ยังไม่ทันที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ประยุทธ์ 5 จะคลอดให้เห็นโฉมหน้าค่าตาปรากฏว่าคนบางกลุ่มโดยเฉพาะเหล่าแกนนำสาวกพรรคเพื่อแม้วก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ส่อดิสเครดิตครม.ประยุทธ์ 5 ตั้งแต่ไก่โห่ด้วยอคติและหวังผลทางการเมืองมากกว่าจะแสดงความเห็นเชิงสร้างสรรค์ในลักษณะติเพื่อก่อ
แกนนำสาวกพรรคเพื่อแม้วประเภทป่วนขาประจำ อาทิ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นอกจากเรียกร้องให้ยกเครื่องทีมครม.เศรษฐกิจในการปรับครม.ประยุทธ์ 5 ยังกล่าวแบบดักคอตีกินว่า ถึงจะปรับครม.ประยุทธ์ 5 ก็คงไม่เกิดประโยชน์ตราบใดที่ยังไม่เปลี่ยนนโยบายด้านเศรษฐกิจ ทั้งๆ ที่แม้จะเปลี่ยนนโยบายด้านเศรษฐกิจก็เชื่อว่า นายพิชัย และเหล่าสาวกระบอบแม้วทั้งหลายก็หาเรื่องตีรวนบ่อนทำลายอำนาจรัฐคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) อยู่วันยังค่ำ
หรืออีกคนซึ่งเป็นมือป่วนขาประจำวิพากษ์วิจารณ์ ส่อเจตนาโจมตีคสช.และรัฐบาลด้วยวิธีการน้ำเน่าแบบเดิมๆ นั่นคือ ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ ทีมโฆษกพรรคเพื่อแม้ว ซึ่งแปลกที่สื่อมักจะนำความเห็นขยะของบรรดานักลากตั้งประเภทน้ำเน่ามาช่วยกระพือทำให้ได้ใจออกมาลวงโลกสร้างความสับสนต่อสังคมแบบรายวันมาตลอด
ล่าสุด หมวดเจี๊ยบ ขาประจำให้ความเห็นในลักษณะส่อเจตนาหาเรื่องตีรวนว่า ถึงปรับครม.ประยุทธ์ 5 ก็ไม่มีประโยชน์เพราะต้นเหตุของปัญหาชาติบ้านเมืองขณะนี้เกิดจากความไม่เป็นประชาธิปไตยจากการยึดอำนาจของคสช. หรือพูดง่ายๆ ก็คือ หมวดเจี๊ยบ ส่อเจตนาไล่คสช.และรัฐบาลให้พ้นจากอำนาจโดยเร็วเพื่อที่จะได้ฟื้นระบอบแม้วกลับมามีอำนาจปู้ยี่ปู้ยำชาติบ้านเมืองอย่างเหิมเกริมจนนำไปสู่วิกฤติวังวนวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายที่สร้างความบอบช้ำให้ประเทศจนย่อยยับเหมือน 10 กว่าปีที่ผ่านมา
ความจริงการวิพากษ์วิจารณ์ถือเป็นเรื่องปกติตราบใดที่อยู่บนพื้นฐานเชิงสร้างสรรค์มีเหตุมีผล เป็นธรรมและมีข้อมูลที่รอบด้าน แต่คนบางกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เฮโลตามกระแสโดยเฉพาะยุคปัจจุบันที่สื่อโซเชียลมีเดียอันตรายมากเพราะมีการแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนเป็นเท็จจำนวนมากทำให้บางคนที่ขาดสติอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จบิดเบือนต่อๆ กันไปในวงกว้างซึ่งบางเรื่องส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
การวิพากษ์วิจารณ์บนพื้นฐานเชิงสร้างสรรค์ตรงไปตรงมาและเป็นธรรม อย่างเช่น การแสดงความเห็นคัดค้านการปรับครม.ประยุทธ์ 5 ด้วยระบบเพื่อนพ้องน้องพี่หรือมีโควตาของทหารมากเกินไป หรือเตรียมตั้งบุคคลที่มีปูมหลัง ไม่เหมาะสม เข้ามาเป็นรัฐมนตรี แทนที่จะดึงเอาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่เป็นมืออาชีพเข้ามาบริหารประเทศเพื่อชาติและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก
อย่างไรก็ตามก็ต้องเข้าใจในข้อจำกัดของผู้นำรัฐบาลเช่นกัน เพราะการที่จะทาบทามมืออาชีพภาคเอกชนให้เสียสละเงินเดือนรายได้มหาศาลมาร่วมรัฐบาลในภาวการณ์เช่นนี้เป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะด้วยเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลอีกเพียง 1 ปีเศษ และภายใต้สภาพนักการเมืองที่ยังไม่ปฏิรูปพฤติกรรมตัวเองโดยยังเดินเกมการเมืองแบบสกปรกด้วยการวิพากษ์วิจารณ์โจมตีแบบน้ำเน่าเช่นนี้ คงไม่มีภาคเอกชนมืออาชีพคนไหนอยากเสี่ยงมาเป็นรัฐมนตรีให้ตกเป็นเป้าโดนเล่นงานแบบสาดเสียเทเสีย
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของนักวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมาก็คือขาดการศึกษาข้อมูลอย่างชัดเจนและรอบด้านหรือกลั่นกรองข้อมูลแล้วจึงวิพากษ์วิจารณ์ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือคนบางกลุ่มบิดเบือนโดยมีเป้าหมายแอบแฝงทางการเมือง
ที่ผ่านมามักจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีบางคนว่า เป็นรัฐมนตรีที่โลกลืมคือไม่รู้จักแม้แต่ชื่อและไม่เคยเห็นในสื่อ ทั้งๆ ที่ความจริงรัฐมนตรีที่ถูกลืมเหล่านั้นอาจเป็นมืออาชีพที่มีผลงานเพียงแต่ไม่ใช่คนที่มีนิสัยชอบโอ้อวดตัวโชว์ผลงานให้สัมภาษณ์สื่อเข้าทำนองปิดทองหลังพระ และที่มองว่ารัฐมนตรีบางคนแม้แต่ชื่อยังจำไม่ได้ หากมองอย่างเป็นธรรมลองย้อนกลับไปทบทวนครม.แต่ละคณะตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันมีคณะไหนบ้างที่ประชาชนหรือสื่อจำชื่อได้หมดทุกคน
อีกทั้งความจริงประชาชนก็มักสนใจแต่ข่าวหวือหวาทางการเมืองมากกว่าที่จะสนใจติดตามในสิ่งที่เป็นสาระเกี่ยวกับผลงานของรัฐมนตรี ซี่งที่ผ่านมาการออกมาชี้แจงผลงานดีๆ ที่เป็นประโยชน์กลับไม่ได้รับความสนใจติดตามโดยมองว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อหรือแม้กระทั่งสื่อมักจะไม่ให้ความสำคัญกับผลงานที่เป็นประโยชน์ โดยมุ่งแต่จะเสนอข่าวที่ขายได้เป็นหลัก
ในทางกลับกันพวกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งมักชอบให้ตัวเองเป็นข่าวด้วยการสัมภาษณ์สื่อแบบน้ำไหลไฟดับหวังสร้างภาพหาเสียงและโชว์ว่ามีผลงาน ทั้งๆ ที่เบื้องหลังนักลากตั้งเหล่านั้นจำนวนไม่น้อยไร้ผลงานหรือโกงบ้านกินเมือง แต่นักลากตั้งประเภทนี้กลับได้รับความนิยมและบางครั้งมีการติดสินบนสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวให้ตัวเอง
เพราะฉะนั้นครม.ประยุทธ์ 5 ที่จะคลอดออกมาทุกฝ่ายควรรอดูผลงานก็ยังไม่สายก่อนที่จะเฮโลติเรือทั้งโกลนสักแต่วิพากษ์วิจารณ์ตามกระแสอย่างไร้สติซึ่งอาจตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองได้
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี