เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศไทยชุดที่ 5 ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าวันเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 28 จะเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งผลจากการให้สัมภาษณ์ในครั้งนั้นทำให้มีข่าวตามมาที่เกี่ยวข้องกันในวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ดังต่อไปนี้
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตสส.หลายสมัยจาก 2 พรรคการเมือง คือ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยและเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ได้ให้สัมภาษณ์กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาตอบโต้ด้วยถ้อยคำแรงรุนแรงหลังนายยุทธพงศ์ วิจารณ์การเข้าเรียนหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรว่าไม่อยากตอบโต้นายอนุทินเพราะตนเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่เล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช้วิธีสาดโคลนให้คู่ต่อสู้
เพราะเป็นวิธีของนักการเมืองโบราณอีกทั้งนายอนุทินเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนนับถือได้อย่างไร ระวังสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะลงโทษ อดีตรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่าข้อหนึ่งจะเป็นพ่อค้าขายเหล็กหรือเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบมาให้ชัดและข้อสองการที่นายอนุทินเรียนหลักสูตรของศาลรัฐธรรมนูญรุ่นที่ 6 ถือเป็นการเรียนซ้ำซ้อนกับหลักสูตร วปอ. นายอนุทินยังเป็นนักศึกษาและเป็นถึงประธานรุ่น นธป.6
ข้อสาม นายอนุทินมาสมัครเรียน วปอ.ได้อย่างไร เพราะการสมัครเรียน วปอ.จะต้องไม่เรียนหลักสูตรซ้ำซ้อนกัน และทั้งสองหลักสูตรก็ใช้งบประมาณแผ่นดินและภาษีอากรของประชาชน ข้อสี่ขอเรียกร้องให้นายอนุทินลาออกจากหลักสูตร วปอ. เพื่อความสง่างามเพราะท่านเองยังเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและเป็นนักการเมือง
อีกทั้ง กกต.ได้กำหนดวันเลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562 เอาไว้แล้ว และจะมีกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาในวันที่ 4 ม.ค. 2562 ซึ่งนายอนุทินต้องมาช่วยลูกพรรคหาเสียงเชื่อว่าจะไม่มีเวลาเรียนแน่นอน เพราะวปอ.ต้องเรียนตามเวลาราชการ ขณะที่เสาร์และอาทิตย์ต้องศึกษางานที่ต่างจังหวัด ตนมองว่าไม่เหมาะสมที่นายอนุทินจะเรียนหลักสูตร วปอ.ในช่วงที่ใกล้วันเลือกตั้ง จึงขอเรียกร้องให้ท่านลาออกจากหลักสูตรเสีย
ยังไม่ทราบว่า “เสี่ยหนู” นายอนุทินจะออกมาตอบโต้นายยุทธพงษ์คู่ปรับในระหว่าง 2 พรรคการเมืองที่น่าจะเป็นคู่แข่งขันที่สำคัญในการเลือกตั้งปีหน้าอย่างไรแต่ก็น่าสนใจไม่น้อยเพราะมีข่าวว่านายอนุทินกำลังตัดสินใจว่าจะลงไปสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่เพราะยังเหลือระยะเวลาอีกหลายเดือน
นักการเมืองพรรคเพื่อไทยรายที่ 2 ที่เป็นข่าวในวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมาก็คือ ร้อยตำรวจเอกดร.เฉลิม อยู่บำรุงอดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีต สส. กรุงเทพมหานครหลายสมัยจากหลายพรรคการเมือง เช่น ประชาธิปัตย์, มวลชน,ความหวังใหม่, เพื่อไทย ร้อยตำรวจเอกดร.เฉลิมให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวหลังจากหายหน้าหายตาไปเป็นปีว่า
ผมมาให้กำลังใจหลาน ส่วนเรื่องการเมืองยังไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์อะไรมาก เพราะรัฐบาลยังไม่ปลดล็อก แต่ยืนยันได้เลยว่า หากมีการเลือกตั้งเมื่อใดก็รับรองว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งขาดลอยอย่างแน่นอนส่วนคนที่จะมานั่งเป็นหัวหน้าพรรคนั้น จะเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ หรือใครก็ได้ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคที่จะคัดเลือก แต่ที่ผ่านมาสื่อไปเขียนข่าวกันเอง เรื่องคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ตนแน่นอน
แต่หากถามว่าผู้ใดเหมาะสมนั้นขอไม่ตอบ ขอให้เป็นความลับก่อน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า กรณีของสามมิตร สื่อก็ไปนำเสนอข่าวกันเองจนมีผู้แทนเป็นพันคนแล้วพรรคนี้ ไปเอาที่ไหนกันมากลุ่มสามมิตรไปหาที่ไหนตนจะพูดให้ฟังไป จ.กาฬสินธุ์ 4 ชั่วโมง กลับมาบอกได้ผู้แทน 5 คน จริงๆ ได้แค่คนสมัคร ไม่ใช่ได้ผู้แทน เขาเต็มหมดแล้ว เปลี่ยนแนวความคิดได้เลย เชื่อเถอะว่าพรรคเพื่อไทยชนะขาด แต่อย่าไปบอกว่าจะได้ทั้งหมด
อย่างนี้ดีกว่า ตนมั่นใจว่าได้ 250 เสียงขึ้นไปแน่นอนสำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ตนมองเป็นเรื่องไร้สาระมากกว่า ตนเล่นการเมืองมานาน ไม่ใช่ไปจังหวัดไหน ไปเจอ อบต. อบจ.แล้วกลับมาบอกว่าได้ผู้แทนเยอะ แต่จริงๆ คือได้แค่ผู้สมัคร
อย่าไปพูดว่าเราไม่ให้ราคา แต่บอกได้ว่าแพ้ ถ้ากลุ่มสามมิตร อยู่พรรคไหนก็ตาม ไม่มีหรอก เชื่อเถอะว่าพรรคเพื่อไทยชนะ ผมเป็นคนคุมศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรค ตอนปิดกรุงเทพฯชัตดาวน์ ผมไม่รู้ว่าใครทำอะไรไว้บ้าง เดี๋ยวถึงเวลาปราศรัย ผมก็ต้องบอกสื่อ บอกสังคม สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม พวกที่ทำอะไรไว้เวรกรรมมันตามมาแล้ว
เป็นอันว่าสารวัตรเฉลิมของสื่อสารมวลชนสายอาชญากรรมเมื่อ 40 กว่าปีก่อนได้กลับมาชิงพื้นที่สื่อมวลชนในวัย 71 ปี แล้วครับถือว่าสารวัตรเขาหายจากอาการป่วยแล้วละพร้อมลงสู้ศึกเพื่อนายใหญ่ “ทักษิณ” แล้วหลังจากเดินทางไปพบหัวหน้าที่ฮ่องกงเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง
การเมืองเรื่องสนุกกลับมาอีกครั้งเป็นการชิงพื้นที่ข่าวจากสื่อสารมวลชนซึ่ง ณ วันนี้มีตัวละครให้ดู 3 ก๊ก 3 พรรคพวกคือ คสช.ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา, ทักษิณ ผู้ต้องหาและจำเลยหนีคดีและพรรคประชาธิปัตย์ครับท่าน
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี