ประตู ติดต่อกัน 17 นัด ปี 1927

l โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยจำนวน 34 ประตู แซงหน้า สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่เคยทำเอาไว้ 30 ประตู

พลาดท่าแพ้ เรอัล มาดริด ในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก ชวดครองถ้วยยุโรปใบใหญ่ สมัยที่ 7

l “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กลายเป็นสโมสรแรกในอังกฤษ ที่เก็บชัยชนะได้ทั้ง 6 นัด ในรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกกลายเป็นทีมที่ 8 ในประวัติศาสตร์ของ UCL

ทีมที่ชนะ 6 เกมรวดในรอบแบ่งกลุ่ม UCL (เอซี มิลาน 1992-93, เปแอสเช 1994-95, สปาร์ตัก มอสโกว์ 1995-96, บาร์เซโลน่า 2002-03, เรอัล มาดริด 2011-12 และ 2014-15, บาเยิร์น มิวนิค 2019-20 และ2021-22, อาแจ๊กซ์ 2021-22, ลิเวอร์พูล 2021-22)

l ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่แพ้ใครติดต่อกัน 25 เกม (ชนะ 18 เสมอ 7) ตั้งแต่เกมที่ดวลกับแอสตัน วิลล่า ในเดือนเมษายน 2021 จนถึงการเอาชนะ แอตเลติโก้ มาดริด ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ก่อนจะโดน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หยุดสถิติในเกมลีกที่บุกไปแพ้ที่ลอนดอน 3-2

สถิติต่างๆ ได้ตอกย้ำว่า ลิเวอร์พูล ซีซั่นนี้......บ้าคลั่งอย่างแท้จริง!!!!!

บี แหลมสิงห์

ตัวเลขสถิติที่น่าสนใจของลิเวอร์พูล 2021-22

63 : คือตัวเลขจำนวนนัดที่ ลิเวอร์พูล ลงสนาม ถือว่าเต็มแม็กที่สุดเท่าที่แต่ละทีมจะลงได้ต่อปี

2 : การครองแชมป์ปีนี้

2 : การเป็นรองแชมป์ในปีนี้

4 : ได้ลุ้นแชมป์ทั้ง 4 รายการแบบที่ “ไม่เคยมีใคร” มีความเป็นไปได้ขนาดนี้

37 : คือจำนวนนักเตะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ใช้ในปีนี้

27 : คือจำนวนนักเตะที่ คล็อปป์ ใช้ในบอลลีก 38 เกม

5 : คือจำนวนนักบอลที่ลงเล่นไปนัดเดียว (เมลคามูฟรอนดอร์ฟ, ฮาร์วี่ย์ แบลร์, เจมส์ นอร์ริส, บิลลี่ คูเมติโอ และเอเดรียน)

57 : คือจำนวนนัดของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ลงสนามในปีนี้ มากที่สุดในทีม

36 : คือจำนวนนัดที่ อลิสซอน ลงเล่นในบอลลีกมากที่สุดในทีม

23 : จำนวนนักเตะที่ทำแอสซิสต์ได้ในฤดูกาลนี้

18 : คือจำนวนการทำแอสซิสต์ของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์ มากที่สุดในทีม

13 : จำนวนการทำแอสซิสต์ของ โม ซาลาห์ มากสุดของทีมในบอลลีก

23 : จำนวนประตูที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงได้ในบอลลีก (มากสุดเท่า ซน ฮึง มิน/สเปอร์ส)

31 : จำนวนประตูที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงได้ทุกถ้วย เป็นดาราซัลโวของทีม

20 : จำนวนนักเตะที่ยิงประตูได้ให้ทีม

2 : จำนวนประตูที่ฝั่งตรงข้ามยิงให้

1 : ดีโอโก้ โชต้า เป็นคนเดียวที่ยิงได้ทุกถ้วย จำนวนรวม 21 ประตู 4 รายการ

148 : คือจำนวนประตูที่ทีมยิงได้ในทุกรายการ

หมายเหตุ : นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาในปี 1892 ลิเวอร์พูล ใช้นักเตะไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 786 คน จากการลงสนามทั้งสิ้น 5,858 เกม

วันแห่ฉลองแชมป์ที่แฟนบอลและชาวเมืองออกมาฉลองกว่า 5 แสนคน