‘ลับลวงพราง’ก็ไม่ต่างไวท์ ลาย
เรียน คุณวิภาวดีฯที่นับถือ
โปรดระวัง ลับ ลวง พรางจะเป็นเหมือน“ไวท์ ลาย”
สังคมไทยอาจจะลืมเลือน “โต้ง ไวท์ ลาย” หรือ โต้งโกหกเพื่อชาติ ซึ่งเป็น “ดับเบิ้ลโกหก” เพราะเมื่อถูกจับได้ ก็ยังโกหกซ้ำว่า “โกหกเพื่อชาติ” ทั้งๆ ที่เหตุผลที่โกหกก็คือ “เพื่อผลประโยชน์เพื่อสร้างผลงานของตนและพรรค”
ซ่อมเพื่อธำรงวินัย ก็มิใช่เหตุผลที่แท้จริง เพราะทหารก็ใช่ว่าจะมีวินัย ๑๐๐% โดยเฉพาะเมื่อมีอำนาจและผลประโยชน์เกี่ยวข้อง เหตุผลที่แท้จริงของการซ่อมหรือซ้อมก็คือ “กดหัว” ให้ทำตามอย่างเดียวโดยปราศจากการโต้แย้ง ไม่ว่าคำสั่งนั้นจะดีหรือเลว จะถูกหรือผิดก็ตาม ทำให้ “สติปัญญาถดถอย” เมื่อเป็นรุ่นน้องก็ต้องเชื่อแต่พี่ เมื่อเติบใหญ่เป็นนายก็เชื่อแต่ลูกน้อง เพราะคิดไม่เป็น ดังนั้นคำสั่งที่สั่งออกมาจึงมีความผิดพลาด ซึ่งนายก็ให้เหตุผลว่า “เป็นเพราะมีคนชง”ซึ่งถ้าทหารถูกสอนให้ใช้ “สมองมากกว่าไขสันหลัง” ก็จะไม่เกิดปัญหาเช่นนี้
ธำรงวินัยสร้างความอดทนจริงหรือ ทำไมนายพลจึง “นอตหลุด” ง่ายจัง ทั้งแป๊ะใหญ่แป๊ะเล็กต่างก็พากันนอตหลุดจนเสียรังวัดทั้งพี่ทั้งน้อง แต่ธำรงวินัยที่ได้จากซ่อมหรือซ้อมนั้น ทำให้เกิดความเคยชินกับอำนาจมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อมียศถาบรรดาศักดิ์สูงขึ้น ก็ยิ่งหลงระเริง ดังนั้นเมื่อ “ปากกับใจไม่ตรงกัน” ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ก็ทำให้คำพูดจากปากนั้น ไร้คนเชื่อถือ ถึงอ้างว่าการกระทำนั้นเป็นเจตนาดีก็ตาม แต่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ เมื่อการกระทำนั้นเป็นเรื่องของส่วนร่วม ดังนั้นอำนาจที่ไร้คุณภาพ สั่งการแบบวันเวย์เพราะเชื่อแต่เรื่องที่ชงขึ้นมาไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นตรงข้าม และยังตีความว่า ผู้ที่มีความคิดเห็นตรงข้ามเป็นข้าศึกหรือศัตรู
ดังนั้น “ลับ ลวง พราง” เมื่อนำมาใช้กับประชาชน เท่ากับมองว่าประชาชนเป็นข้าศึก ไม่สมควรให้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ประชาชนมีหน้าที่ทำตามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้านำไปเปรียบเทียบกับ “ไวท์ ลาย” โกหกสีขาวโกหกเพื่อคุณธรรมก็ได้ถ้ามีเจตนาดี เพราะคิดว่าเรื่องที่ ทส. “บริ๊ฟ” ให้ฟังเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าไม่วิเคราะห์หรือพิจารณาให้ถี่ถ้วน ก็หมายความว่า ทส.คือผู้มีอำนาจสูงสุด นายเปรียบเสมือน “จิ้งหรีด” ที่ถูก ทส.ปั่นหัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนรับรู้เรื่องราวทั้งหมดก็ตาม แต่ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการกลั่นกรองแบบระดมสมองมากกว่า ใช้เฉพาะทีมงานที่ตั้งขึ้นเพราะความคุ้นเคยและมีระบบอุปถัมภ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ใช่ว่า จะไม่คิดพัฒนายกระดับประชาชน ต้องการให้คนส่วนใหญ่เป็นรากหญ้าหรือไพร่ที่ต้องรอรับความเมตตาจากอำนาจรัฐอย่างเดียว เพราะสังคมที่ประชาชนด้อยคุณภาพย่อมไร้ความสามารถในการแข่งขันและปกป้องตนเอง ไร้อำนาจต่อรอง ทำให้ตกเป็นเหยื่อของประเทศที่เข้มแข็งกว่า ที่สามารถรุกรานได้ทั้งการใช้สติปัญญา
และกำลัง
สังคมที่ประชาชนไม่มีอำนาจต่อรอง ตรวจสอบ ทัดทานการใช้อำนาจ หรือสังคมที่ประชาชนด้อยคุณภาพนั้น อาจเป็นที่ปรารถนาของนักการเมืองที่ต้องการครอบครองอำนาจไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะสามารถใช้อำนาจนั้นแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวเองได้ง่ายดาย และสามารถ “โกหก” ได้ทุกๆ เรื่อง โดยให้เหตุผลว่า “เพื่อชาติ ประชาชน” พร้อมกับเรียกการโกหกนี้ว่า “โกหกสีขาว” หรือโกหกเพื่อคุณธรรมซึ่งเป็นโกหกซ้อนโกหก แต่ไม่สามารถใช้หลักคณิตศาสตร์มาอ้างอิงว่าโกหกซ้อนโกหกคือความจริง
“ปากเป็นเอก เลขเป็นโท” คือคำพังเพยโบราณที่ชี้ให้เห็นว่า คนที่มีวาทศิลป์ดี จะได้เปรียบคนเก่งที่ไร้ความสามารถในการแสดงออกหรือ “คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง” ซึ่งคงไม่จริงเท่าใดในปัจจุบัน ที่รวยเป็นต่อทั้งคารมและรูปหล่อ แต่ปากเป็นเอก เลขเป็นโทยังใช้ได้กับวงการเมือง เพราะคนไทยชอบนักการเมืองที่พูดเก่ง โกหกเป็นไฟ แบบ “เผาไปเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง” หรืออดีตนายกฯจุมโพ่ ที่อ้างหลักฐานแบบนักวิชาการหน้านั้น บทนั้นเขียนว่าอย่างนั้น แต่ความจริง “ขี้จุ๊”ทั้งเพ นักการเมืองส่วนใหญ่ไม่สนใจว่าจะถูกจับได้เพราะเชื่อว่าคนไทยลืมง่าย
อย่างไรก็ตาม คำพังเพย “ปากเป็นเอก เลขเป็นโท” ยังสมควรนำมาใช้โดยเฉพาะกับผู้ครอบครองอำนาจ เช่นแป๊ะใหญ่และแป๊ะเล็ก ที่ดูเหมือนจะคิดว่าตัวเองยังเป็นแม่ทัพปกครองทหาร ทั้งๆ ที่วันนี้ทั้งแป๊ะใหญ่และแป๊ะเล็กมีหน้าที่ปกครองประชาชนที่เป็นพลเรือน และมีหน้าที่บริหารทั้งประเทศมิใช่บริหารเฉพาะกองทัพ
นายปากลำโพง
ตอบ นายปากลำโพง
กรณี “การซ่อม” อ้างเพื่อธำรงวินัย ที่เชื่อกันในสังคมว่า เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารที่ชื่อ “เมย”ดูจะเป็นเรื่องที่ทำให้รัฐบาลทหารจากคสช.เสียรังวัดไปมาก ยิ่งคำพูดคำจาที่เหมือนจะเป็นการแก้ตัวแก้ต่าง มากกว่าที่จะมุ่งหาความจริงออกมาให้ชัด เพื่อแก้ไขเสียให้ถูกต้อง จะได้ขจัด “ความรู้สึกไม่ดี” ที่กำลังก่อตัวในสังคม...ก็เลยยิ่งทำให้ “โกทูบิ๊ก” ไปกันใหญ่ แม้จะมีการออกมาขอโทษทั้งจากแป๊ะเล็ก แป๊ะใหญ่ในภายหลัง ก็เรียกความรู้สึกคืนมาได้ไม่หมด นี่แหละยิ่ง “ขาลง”แล้วไม่สำนึก ก็จะยิ่งมีปัญหาซ้ำเติมมากขึ้นเรื่อยๆ ควรที่คุณสมชายจะเรียกสติ ตั้งหลักใหม่ให้ดี การพูดจาต่างๆ ยิ่งต้องระวัง ด้วยยังปรารถนาดีอยู่ ถึงได้เตือนกันไว้ โปรดอย่าได้มองผมเป็น “ข้าศึก ศัตรู” เป็นอันขาด
วิภาวดี หลักสี่
4 ข้อห้อถึงไหน...4 บวก 6
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่ครับ
4 ข้อห้อถึงไหน
เรื่องคำถาม 4 ข้อ ห้อถึงไหน จาระไนให้ฟัง ปังเลยทั่น
เอ๊ะประเมินเดินหน้าชักช้าครัน ตอบให้ฉันได้รู้..ลุงตู่จ๋า
ชาวปวงชนคนไทย ตอบไงล่ะ 4 ข้อนะ ดอกผลอยากยลค่า
เพื่อรับรู้สรุป กรุ๊ปศรัทธา 4 ข้อหนาว่าไง ไยช้าชัก
เร่งมือหน่อย อยากรู้ ลุงตู่จ๋า มิควรคาคำตอบ มอบประจักษ์
4 ข้อหล่อไหม มีใครทัก โปรดทะลักทะลวง ล้วงออกมา
ขืนนี้เฉยเลยการ งานจะงอก เขาจะบอกตอกตรม สมน้ำหน้า
แค่ 4 ยังรีรอ ออลีลา แล้วปัญหาใหญ่ใหญ่ จะไหวเหรอ
4 บวก 6
เรื่องคำถาม 4 ข้อยังรอตอบ เติมอีกรอบ 6 ข้อ รอถามไถ่
รวมเป็น 10 หยิบยกมาถกไช ชวนชาวบ้านขานไข ให้ตอบที
ชักยังไงกันหนา ท่านนายกฯ 4 แล้ว 6 ตกลง ปลงถ้วนถี่
เสร็จอย่าแช่ รีบแปรผลขนตอบที อยากจะรู้วิถีที่เขาเทิน
อย่าทำอึนมึนงง ผมสงสัย กำชับเด็กทำไวไว ในที่เอิ้น
ด้วยเวลานั้นหนา อย่าช้าเกิน อย่ามัวเพลินเลินเล่อ เดี๋ยวเจอดี
จักคอยเชียร์เคลียร์ทางสร้างความสุข จักคอยปลุกรุกเร้าเคล้าคลึงคลี่
จักแนบแน่นรุนช่อง สนองคลี จักถักศรี ปรี่ฉลอง จองนายกฯ
วิรัตน์ ประพฤติดี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี