วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
nn กระทรวงพาณิชย์....แถลงตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน 2562..โดยระบุว่ามีมูลค่า 21,409 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบ 2.15% และติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แต่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนพฤษภาคม ที่ติดถึง 6.20%...เหตุผลหลักๆ ก็มาจากปัญหาสงครามการค้าจีนและสหรัฐยังเป็นแรงกดดันต่อการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีน ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรกของไทย นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า...ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกครึ่งปีแรกมีมูลค่ารวม 122,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบ 2.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ถ้ามองแค่นี้ก็ไม่น่าห่วง เพราะยังมีความหวังว่าในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์น่าจะดีขึ้นได้...แต่หากว่าไปดูตัวเลขส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำและอาวุธ...ตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน...ติดลบถึง -8.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (จากการส่งออกทองคำเดือนมิ.ย. ขยายตัวในระดับสูงถึง 317.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) และหากไม่รวมการส่งกลับอาวุธไปยังสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ มูลค่าส่งออกของไทยหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ทำให้ช่วงครึ่งปีแรก มูลค่าการส่งออกหดตัวที่ -4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สินค้าส่งออกสำคัญที่มีการหดตัวยังคงเป็นสินค้าที่เป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานของการผลิตสินค้าส่งออกของจีน เช่น คอมพิวเตอร์-อุปกรณ์ และ ส่วนประกอบ ที่ลดลง 15.5% เคมีภัณฑ์และพลาสติก ลดลง 19.3% และแผงวงจรไฟฟ้า ลดลง 20.6% ส่วนสินค้าอื่นที่ไม่เกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานของจีนก็ลดลงเช่นกัน เช่น ข้าว ลดลง 34.6% เม็ดพลาสติก ลดลง 17.6% เครื่องใช้ไฟฟ้า ลดลง 5.9% ผลิตภัณฑ์ยาง ลดลง 9.2% น้ำตาลทราย ลดลง -19.4% นอกจากนี้หากพิจารณา ถึงตลาดการส่งออกที่สำคัญ ก็น่าเป็นห่วงเช่นกันเพราะหดตัวเกือบทุกตลาด แน่นอนโดยเฉพาะตลาดจีนที่หดตัวถึง 14.9% ขณะที่ตลาด CLMV หดตัว 9.3%
เมื่อการส่งออกมีสภาพแบบนี้ ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจการไทยแน่นอนเพราะการส่งออกคิดเป็น 60-70% โครงสร้างเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ผลของการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่องนานหลายเดือน ได้ส่งผลไปยังภาคเศรษฐกิจอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวลงของภาคท่องเที่ยว และการลงทุนภาคเอกชน และในที่สุดก็จะลามไปถึงเรื่อการจ้างงาน และลากเอากำลังซื้อภาคครัวเรือนให้ดิ่งตามลงมาด้วยเช่นกัน และเลวร้ายที่สุดก็ไปถึงจุดที่ภาคครัวเรือนหมดความสามารถในการชำระหนี้....
วานนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้แถลงข่าวจากหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงเพื่อมอบนโยบาย ว่า จะไปดึง 4 บริษัทใหญ่ให้ย้ายฐานการาลผลิตจากจีนมายังประเทศไทย คาสิโอ ผู้ผลิตนาฬิกา, ริโก้ ผู้ผลิตอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติและเครื่องใช้สำนักงาน, ซิตี้ เชน วอช ผู้ผลิตนาฬิกา และไซ หลุน ไทร์ ผู้ผลิตยางล้อรถยนต์....คำถาม คือย้ายฐานการผลิตมามันง่ายซะที่ไหน...ถึงมาจริงก็ต้องถามว่าเม็ดเงินลงทุน การจ้างงาน จริงจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่....มันจะเยียวยาเศรษฐกิจไทยที่กำลังพังอยู่ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ได้หรือไม่....คนระดับกลางระดับล่างจะทนรอถึงวันนั้นได้หรือเปล่า...????
แต่เรื่องนี้ค่อยว่ากัน...ที่อยากจะเน้นวันนี้คือ...เรื่องผลกระทบจากสงครามการค้า...มีการเตือนรัฐบาลมาร่วม 1-2 ปีแล้ว...แต่ช่วงแรกๆรัฐบาลกลับดูเบาปัญหา...ซ้ำยังออกมาบอกว่า น่าจะเป็นโอกาสของภาคการส่งออกของไทยด้วยซ้ำไป ที่จะส่งสินค้าเข้าไปขายสหรัฐทดแทนสินค้าจากจีน..ไม่รู้ว่าถึงวันนี้จะเข้าใจหรือยังว่า เมื่อเบอร์หนึ่งและเบอร์สองด้านเศรษฐกิจของโลกมีปัญหากัน มันส่งผลกระทบกระจายไปทั่วโลก...
ที่ผ่านมาเราเอาตัวเองไปผูกกับจีนมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเรื่องส่งออก ท่องเที่ยว ไปจนถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่แห่กันสร้างหวังขายเศรษฐีจีน...มาวันนี้เป็นไง ส่งออกไปจีนก็ลด นักท่องเที่ยวหายหด อสังหาริมทรัพย์ที่แห่สร้างกันไว้ ก็เหลือล้นตลาด...ซ้ำร้ายตอนนี้กลุ่มลงทุนจากจีนยังเข้ามาแย่งงานในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในไทยอีกนั้นไม่พอยังส่งสินค้า อย่างเหล็กเส้น เหล็กแผ่นรีดร้อน-รีดเย็น ฯลฯ เข้ามาทุ่มตลาดเราอีก....
ถึงขั้นนี้แล้วยังบอกว่ายังไม่เห็นสัญญาณของ “ฟองสบู่แตกอีกรอบ”
กระบองเพชร

ตอกหน้าฝรั่งดูแคลน! ประภาส เปิดอภินิหารคำว่า แล้ว พิสูจน์ความลึกซึ้งที่เหนือกว่า Tense
(คลิป) สื่อเขมร รายงานจริงครั้งแรก! ไทย ใช้ F-16 ทิ้งบอมปอยเปตพังท่องเที่ยวกัมพูชา
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต
ทรัมป์ กร้าว ต้องการ กรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงของ สหรัฐฯ
เขมรกล่าวหาไทย ทิ้งระเบิด พ่นควันพิษ เป็น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี