สวัสดีครับท่านผู้อ่าน เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ช่วงนี้เริ่มมีฝนตกประปรายในหลายพื้นที่ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถลดอุณหภูมิความร้อนแรงของกระแสการเมืองที่เข้มข้นและเป็นที่จับตาของทุกคนได้เลยนะครับ เมื่อกล่าวถึงเรื่องกระแสการเมืองแล้ว ผมจึงถือโอกาสเล่าเรื่องที่น่าสนใจจากงานแถลงข่าวขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ซึ่งผมได้มีโอกาสเข้าร่วมฟังในอาทิตย์ที่ผ่านมาให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบกันครับ
คอร์รัปชันยังคงเป็นปัญหาวิกฤติที่ประชาชนต้องการให้มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ดังเห็นได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อประเด็นนี้จากโพลหลายสำนักที่ชี้ไปในทางเดียวกัน เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าภาคการเมืองนั้นมีส่วนสำคัญในการทำให้การคอร์รัปชันยังคงอยู่ หรือ จะแก้ไขให้หายไปได้ ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่าภาคการเมืองนั้นประกอบไปด้วยส่วนสำคัญอย่าง รัฐบาล ซึ่งมีหน้าที่ในการบริหารประเทศ มีอำนาจในการตรากฎหมาย ออกนโยบาย ใช้จ่ายงบประมาณของประเทศ และฝ่ายค้านซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนทำหน้าที่ถ่วงดุลตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐบาล
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านสร้างเสริมธรรมาภิบาลต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันจึงได้จัดงานแถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่เน้นปราบโกง ลงมืออย่างจริงจังไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมขอให้กลไกรัฐสภาตลอดจนทุกพรรคการเมือง ร่วมตรวจสอบการทำงานเพื่อความโปร่งใส และได้รวบรวมความคิดเห็นของประชาชน ทบทวนงานที่ภาคส่วนต่างๆ ได้ขับเคลื่อนตลอดมา เพื่อกำหนดเป็นข้อเสนอถึงรัฐบาลชุดใหม่รับไปเป็นนโยบายด้านการต่อต้านคอร์รัปชันและการสร้างเสริมระบบธรรมาภิบาลอย่างเป็นรูปธรรมให้สอดคล้องกับเสียงเรียกร้องของประชาชน ใน 6 วาระสำคัญ ดังนี้
(1) รับฟังเสียงประชาชน ปกป้องและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยพัฒนารูปแบบกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนจากเดิมที่ยังให้ผลอย่างจำกัด ประสานงานร่วมมือกับองค์กรภาคประชาชนที่มีความเชี่ยวชาญในประเด็นต่างๆ เช่น สิ่งแวดล้อม การศึกษา สาธารณสุข ฯลฯ ร่วมทำงานเชิงรุกในการป้องกันปัญหาคอร์รัปชันในประเด็นนั้นๆ
(2) เปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการใช้อำนาจในการบริหาร ในรูปแบบที่ประชาชนเข้าถึงง่าย นำไปใช้วิเคราะห์ได้ เพื่อให้ภาคประชาชนและสื่อมวลชนได้มีส่วนร่วมในการติดตามตรวจสอบ ช่วยรัฐในการวิเคราะห์ความผิดปกติ ซึ่งเป็นการสร้างความโปร่งใส สร้างการมีส่วนร่วมและแสดงถึงการมีธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศ ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างความสำเร็จในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ
ในส่วนนี้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ก็ได้ริเริ่มโครงการร่วมกับภาคีเครือข่ายในการสร้างระบบที่จะช่วยให้การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐที่เป็นข้อมูลเปิดแล้วนั้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลภาครัฐได้สะดวก มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้
(3) กำกับดูแลคนในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีพฤติกรรมฉ้อฉล คดโกง และมีมาตรการลงโทษ ถอดถอนอย่างชัดเจน หากมีปัญหาส่อเค้าไปในทางทุจริตจะต้องรีบจัดการแก้ไขในทันที
(4) สนับสนุนให้องค์กรตรวจสอบ เช่น ป.ป.ช. ได้ทำงานอย่างเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซง เพื่อให้กลไกขององค์กรอิสระได้ทำงานตามระบบ
(5) การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการต้องมีความโปร่งใส เป็นธรรม มีหลักการเหตุผลชัดเจน ไม่เห็นแก่พวกพ้อง จะทำให้ระบบราชการขับเคลื่อนไปได้อย่างสมความคาดหวังของประชาชนมากขึ้น
(6) สร้างความต่อเนื่อง ขยายผลสิ่งที่ทำได้ดีแล้ว และการบังคับใช้ข้อกฎหมายอย่างเข้มข้น เช่น พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตอนุมัติของทางราชการฯ และข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ที่เป็นกลไกความร่วมมือระหว่างรัฐและภาคประชาชนในการสร้างความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถประหยัดงบประมาณภาครัฐได้จริงกว่าแสนล้านบาทแล้ว รวมทั้งกระบวนการลดทอนกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่ล้าสมัยและอาจก่อให้เกิดโอกาสการเรียกรับสินบนได้ ดังที่ได้ทำมาแล้วในโครงการที่ชื่อว่า Regulatory guillotine
ความเห็นของผมคือ หากรัฐบาลใหม่ทำตามหลักการสำคัญ 6 ข้อนี้ ได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากจะได้ใจประชาชน และสามารถสร้างเสถียรภาพทางการเมืองได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังจะเป็นการสร้างโอกาสให้สังคมไทยสามารถหนีพ้นจากปัญหาคอร์รัปชันแบบเก่าๆ ที่กัดกินสังคมไทยมาเป็นเวลานานได้เสียที
อย่างไรก็ตาม แม้ภาคการเมืองจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสลดและล้างการคอร์รัปชันในสังคมไทย แต่โอกาสนั้นจะไม่สามารถนำพาไปสู่ความสำเร็จได้เลย หากขาดความร่วมมือจากประชาชนที่ตื่นรู้สู้โกง จึงสำคัญอย่างยิ่งที่ประชาชน สื่อมวลชนจะต้องมีสติ ติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด และแสดงออกในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันตามกลไกภาคประชาชน เพราะที่สุดแล้วถึงแม้จะไม่สามารถทำให้คนโกงรับโทษในทันทีได้ แต่เราก็ยังสามารถใช้กลไกทางระบอบประชาธิปไตย ไม่เลือกนักการเมืองและพรรคการเมืองเหล่านั้นเข้ามาบริหารประเทศในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไปครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี