วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ / ลงมือสู้โกง โดย...เจนจิรา บำรุงศิลป์
ลงมือสู้โกง โดย...เจนจิรา บำรุงศิลป์

ลงมือสู้โกง โดย...เจนจิรา บำรุงศิลป์

เจนจิรา บำรุงศิลป์
วันพุธ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
COVID-19 สู่วิกฤติการโกงกินกับความเชื่อมั่นในรัฐบาล

ดูทั้งหมด

  •  

Marc Lipsitch ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยา พลศาสตร์โรคติดต่อ ซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้พูดถึงโรคระบาดโคโรนาไวรัส หรือ COVID-19 ว่าอาจจะเป็นไข้หวัดร้ายแรงที่สุดแห่งยุคนี้ ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยว่า COVID-19 ดูเหมือนจะเป็นไข้หวัดชนิดหนึ่งที่เลวร้ายที่สุดของปัจจุบันเลยก็ว่าได้ เนื่องจากขณะนี้องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ การระบาดของไวรัสโคโรนาหรือ COVID-19 เป็นภาวะการระบาดใหญ่ทั่วโลก (Pandemic) และรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ณ วันที่ผู้เขียนได้เขียนบทความนี้อยู่ มียอดผู้ติดเชื้อรวม 121,564 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 4,373 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 11 มีนาคม 2563 โดย Johns Hopskins CSSE) สำหรับประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ 59 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย โดยหวังใจอย่างยิ่งว่าวันที่บทความนี้ได้ตีแผ่หรือวันที่ผู้อ่านกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ยอดจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง

การแพร่ระบาดไปทั่วโลกที่เกิดขึ้นของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในสังคม แต่สิ่งหนึ่งที่ใกล้ตัวพวกเราทุกคนและปรากฏอย่างเห็นได้ชัดคือ ภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์พื้นฐานในการป้องกันเชื้อโรคเบื้องต้นที่ประชาชนจะดูแลตนเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ในโรงพยาบาล ซึ่งมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วย ตัวอย่างภาวะการขาดแคลนนี้เห็นได้ชัดจากการติดป้ายของร้านค้า ร้านขายยาที่ผ่านมาว่าไม่มีหน้ากากอนามัยบ้าง หน้ากากอนามัยขาดตลาดบ้าง รวมไปถึงตัวอย่างเช่น คำแถลงการณ์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เรื่อง กรณีการบริหารจัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ตอนหนึ่งใจความว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลไม่สามารถจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัยชนิด N95 หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพยท์ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลในการดูแลผู้ป่วย เป็นต้น


เมื่อสินค้าอย่างหน้ากากอนามัย ไม่เพียงพอต่อความต้องการในภาวะวิกฤติโรคติดเชื้อโคโรนานี้ ผู้ประกอบการบางส่วนจึงมีการกักตุนสินค้าและหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร ซึ่งข่าวร้อนแรงที่ผ่านมาจากแฮชแท็ก #Saveแหม่มโพธิ์ดำ เรื่องราวมาจากเพจเฟซบุ๊ค “แหม่มโพธิ์ดำ” ได้เผยแพร่เรื่องราวการกักตุนหน้ากากอนามัยและนำไปขายเกินราคาของผู้ประกอบการท่านหนึ่ง และจากเพจเฟซบุ๊ค “ต้องแฉ” ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูลต่อประเด็นดังกล่าวว่า ไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ และพบเห็นผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยขายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ราคาสูงเกินความจำเป็น เช่น 50 ชิ้น ราคา 600-800 บาท หรือตกแผ่นละมากกว่า 10 บาทเลยทีเดียว ซ้ำไปกว่านั้นมีกระแสข่าวต่อมาคือ โฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่าภาพรวมการส่งออกหน้ากากอนามัยในเดือนม.ค. และ ก.พ. 2563 รวม 2 เดือน มีการส่งออกหน้ากากอนามัยทั้งสิ้นกว่า 330 ตัน คิดเป็นมูลค่า 160 ล้านบาท แม้ต่อมากรมการค้าภายในจะออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงแต่ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมต่อประเด็นนี้อย่างมาก ทุกคนหันมาให้ความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์ ร่วมหาคำตอบกันว่าในขณะที่ประชาชนทั่วไปหาซื้อหน้ากากได้ยาก แต่กลับมีผู้ส่งออกหน้ากากจำนวนมหาศาลนี้ได้อย่างไร

จากปัญหาการกักตุนและโกงราคาหน้ากากอนามัยทั้งหลายนี้ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตได้ว่าประชาชนเริ่มตื่นตัวกับปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะปัญหาทุจริตคอร์รัปชันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป จนไม่อาจทนต่อพฤติกรรมโกงกินเหล่านี้ได้อีกต่อไป ทุกคนพยายามมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหา ช่วยกันสอดส่อง ตรวจสอบ และเปิดเผยข้อมูลที่ส่อความไม่ชอบมาพากล อย่างไม่รีรอการจัดการของภาครัฐอีกต่อไป นัยหนึ่งผู้เขียนมีความเห็นว่าสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ความเชื่อมั่น ความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อการบริหารจัดการของรัฐลดน้อยลง แต่ยังคงหวังว่ารัฐจะสนับสนุนและปกป้องให้ทุกคนสามารถร่วมลงมือกันเปิดโปงการโกงกินต่างๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวลหรือกลัวการโดนข่มขู่และคุกคาม รวมถึงต้องการให้รัฐบาลแสดงถึงความจริงใจและจริงจังในการแก้ไขปัญหา เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคนไทยในภาวะวิกฤติเช่นนี้

ผู้เขียนมีความเห็นว่า สิ่งที่รัฐจะสร้างความเชื่อมั่นในยามวิกฤตินี้ได้ ทั้งในแง่การระบาดของโรค และแง่ของความรับผิดชอบต่อปัญหาโกงกินทั้งหลายที่เกิดขึ้น คือ การแสดงออกถึงภาวะผู้นำประเทศ สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา เรียกขวัญกำลังใจของประชาชน แสดงให้เห็นถึงมาตรการที่ชัดเจนและลงมือทำอย่างรวดเร็ว ให้ข้อมูลที่ถูกต้องทันท่วงที โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลระยะ 5 ปี (ปีพ.ศ. 2560 – 2564) กำหนดว่าในประเด็นภาวะวิกฤติจะต้องมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบูรณาการทำงานของหน่วยงานทุกงานที่เกี่ยวข้อง ให้ข้อมูลถึงประชาชนในแบบรวมศูนย์ เมื่อมองมาที่สถานการณ์ปัจจุบันลองตั้งคำถามกันดูว่า สิ่งเหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้จริงในสถานการณ์ขณะนี้แล้วหรือไม่อย่างไร และสิ่งสำคัญในตอนนี้อีกประการหนึ่งคือ การจะทำอย่างไรให้พลังแห่งความต้องการเปิดโปงของประชาชน สามารถสู้กับวิกฤติการโกงกินนี้ได้ เมื่อพูดถึงการต่อสู้นี้แล้ว ผู้เขียนมีความเห็นว่า การต่อสู้ของประชาชนต้องไม่สูญเปล่า รัฐต้องแสดงถึงจุดยืนความจริงใจ มีกลไกปกป้องประชาชนผู้เผยข้อมูลไม่ให้ถูกคุกคาม หรือกล่าวได้ว่ารัฐควรมีความจริงใจและจริงจังต่อมาตรการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower Protection Act) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญสำหรับการต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อสร้างหลักประกันและเอื้อให้ประชาชนพร้อมเปิดโปง ส่งเสริมความเป็น Active Citizen ของประชาชนที่ช่วยกันสอดส่อง ตรวจสอบการโกงกิน การเห็นแก่ส่วนตนหรือประโยชน์พวกพ้องในยามบ้านเมืองเผชิญกับโรคระบาดอันยิ่งใหญ่นี้ และรัฐต้องใช้กลไกการตรวจสอบแห่งอำนาจรัฐเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะนำพาประเทศชาติผ่านพ้นสิ่งเหล่านี้ไปได้

ผู้เขียนจึงขอยกแนวทางการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower Protection Act) ที่กลุ่มประเทศ G20 หรือกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ได้สรุปไว้ 5 ประการ ดังนี้

1.กฎหมายต้องกำหนดว่าอะไรคือการเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับความคุ้มครอง และใครจะได้รับความคุ้มครองบ้าง ผู้ที่จะได้รับความคุ้มครองต้องครอบคุมกว้างขวางหรือเรียกได้ว่า“No loophole approach” เพื่อไม่ให้การทุจริตคอร์รัปชันรอดพ้นสายตาประชาชน

2.ความคุ้มครองตามกฎหมายต้องครอบคลุมรอบด้าน เพื่อให้ผู้เปิดเผยข้อมูลไม่กังวลและพร้อมจะเปิดเผยให้ข้อมูลนั้นๆสิ่งที่สำคัญประการแรก คือ ต้องไม่เปิดเผยตัวตนผู้ให้ข้อมูล เว้นแต่ได้รับความยินยอม ต่อมาห้ามไม่ให้มีการกระทำแก้แค้น กลั่นแกล้ง คุกคามผู้เปิดเผยข้อมูล เช่น ลดตำแหน่ง เปลี่ยนแปลงหน้าที่ การนำไปพิจารณาค่าตอบแทนหรือสวัสดิการ หรือการตัดสินใจและการกระทำที่ไม่ชอบมาพากล เป็นต้น

3.กฎหมายต้องระบุถึงช่องทางในการเปิดเผยข้อมูลไว้ให้ชัดเจน กล่าวคือกำหนดความชัดเจนของช่องทางและขั้นตอนในการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งมักจะกำหนดการเปิดเผยเป็น 3 ชั้น คือ เปิดเผยต่อหน่วยงานตรวจสอบดูแลภายในองค์กร, เปิดเผยต่อหน่วยงานต่อหน่วยงานภายนอกองค์กร และเปิดเผยต่อสื่อมวลชนและสาธารณะ

4.จัดให้มีองค์กรที่ทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนและดำเนินคดีเกี่ยวกับการกระทำผิดต่อผู้เปิดเผยข้อมูล

5.ต้องมีองค์กรที่ทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนและดำเนินคดี ในกรณีการกระทำที่แก้แค้น กลั่นแกล้ง หรือคุกคามผู้เปิดเผยข้อมูล โดยต้องดูแลและดำเนินการให้อย่างถึงที่สุด

มีการกระตุ้นให้คนตื่นตัวและรู้สิทธิตามกฎหมายปกป้องผู้เปิดเผยข้อมูล อีกทั้งมีการตรวจสอบประสิทธิภาพของกลไกคุ้มครองผู้เปิดเผยข้อมูลอยู่ตลอด ต้องให้ประชาชนรู้สิทธิและการใช้ประโยชน์มากพอจนเกิดความมั่นใจและพร้อมจะเปิดเผยข้อมูล รวมไปถึงการมีระบบประเมินผลดำเนินการทางกฎหมายอยู่ตลอด เพื่อความมีประสิทธิภาพในการบังคับใช้งาน

การให้หลักประกันคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower Protection Act) เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะสิ่งที่ประชาชนหรือผู้ให้ข้อมูลนั้นต้องการจะได้รับจากบุคคลหรือหน่วยงานผู้มีอำนาจแห่งรัฐ คือ การได้รับความคุ้มครอง ไม่ถูกตอบโต้หรือถูกคุกคามไม่ว่ากรณีใดๆ ดังนั้น การที่ประชาชนจะพร้อมออกมาให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะ เปิดเผยการฉ้อโกงหรือการทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ ได้นั้น ขึ้นอยู่กับมาตรการ หรือกฎหมายที่เคร่งครัดและชัดเจนในการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล และสิ่งเหล่านี้จะต้องถูกนำมาปฏิบัติใช้อย่างจริงจัง มิใช่การมีไว้ซึ่งกฎหมายและหลักเกณฑ์ประดับไว้เพียงเท่านั้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:45 น. 'อียิปต์'พบ'หลุมศพหินโบราณ 3 แห่ง' ในสุสานเก่าแก่ใกล้เมืองอัสวาน
22:41 น. ไล่ล่าระทึก! สกัดจับแก๊งค้ายา ยึดไอซ์ล็อตใหญ่ 410 กก.
22:33 น. 'สกลธี'ซัดเจ็บจี๊ด! แค่หน้าที่'ฝ่ายค้าน'ยังทำไม่ได้ อย่าคิดบริหารปท.
22:14 น. แซ่บไฟลุก! 'จ๊ะ นงผณี'ในชุดแดงเพลิง ทำแฟนๆแทบลืมมองหน้า
22:02 น. ทำสำเร็จ! ‘ก้อง สมเกียรติ’คว้าแต้มแรกโมโตจีพี
ดูทั้งหมด
นักวิชาการลงชื่อ‘ถวายฎีกา’ ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง
วอน'ญี่ปุ่น'ช่วยหย่าศึก! 'ฮุน เซน'ขอร้องให้ช่วยพูดกับไทย จี้ให้ศาลโลกช่วยตัดสินปมพื้นที่พิพาท
สจ.ปทุมฯลวง'สจ.สาว' อ้างพาส่งที่พัก เลี้ยวเข้าโรงแรม หวังย่ำยี
‘อ.ไชยันต์’บอกใบ้! อะไรทำสัมพันธ์‘ทักษิณ-ฮุนเซน’ต้องหักสะบั้น
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
ดูทั้งหมด
Grand Shanghai Chinese (แกรนด์ เซี่ยงไฮ้ ไชนีส)
ปฏิบัติการ ‘แก้ผ้าตัวเอง’ ของ ‘ฮุนเซน’
แผ่นดินสูงขึ้นเมื่อไร้นักการเมืองเลว
บุคคลแนวหน้า : 29 มิถุนายน 2568
ทายาท (อสูร) การเมืองไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไล่ล่าระทึก! สกัดจับแก๊งค้ายา ยึดไอซ์ล็อตใหญ่ 410 กก.

'สกลธี'ซัดเจ็บจี๊ด! แค่หน้าที่'ฝ่ายค้าน'ยังทำไม่ได้ อย่าคิดบริหารปท.

'อียิปต์'พบ'หลุมศพหินโบราณ 3 แห่ง' ในสุสานเก่าแก่ใกล้เมืองอัสวาน

แซ่บไฟลุก! 'จ๊ะ นงผณี'ในชุดแดงเพลิง ทำแฟนๆแทบลืมมองหน้า

ทำสำเร็จ! ‘ก้อง สมเกียรติ’คว้าแต้มแรกโมโตจีพี

นักท่องเที่ยวโดดหนีตาย พายุพัดถล่มบ้านขุนสมุทรจีน-โฮมสเตย์พังยับ

  • Breaking News
  • \'อียิปต์\'พบ\'หลุมศพหินโบราณ 3 แห่ง\' ในสุสานเก่าแก่ใกล้เมืองอัสวาน 'อียิปต์'พบ'หลุมศพหินโบราณ 3 แห่ง' ในสุสานเก่าแก่ใกล้เมืองอัสวาน
  • ไล่ล่าระทึก! สกัดจับแก๊งค้ายา ยึดไอซ์ล็อตใหญ่ 410 กก. ไล่ล่าระทึก! สกัดจับแก๊งค้ายา ยึดไอซ์ล็อตใหญ่ 410 กก.
  • \'สกลธี\'ซัดเจ็บจี๊ด! แค่หน้าที่\'ฝ่ายค้าน\'ยังทำไม่ได้ อย่าคิดบริหารปท. 'สกลธี'ซัดเจ็บจี๊ด! แค่หน้าที่'ฝ่ายค้าน'ยังทำไม่ได้ อย่าคิดบริหารปท.
  • แซ่บไฟลุก! \'จ๊ะ นงผณี\'ในชุดแดงเพลิง ทำแฟนๆแทบลืมมองหน้า แซ่บไฟลุก! 'จ๊ะ นงผณี'ในชุดแดงเพลิง ทำแฟนๆแทบลืมมองหน้า
  • ทำสำเร็จ! ‘ก้อง สมเกียรติ’คว้าแต้มแรกโมโตจีพี ทำสำเร็จ! ‘ก้อง สมเกียรติ’คว้าแต้มแรกโมโตจีพี
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เป็นไปได้ไหม กรุงเทพฯ ที่ไร้โกง ?

เป็นไปได้ไหม กรุงเทพฯ ที่ไร้โกง ?

22 มิ.ย. 2565

ถนนไทยจะปูด้วยทองคำก็ยังได้ ถ้า...

ถนนไทยจะปูด้วยทองคำก็ยังได้ ถ้า...

12 ม.ค. 2565

ไข‘เครื่องมือต้านโกง’จากประเด็นร้อนเสาไฟกินรี

ไข‘เครื่องมือต้านโกง’จากประเด็นร้อนเสาไฟกินรี

16 มิ.ย. 2564

Corruption Hunters นักล่าคอร์รัปชันยุคใหม่

Corruption Hunters นักล่าคอร์รัปชันยุคใหม่

20 ม.ค. 2564

สร้าง-ทิ้ง-ร้าง ความสิ้นเปลืองจากงานเสร็จแต่ไม่สำเร็จ

สร้าง-ทิ้ง-ร้าง ความสิ้นเปลืองจากงานเสร็จแต่ไม่สำเร็จ

2 ธ.ค. 2563

การเปิดเผยข้อมูลเงินกู้ 4 แสนล้านสู้โควิด สู้วิกฤติคอร์รัปชัน

การเปิดเผยข้อมูลเงินกู้ 4 แสนล้านสู้โควิด สู้วิกฤติคอร์รัปชัน

29 ก.ค. 2563

COVID-19 สู่วิกฤติการโกงกินกับความเชื่อมั่นในรัฐบาล

COVID-19 สู่วิกฤติการโกงกินกับความเชื่อมั่นในรัฐบาล

18 มี.ค. 2563

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved