หลังจากเหตุคนร้ายบุกเข้าปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 หรือค่ายปิเหล็ง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม2547 ควันไฟแห่งความไม่สงบในดินแดนปลายด้ามขวานยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมิอาจประเมินมูลค่า ก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญกับปัญหาในพื้นที่จึงดำริจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ (ศชต.) ขึ้น เทียบเท่ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค แต่ล่าสุดก็มีคำสั่งยุบ ศชต.ด้วยเหตุผลว่า 8 ปีที่ผ่านมา ศชต.ยังไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหา
เมื่อสถานการณ์ความไม่สงบยังเป็นงานหนักของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งต้องดูแลรักษาความปลอดภัยพี่น้องประชาชน ในวันนี้ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพรหรือ เดอะแซ็ก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ตำรวจมาดเท่วัย 55 ปี ชาวนครปฐมตำนานนักสืบ-มือปราบแห่งภูธรภาค 9 ขวัญใจชาวสงขลาได้บอกเล่าประสบการณ์การทำงานที่ทั้งชีวิตรับใช้พี่น้องประชาชนชาวใต้มาแทบตลอด
พล.ต.ต.อำพล เล่าว่า พอจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็น นรต.รุ่น 38 ได้เริ่มรับราชการที่ สภ.หาดใหญ่สภ.สะเดา สภ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นขึ้น ผกก.สภ.สะเดา ย้ายไปผกก.สภ.บ่อเกลือ จ.น่าน กลับมาเป็น ผกก.สส.ภ.จว.สงขลารอง ผบก.สส.ภ.9 ขึ้น ผบก.ภ.จว.สงขลา ผบก.ภ.จว.ชลบุรีและย้ายเข้านครบาลครั้งแรกตำแหน่ง รอง ผบช.น.
“ภูมิใจมากที่ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจ เดิมทีเป็นตำรวจภูธรมาตลอด ก็ประสบความสำเร็จแล้ว ให้อยู่นครบาลก็ทำได้ไม่มีปัญหา แม้นครบาลจะวุ่นวายแต่มี รอง ผบช.น. 13 คน ถามว่าถนัดด้านไหนส่วนใหญ่ก็อยู่กับงานสืบสวน และป้องกันมาตลอด ช่วยคุมบก.น.5 คดีสำคัญที่เกิดขึ้นแทบไม่มี จะมีก็เป็นคดีที่คาดไม่ถึงอย่าง นศ.ตกบ่อซีพี ต้นไม้ล้มทับคนตาย คนบ้าเผาสะพาน ไทย-เบลเยี่ยม”
พล.ต.ต.อำพลเล่าย้อนถึงตอนทำงานที่ภาค 9ว่า ส่วนใหญ่คดีเป็นเรื่องความมั่นคง ตำรวจทุกคนจะต้องมีความตื่นตัวตลอด ดูแลตัวเองขณะออกปฏิบัติหน้าที่ ไปตรวจพื้นที่แล้วถ้าอยู่ที่ประจำ รับรองโดนสอย เกลี้ยงหมด เราต้องอยู่ในความไม่ประมาท ไม่ใช่มาเดินเล่นเตร็ดเตร่ โรงพักเองต้องคุมเข้มให้ดี การจะเข้าโรงพักมาจอดรถ ต้องได้รับการตรวจตราทุกคันไม่อย่างนั้นจะเกิดเหตุวางระเบิดได้
พื้นที่ภาคใต้ทำอะไรต้องมี ยุทธวิธี ต้องเตรียมตัวในการทำงาน เช่น ดูแลประชาชน ครู พระในตอนเช้า หรือออกตรวจทั่วไปในเขตชุมชน ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ต้องละเอียดรอบคอบ ต้องมีความเป็นมืออาชีพ เรียนรู้ให้เยอะโดยเฉพาะข้อมูลท้องถิ่นต่างๆ สำคัญมาก
ขณะนั้นสามารถจับกุมผู้ก่อความไม่สงบหลายคดีหนึ่งในนั้นเป็นคดีลอบวางระเบิด 7 จุด จ.สงขลาและคดีระเบิดโรงพักหาดใหญ่ รวมถึงคดี “ศักดิ์ ปากรอ”มือฆ่า 5 ศพ ครอบครัวบุญทวี เมื่อปี 2540, คดีไข่หมูกจอมโจรแดนใต้ เรียกค่าคุ้มครองโรงแรมลี การ์เด้นเมื่อปี 2552, คดียิงนายพีระ ตันติเศรณี อดีตนายกเทศมนตรีสงขลา เมื่อปี 2555, คดีค้ามนุษย์โรฮีนจาเมื่อปี 2558
“ตอนเป็น รอง สว.สส.โรงพักหาดใหญ่ สืบสวนสอบสวนอยู่ในตัว ยังไม่แยกเหมือนสมัยนี้ รับเรื่องแล้วต้องไปจับคนร้ายเอง คดีศักดิ์ ปากรอ ยังเป็น สว.สืบสวน ตามจับสนุกมาก พอขึ้นผู้การสงขลา ศักดิ์ออกมาแล้ว ช่วงตามจับโรฮีนจาบนเขาที่สะเดา ปรากฏว่าลูกน้องโดนปืนส่องลงมา พอขึ้นไปพบรูปภาพถึงรู้ว่าศักดิ์อยู่ หลังจากนั้นจนถึงทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าใครยิงศักดิ์เสียชีวิต”
เดอะแซ็ก บอกว่า เมื่อก่อนโรงพักหาดใหญ่คดีเยอะ เป็นฝ่ายสืบต้องเดินทางตลอด บางทีเงินไม่มี จ่ายไปกับค่าน้ำมันหมด บางครั้งต้องไปกินข้าววัดหรือครั้งหนึ่งมีเงิน 200 บาท ลูกน้องสิบกว่าคนยังไม่ได้กินข้าว เจองานศพแวะใส่ซองทำบุญ พาลูกน้องไปกินข้าวในงาน แต่ชาวบ้านเขาก็ดีใจที่ตำรวจมา
คนทำงานไม่ต้องวิ่งเต้น เพราะนายเห็น รู้ฝีมือ ก็จะดึงไปทำงานด้วย ซึ่งปัจจุบันมันมีปัจจัยอย่างอื่นเยอะ แต่สิ่งแรกเลยต้องมีความจริงใจ มุ่งมั่น ตั้งใจ และให้กับลูกน้องก่อน แล้วผู้บังคับบัญชาเขาจะเมตตา การทำงานสมัยนี้เทคโนโลยีสำคัญมาก เมื่อเกิดเหตุต้องเอาประชาชนเป็นหลัก คิดว่าทุกคนเสมือนญาติเรามีหนทางไหนที่ช่วยได้ต้องรีบช่วย เมื่อปิดคดีสำเร็จ เราก็จะรู้สึกภูมิใจ ยิ่งเวลาประชาชนเขาได้รับความเป็นธรรมมีความสุข มีรอยยิ้ม เราก็ดีใจที่ได้อำนวยความยุติธรรมให้เขา สมดั่งหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
“ประชาราษฎร์เขากล่าวไว้ให้คิด อย่าใกล้ชิดโรงพักดีนักหนา ไม่จำเป็นไม่ขึ้นมาพึ่งพา อนิจจาฟังแล้วอนาถใจ จึงตั้งจิตคิดทำโรงพักข้าฯ ให้ประชาเปลี่ยนภาพลักษณ์เสียใหม่ เมื่อขึ้นมาเบิกบานสำราญใจ เพื่อผ่อนคลายความทุกข์เป็นสุขเอย” พล.ต.ต.อำพล กล่าวทิ้งท้ายให้ ใช้เวลาคิด 3 นาที สมัยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตรวจโรงพัก
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี