วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“ธรรมดาที่ผู้ใหญ่จะฝึกสอนใจเด็ก ควรฝึกสอนโดยชี้แจงความจริงที่ตัวได้รู้ และได้คุ้นเคยมาก่อนทั้งฝ่ายคุณและฝ่ายโทษ ให้เด็กได้ความรู้ยิ่งขึ้นโดยลำดับ เป็นทางที่จะรักษาตัวให้เป็นไปทางข้างชอบดังนี้ จึงจะเรียกว่าเป็นการฝึกสอนที่ชอบ
ทุกวันนี้ผู้ใหญ่เราบางคนอยากจะให้เด็กนอนก็หลอกเด็กว่าถ้าไม่นอนจะมีตุ๊กแกมากินตับ เด็กมันเชื่อถือจึงยอมนอน ผู้ใหญ่กลับเห็นว่าเป็นวิธีที่ดี โดยหมิ่นเด็กว่าปัญญายังอ่อน หลอกลวงให้ทำอะไรได้ง่ายๆตามใจ
หาคิดไม่ว่าเป็นโทษแก่ตัวเด็ก ด้วยเรากล่าวเท็จเป็นตัวอย่างให้มันจำ แลเคยใจว่าความเท็จย่อมจะดี ผู้ใหญ่เขาจึงกล่าว
หรือมิฉะนั้นมันจับว่าหลอกมันได้เมื่อไร จะบอกกล่าวสั่งสอนอันใดมันก็ย่อมคลางแคลง ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ เมื่อว่าโดยย่อนิสัยเด็กกับผู้ใหญ่มันก็นิสัยคนเหมือนกัน ผิดกันแต่ที่อ่อนกับแก่ ทำสิ่งใดเป็นความชั่วแก่ผู้ใหญ่มันก็ชั่วแก่เด็กเหมือนกัน”
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
นำมาเกริ่นเป็นเบื้องต้นของเรื่องที่จะพูดให้ฟังในวันนี้ ก็เพราะเห็นว่าสมัยก่อนหลอกกันแค่เด็กเท่านั้น แต่ในสมัยนี้หลอกกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่จนมั่วไปหมด
กระบวนท่าแห่งการหลอกล่อในหมู่พวกเดียวกันอย่างนี้ ศัพท์ที่ใช้ในทางการทหารเขาเรียกว่า “ปฏิบัติการทางจิตวิทยา” คือหาวิธีการต่างๆ มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การโฆษณา เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งพอใจ เห็นดีเห็นงามตามไปด้วย หรือเกิดความไม่พอใจต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เป็นต้น ซึ่งการ “ปฏิบัติการทางจิตวิทยา”ที่ว่านี่แหละในยามสงครามใช้คำว่า “สงครามจิตวิทยา” ซึ่งเป็นคำที่ทหารรู้จักกันดีในกระบวนท่าที่จะนำมาใช้กับคู่ต่อสู้ในสนามรบ
ขอย้ำว่าใช้กับคู่ต่อสู้ในสนามรบเท่านั้น
ไม่ใช่นำมาใช้กับพวกเดียวกัน เพราะถ้านำมาใช้กับพวกเดียวกันแล้ว ก็ไม่ผิดอะไรกับคำสอนใจของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพที่ยกมาให้อ่านข้างต้นคือหลอกให้เชื่อและทำตาม
หลักการทำสงครามจิตวิทยานั้น ใครเป็นทหารย่อมเคยร่ำเรียนมาแล้วแทบทั้งสิ้นในโรงเรียนทหารระดับสูง ประกอบด้วย 3 หลักใหญ่ในการใช้ ประกอบด้วย
1.การสร้างความหวัง
2.การยังความกลัว
3.การยั่วให้เกลียด
ทั้ง 3 หลักดังกล่าวจะถูกหยิบยกมาประกอบใช้ในการต่อสู้กับข้าศึกเพื่อชัยชนะในเบื้องหน้า ไม่ว่าการต่อสู้นั้นจะเป็นการต่อสู้ในรูปแบบของสงครามปกติทั่วไป หรือการต่อสู้ในรูปแบบของสงครามนอกแบบต่างๆ เช่น สงครามจำกัดเขต หรือสงครามจรยุทธ หรือสงครามกองโจร
สาระสำคัญของหลักการแต่ละอย่างดังกล่าวนั้น พอจะสรุปความหมายในทางปฏิบัติของแต่ละหลักการได้คือ
1.การสร้างความหวังให้เกิดขึ้นกับคนอีกฝ่ายหนึ่งหรือแม้กระทั่งกับคนในฝ่ายเดียวกันให้รู้สึกว่า ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกว่าที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งที่ได้มาดังกล่าวนั้นจะต้องร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้เพื่อให้ไปถึงจุดนั้น
2.การยังความกลัวด้วยการใช้วิธีการต่างๆที่รุนแรงหรือโหดเหี้ยม เพื่อข่มขวัญและกำลังใจของคู่ต่อสู้ แม้กระทั่งกับประชาชนของอีกฝ่ายหนึ่งให้เกิดความเกรงกลัว ไม่ร่วมมือกับผู้ถืออำนาจ หรือหันมาเข้ากับฝ่ายตน
3.การยั่วให้เกลียดด้วยการสร้างข่าวสารหรือเรื่องราวต่างๆให้เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายหนึ่ง หรือเกิดความโกรธแค้นไม่ยอมทำตามคำสั่ง แม้กระทั่งการปล่อยข่าวเสียหายต่างๆต่อบุคคลที่เป็นที่ยอมรับนับถือ เพื่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องและเอาใจออกห่าง
ทั้ง 3 หลักดังกล่าวเป็นหลักการสำคัญในการปลุกระดมให้เกิดความเห็น หรือเกิดความรู้สึกคล้อยตาม หรือเชื่อไปตามนั้น โดยมีการกระทำผ่านสื่อต่างๆที่มีอยู่ ซึ่งสามารถถ่ายทอดไปสู่ความรับรู้ของผู้คนทั้งหลาย หรือการผลิตใบปลิวแจกจ่าย แม้กระทั่งคำปราศรัย คำกระซิบกระซาบจากปากหนึ่งไปสู่อีกปากหนึ่ง รวมถึงการทำโพลล์ชี้นำ
บ้านเมืองที่ผ่านๆมาในอดีต โดยเฉพาะในยุคที่ได้คนไม่ดีมามีอำนาจทางการเมืองนั้น หลักการ 3 ประการของสงครามจิตวิทยาที่นำมากล่าวข้างต้น ล้วนแต่ถูกนำมาปฏิบัติใช้ เพื่อให้เกิดความพออกพอใจในการทำงานของคนไม่ดีแต่มีอำนาจในมือ หรือเกิดความหวังในการนำพาประเทศชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญก้าวหน้า แม้กระทั่งเกิดความหวาดกลัวในคำสั่งหรือคำพูดที่แล้วแต่จะประดิดประดอยขึ้นมาด้วยวาทะที่จัดจ้านน่าเกรงขามทั้งสิ้น
ความเสียหายใหญ่หลวงจึงเกิดขึ้นให้เห็นสืบเนื่องมาถึงทุกวันนี้ จากการปฏิบัติการทางจิตวิทยา หรือการทำสงครามจิตวิทยากับผู้คนในหมู่พวกเดียวกันด้วยหลัก 3 ประการดังกล่าวมาข้างต้น
คณะที่ทำรัฐประหารและถืออำนาจในมือขณะนี้ ต้องไม่ทำสงครามจิตวิทยากับหมู่พวกหรือประชาชนในประเทศอย่างที่ทำกันมาดังกล่าว โดยเฉพาะจะต้องไม่ปฏิบัติตนในการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ตนและพรรคพวกอย่างพวกไม่ดีทั้งหลายที่ถูกยึดอำนาจ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ไหน ทั้งในฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ
ไม่ฟุ้งซ่านไปกับการเอออวยที่เลยเถิด
ไม่กร่างจนดูน่าหมั่นไส้มากกว่าน่ากลัว
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี