หลังจบเกมการดวลแข้งครั้งสำคัญระหว่าง “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สองมหาอำนาจแห่งวงการลูกหนังอังกฤษ
สิ่งที่ทุกคน “จับตามอง” หลังจากนี้นี่ “ควรจะเป็นกระแส” มากกว่าอย่างอื่น และควรที่จะ “ให้ความสนใจ” มากกว่าเรื่องอื่นๆ นั่นก็คือ “สนามราชมังคลากีฬาสถาน”
ที่ไม่เคยมี “หญ้าสวย” ถึงขั้นนี้!!!!
นายวินิจ เลิศรัตนชัย ซีอีโอ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล ประกาศว่าจะมอบ “หญ้าสนาม” ให้อยู่ในการดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เจ้าของพื้นที่ให้ได้รับการใช้ประโยชน์กันต่อไป
สนามนี้อยู่ภายใต้การเช่าจาก เฟรชแอร์ และสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ เพื่อส่งต่อให้กับ กกท.
“หลังจากนี้สนามราชมังคลากีฬาสถาน ก็จะกลับไปอยู่ภายใต้การดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทยเหมือนเดิม เพราะเป็นทรัพย์สินของทางราชการ เราจะต้องทำการนำสิ่งที่ต่อเติมทั้งหมดออกไป อาทิ มัลติมีเดีย อัฒจันทร์ หรืออุปกรณ์ทั้งหมด ยกเว้นหญ้าในสนาม ซึ่ง เฟรชแอร์ เชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์ในวงการฟุตบอลมากกว่าในปัจจุบันแน่นอน” นี่คือคำยืนยันจากผู้จัด “เดอะ แมทช์”
ทีนี้น่าสนใจว่า จากนี้การดูแลหญ้าชนิดนี้จะเป็นอย่างไร!?!?!?
ผมเขียนเรื่องนี้หนแรกตั้งแต่ปี 2016 หลังจากมีเหตุการณ์ทื่ อังเดร เอร์ราร่า วิพากษ์วิจารณ์สนามแอนฟิลด์ หลังจากเตะยูโรป้า ลีก
ล่าสุดเพิ่งไปดูกับตาตัวเองเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และนำเสนอไปเกี่ยวกับสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำไมถึงได้เสียบัลลังก์ “แชมป์หญ้าสวย” หรือ Premier League Grounds Team of the Season ให้กับ “ไก่เดือยทอง”ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
สองทีมใช้หญ้าไม่เหมือนกัน
สเปอร์ส ใช้นวัตกรรมใหม่ คือ หญ้าแบบ “พรมไฮบริด” หรือ “hybrid carpet” ไม่เหมือนใครในลีก
ขณะที่ แมนฯยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในทีมที่บุกเบิกความทันสมัยใช้ “หญ้าพาสพาลั่ม” ซึ่งเป็นหญ้า เกรด AAA+ จากออสเตรเลีย นำมาใช้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นพัฒนาการสมัยใหม่ของพื้นสนามที่เรียกว่า “เดสโซ่”
ในวาระนี้ของเขียนเรื่อง “พาสพาลั่ม” หรือ “เดสโซ่” เพียงอย่างเดียวก่อน
“เดสโซ่” ซึ่งเป็นพื้นผิวสนามที่ประกอบขึ้นจากพื้นหญ้าธรรมชาติผสมกับเส้นใยสังเคราะห์ เหมือนกับที่สนามนิว เวมบลีย์ชามอ่างยักษ์ในลอนดอน รวมไปถึงสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำไปใช้เป็นเจ้าแรกๆ
“Desso GrassMaster” เป็นการปลูกหญ้ามาตรฐานสมัยใหม่ นิยมใช้กันอย่างมาก ซึ่ง เดสโซ่ เป็นส่วนผสมระหว่างเส้นใยสังเคราะห์กับหญ้าธรรมชาติ เส้นใยสังเคราะห์กว่า 20 ล้านเส้น จะถูกฝังดินลึก 20 เซ็นติเมตร เฉลี่ยแล้วจะกินพื้นที่ไม่เกิน 3% ของผิวสนามทั้งหมด
จากนั้นก็ปลูกหญ้าจริงลงไป
มาตรฐานนี้ จะทำให้ “รากของหญ้า” ไปพันกับ “เส้นใยสังเคราะห์” จะทำให้ได้พื้นผิวที่เหนียวแน่นและทนกว่าหญ้าปกติถึง 3 เท่า
ไม่มีใครใช้หญ้าเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ค่อยมี ต้องใช้หญ้าแท้กับหญ้าเทียมผสมกัน
กล่าวคือ การกีฬาแห่งประเทศไทย มีทีมดูแลสนามอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า การต้องดูแลหญ้าชนิดนี้ต้องสนิทกับมันเป็นพิเศษกว่าเดิม
ยกตัวอย่าง ทีมดูแลสนามของ แมนยูฯ โดย โทนี่ ซินแคลร์เป็นผู้อำนวยการ ต้องทำงานแข่งกับเวลามาโดยตลอดในการดูแลรักษาสภาพผืนหญ้าที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันในแต่ละนัด
ในการทุ่มเททำงานของทีมงานแมนยูฯ แสดงให้เห็นถึง “คุณภาพ” ของพื้นผิวสนาม ที่มีคุณภาพที่สุดยอดเช่นเดียวกับสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของอาร์เซน่อล ทำให้ท้ายที่สุดทั้ง2 สนาม ได้รับรางวัลเหนือทีมอื่นๆ ในบรรดาสโมสรในระดับลีกสูงสุด จากการโหวตโดยสถาบันสปอร์ตส เทิร์ฟ รีเสิร์ช และอยู่ในจุดนี้มาหลายปี
ทุกวันก่อนมีเกมการแข่งขันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เจ้าหน้าที่จะตื่นตั้งแต่ตี 2 เพื่อดูกล้องวงจรปิดสภาพสนามจากที่บ้าน หากมีหิมะตกหรือสภาพอากาศไม่เป็นใจ เขาจะสามารถตัดสินใจเปิดเครื่องทำความร้อนละลายหิมะ หรือสั่งการให้ลูกทีมเร่งช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ทันก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น
“เดสโซ่” อยู่ที่ทนต่อฝนฟ้าอากาศ และเสียหายยากกว่าเดิม
ขณะเดียวกันแทบจะทุกสนาม จะมีแสงไฟจากแท่นเครื่องส่องไฟ เพื่อเลียนแบบแสงแดดให้ใกล้เคียงที่สุด มันจะช่วยรักษาสถานะของสนามหญ้าในช่วงหลายเดือน เพราะหญ้ากลายเป็นหญ้าแห้งโดยปกติตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนเมษายน
นั่นคือ เทคโนโลยีแสงประดิษฐ์ซึ่งเป็นนวัตกรรมจากประเทศเนเธอร์แลนด์
จุดนี้อากาศบ้านเรา จะไม่มีปัญหาเรื่องหิมะแน่นอน และไม่น่าหวั่นใจเรื่องฝน เพราะระบายน้ำได้เร็ว แต่เรื่องความร้อนอันนี้น่าสนใจมาก เพราะอย่างที่กล่าวไปก็คือ ปกติหญ้าอังกฤษมีโอกาสแห้ง 6 เดือน
แต่บ้านเราอาจจะ 11 เดือนเป็นอย่างน้อย
พูดง่ายๆ ดูแลหญ้าในสนาม ไม่ง่าย ต้องดูแลให้ดีเหมือนกันกับว่า ดูแลลูกกันเลยทีเดียว
เรื่องนี้สำคัญมากๆ ว่าแต่มีแผนที่จะรองรับและดูแลสนามหรือยัง
หมายถึง “คนดูแลสนาม” ไม่ใช่ “คนที่จะมาเตะที่สนาม”
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี