วันพุธ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / โลกการค้า
โลกการค้า

โลกการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2562, 06.00 น.
โอกาสส่งออกไทยในเวที ‘RCEP’

ดูทั้งหมด

  •  

nn Prof. Ludo Cuyvers ศาสตราจารย์อาคันตุกะ คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และศาสตราจารย์เกียรติคุณ ศูนย์การศึกษาอาเซียน มหาวิทยาลัยแอนต์เวิร์ป (University of Antwerp) ประเทศเบลเยียม ได้เปิดเผยข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับผลประโยชน์และศักยภาพการส่งออกของประเทศไทย (The Benefits of Full Trade Liberalization and Accessibility in RCEP for Thailand’s Export Potentials) ว่ามูลค่าการส่งออกของประเทศไทย สามารถผลักดันให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้กว่า 25% หากประเทศไทยได้รับโอกาสในการเปิดเสรีเศรษฐกิจและมีนโยบายการเลิกกีดกันทางการค้าโดยสิ้นเชิงภายใต้ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ Regional Comprehensive Economic Partnership (RCEP)

“RCEP” เป็นกรอบความตกลงทางการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนและประเทศสมาชิกอีก 6 ประเทศอันประกอบด้วย ประเทศจีน ประเทศอินเดีย ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งมีการประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศที่เกี่ยวข้องว่ารวมกันแล้วเท่ากับราว 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจากโครงการวิจัยเพื่อการศึกษาด้านเศรษฐกิจและการส่งออก ของ Prof. Cuyvers ชื่อว่า The Benefits of Full Trade Liberalization and Accessibility in RCEP for Thailand’s Export Potentials พบว่า ในสภาวะทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกที่ได้รับสิทธิเปิดเสรีเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์ จะส่งผลให้ประเทศนั้นสามารถเข้าถึงตลาดทางการค้าของแต่ละฝ่ายได้อย่างเต็มที่ รวมถึงประเทศไทยที่จะมีศักยภาพในการส่งออกเพิ่มขึ้นอีก 25% หรือประเมินเป็นมูลค่าได้ถึง 112.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ


จากการศึกษานี้ Prof. Cuyvers ใช้ระเบียบการวิจัยที่เรียกว่า “แบบจำลองสนับสนุนการตัดสินใจ” หรือ Decision Support Model (DSM) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบโดยเฉพาะเพื่อช่วยในการคัดสรรตลาดส่งออกสำหรับประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งสามารถช่วยในการวางแผนและประเมินกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกได้ ซึ่งแบบจำลองนี้ประกอบด้วย “ตัวกรอง” ที่เป็นระบบขั้นตอน เพื่อช่วยในการคัดเลือกการจัดคู่ประเทศและผลิตภัณฑ์ ซึ่งพิจารณาแล้วว่าน่าจะก่อให้เกิด “โอกาสการส่งออกที่เป็นจริง” หรือ “Realistic Export Opportunities (REOs)” ให้กับประเทศผู้ส่งออก จากการวิเคราะห์ด้วยระบบตัวกรองดังกล่าว ซึ่งจะรวมถึงปัจจัยต่างๆที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้า เช่น ความเสี่ยงทางการเมือง, ความเสี่ยงทางการค้า, ขนาดและความเติบโตของการนำเข้า, เครื่องมือกีดกันทางการค้า และส่วนแบ่งในตลาด เป็นต้น

จากการศึกษาครั้งนี้ ทีมวิจัยได้อาศัยข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคจากธนาคารโลก และข้อมูลการนำเข้าของแต่ละประเทศจากฐานข้อมูล 2017 CEPII BACI เป็นข้อมูลบรรทัดฐานในการวิเคราะห์ (CEPII BACI เป็นฐานข้อมูลการค้าโลกที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจและการค้าโลก CEPII ในฝรั่งเศส โดยอาศัยข้อมูลเบื้องต้นจากหน่วยจัดทำสถิติขององค์การสหประชาชาติ) หลังจากข้อมูลผ่านการกรองตามขั้นตอนของการศึกษา จะได้ค่า REOs หรือโอกาสการส่งออกที่เป็นจริง และศักยภาพการส่งออกของประเทศนั้นๆ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะถูกนำมาคำนวณภายใต้แบบจำลองของการเปิดเศรษฐกิจเสรีและการเข้าถึงอย่างเต็มที่ ผลที่ได้นำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลบรรทัดฐานข้างต้น และเมื่อมีการตัดปัจจัยสิ่งกีดกันทางการค้าทั้งหลายที่อยู่ภายใต้ RCEP ออกไป ผลปรากฏว่า REOs “ที่น่าสนใจที่สุด” อยู่ในประเทศที่ REOs เพิ่มมากที่สุด ซึ่งจากงานวิจัย จะพบว่าคือ ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม

อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศสมาชิกอื่น เช่น ประเทศจีน ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น หรือแม้แต่ประเทศไทย ซึ่งมีศักยภาพในการส่งออกสูง แม้มูลค่าของศักยภาพนี้จะเพิ่มน้อยกว่าการเพิ่มของ REOs แต่รายได้จากการส่งออกจะอยู่ในระดับที่สูง ดังนั้น Prof. Cuyvers จึงแนะนำผู้ส่งออกและหน่วยงานที่ส่งเสริมการส่งออกของประเทศไทยควรใส่ใจกับ REOs ในกลุ่มประเทศ RCEP ที่มีโอกาสสร้างรายได้การส่งออกที่สูงกว่ากลุ่มประเทศ RCEP นั้นเป็นกลุ่มเดียวกับ ASEAN+6 โดยแต่เดิมอาเซียนได้ร่วมลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีแบบทวิภาคี (FTA: Free Trade Agreement) กับประเทศนอกอาเซียนทั้งหก คือ ประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศอินเดีย ประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ แต่ด้วยเงื่อนไขใน FTA แต่ละฉบับมีความแตกต่างกันในด้านของสินค้าตามข้อตกลงและอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีก็ยังคงอยู่

FTA แบบทวิภาคีเหล่านี้จะถูกหลอมรวมในบริบทการเจรจาภายใต้ RCEP ซึ่งเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 ที่ประเทศกัมพูชา การเจรจาดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการประชุมสุดยอดของอาเซียนครั้งล่าสุดที่กรุงเทพฯ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากข้อมูลที่ใช้เป็นเส้นฐานในการศึกษาบ่งชี้ว่า ปัจจุบันปริมาณการส่งออกของไทยไปยังประเทศในกลุ่ม RCEP เท่ากับ 58.7% ของศักยภาพการส่งออกทั้งหมดของประเทศ และพบว่า ประเทศจีนเสนอศักยภาพสูงในแง่ของมูลค่าและจำนวน REOs ซึ่งประเทศจีน เป็นประเทศเดียวที่มี REOs ถึง 477 หน่วย เมื่อคำนวณแล้วเทียบเท่าศักยภาพการส่งออกถึง 32.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ประเทศไทยมีการส่งออกไปจีนเพียง 59.4% ของศักยภาพการส่งออกเท่านั้น จึงดูเหมือนว่ายังมีช่องทางให้ผู้ส่งออกไทยส่งสินค้าไปจีนได้อีกมาก

ส่วนประเทศที่มีศักยภาพในการส่งออกลำดับต่อมาคือ สิงคโปร์ (298 REOs เทียบเท่า 13 พันล้านเหรียญ), ญี่ปุ่น (366 REOs เทียบเท่า 12.6 พันล้านเหรียญ) และเกาหลีใต้ (305 REOs เทียบเท่า 9.4 พันล้านเหรียญ) ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน อื่น เช่น ประเทศมาเลเซีย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินเดีย และประเทศอินโดนีเซีย แม้ว่าจะศักยภาพการส่งออกจะมีมูลค่าสูง แต่ปริมาณ REOs ที่มากก็หมายความว่าแต่ละหน่วยของ REOs แปลงเป็นมูลค่าศักยภาพการส่งออกที่ด้อยลงมา จากงานวิจัยของ Prof. Cuyvers ยังศึกษาถึงการกระจายการส่งออกหรือส่วนแบ่งตลาดที่มีขนาด และการขยายตัวที่ต่างกัน ซึ่งรวมถึงตลาดขนาดใหญ่, ตลาดที่กำลังเติบโตในระยะสั้นและยาว ข้อสังเกตที่น่าสนใจอันหนึ่งคือ แม้ศักยภาพการส่งออกไปตลาดในกลุ่มประเทศ RCEP ของประเทศไทยมีมาก และแม้ว่าจะมี REOs ที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง แต่ประเทศไทยกลับมีส่วนแบ่งตลาดโดยรวมค่อนข้างต่ำ และมักเจอกับสภาวะการแข่งขันสูง ซึ่งหมายความว่า ถ้าประเทศไทยต้องการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจะต้องใช้ความพยายามและทรัพยากรจำนวนมากทีเดียว

จากการศึกษาในครั้งนี้ ศาสตราจารย์อาคันตุกะ พบว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มี REOs มาก และมูลค่าของศักยภาพการส่งออกที่เป็นจริงสูง 5 กลุ่มแรก ประกอบด้วย 1.กลุ่มเครื่องจักร เครื่องมือไฟฟ้า เครื่องบันทึกและผลิตภาพและเสียง และชิ้นส่วน, 2.กลุ่มแร่เชื้อเพลิง น้ำมันและผลิตภัณฑ์จากการกลั่น, 3.กลุ่มเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หม้อไอน้ำ พร้อมเครื่องจักรและชิ้นส่วน, 4.กลุ่มพลาสติกและเครื่องใช้ที่ทำจากพลาสติก, 5.กลุ่มยานพาหนะ (ไม่รวมตู้รถไฟหรือรถราง) และชิ้นส่วนและเครื่องตกแต่ง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความต้องการประเภทสินค้าของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันออกไป โดยในสภาพของการเปิดเสรีทางการค้าอย่างเต็มที่ จะพบว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของ REOs และศักยภาพการส่งออกที่เป็นจริงสูงคือ กลุ่มพลาสติกและเครื่องใช้ที่ทำจากพลาสติก กลุ่มน้ำตาล และขนมที่ทำจากน้ำตาล

โดยสรุปแล้ว ภาพจำลองที่ตัดสิ่งกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศใน RCEP ออกทั้งหมด จะพบว่า ประเทศไทยจะมี REOs เพิ่มขึ้น 6,847 หน่วย โดยเพิ่มจากจำนวน REOs ทีใช้เป็นบรรทัดฐานถึง 75% และศักยภาพการส่งออกเพิ่มขึ้น 25% โดยประเมินเป็นมูลค่าได้ถึง 112.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ดังกล่าวแล้วข้างต้น

Prof. Cuyvers ระบุอีกว่า ถ้า REOs เหล่านี้หากถูกใช้อย่างเต็มศักยภาพ จะทำให้การส่งออกของไทยไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา เพิ่มขึ้นมาก รวมถึงการส่งออกไปยังประเทศอินเดีย ประเทศนิวซีแลนด์ และประเทศออสเตรเลีย จะเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ส่วนการส่งออกไปยังประเทศจีนนั้น แม้สมาชิกอาเซียนจะมีศักยภาพการส่งออกที่ดีมาก แต่ไทยที่มีส่วนแบ่งตลาดในการส่งออกไปยังจีนค่อนข้างมากแล้ว ทำให้ศักยภาพการส่งออกของไทยไปยังประเทศดังกล่าวไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับการส่งออกของไทยไปยังประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ดังนั้น จากผลการศึกษา ประเทศไทยควรสนับสนุนการเปิดเสรีเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ในภูมิภาค

อย่างไรก็ดี ศาสตราจารย์อาคันตุกะ กล่าวว่า “การเปิดเสรีเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์นั้นในความเป็นจริงคงไม่เกิดขึ้น เพราะแม้จะมีการลดภาษีจนเหลือศูนย์ ก็ยังมีสิ่งกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่รูปแบบภาษีอยู่ (non-tariff barriers) เช่น มาตรฐานสินค้า ขั้นตอนการผ่านพิธีการศุลกากร เป็นต้น แม้กระทั่งการพัฒนาระบบโลจิสติกส์หรือระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพแตกต่างกันของแต่ละประเทศก็สามารถทำให้การเข้าถึงแต่ละตลาดเกิดความเหลื่อมล้ำขึ้นได้เช่นกัน

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:54 น. (คลิป) 'เจ๊ปอง' ถึงน้องรัก 'ขิง เอกนัฎ'
21:53 น. กต.ออกแถลงการณ์!!! เรียกร้องกัมพูชายุติการปลุกระดมยั่วยุ ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว
21:47 น. 'แม่ทัพภาค 2'โชว์ผลงานรอบ 1 ปี ขยายผลจับยาบ้า ซัดเจ้าหน้าที่นอกคอก ต้องกำจัดออกจากระบบ
21:31 น. เหตุปะทะชาวกัมพูชา ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำรวจ คฝ. บาดเจ็บ 4 นาย
21:29 น. 5 โบรกเกอร์ชั้นนำชี้เป้า!หุ้น ATLAS ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งของธุรกิจ LPG ภาคขนส่ง
ดูทั้งหมด
ออกครบแล้ว! ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กันยายน 2568
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
'มล.รจนาธร'โพสต์ขอบคุณ'ลิซ่า ลลิษา' สวมจิวเวลรีแบรนด์ไทยในลุค After party Emmy Awards
ดูทั้งหมด
ทหารมีไว้‘กรี๊ด’ปรากฏการณ์‘ลุงแม่ทัพ’
เยาวชนกับการต่อต้านคอร์รัปชัน : เราจะปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้โตมาโดยไม่ยอมรับความผิดปกติได้อย่างไร
แดงและฟ้าฝ่าวิกฤต?
โอกาสคืนชีพของพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจเพื่ออนาคต
บุคคลแนวหน้า : 17 กันยายน 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

(คลิป) 'เจ๊ปอง' ถึงน้องรัก 'ขิง เอกนัฎ'

กต.ออกแถลงการณ์!!! เรียกร้องกัมพูชายุติการปลุกระดมยั่วยุ ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว

'แม่ทัพภาค 2'โชว์ผลงานรอบ 1 ปี ขยายผลจับยาบ้า ซัดเจ้าหน้าที่นอกคอก ต้องกำจัดออกจากระบบ

เหตุปะทะชาวกัมพูชา ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำรวจ คฝ. บาดเจ็บ 4 นาย

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เยี่ยมอำลากองทัพเรือ ในโอกาสเกษียณอายุราชการ

'สม รังสี'ประณามไทย! ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยางสลายม็อบกัมพูชา ชี้รบ.นำเรื่องลุยฟ้องศาลโลก

  • Breaking News
  • (คลิป) \'เจ๊ปอง\' ถึงน้องรัก \'ขิง เอกนัฎ\' (คลิป) 'เจ๊ปอง' ถึงน้องรัก 'ขิง เอกนัฎ'
  • กต.ออกแถลงการณ์!!! เรียกร้องกัมพูชายุติการปลุกระดมยั่วยุ ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว กต.ออกแถลงการณ์!!! เรียกร้องกัมพูชายุติการปลุกระดมยั่วยุ ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว
  • \'แม่ทัพภาค 2\'โชว์ผลงานรอบ 1 ปี ขยายผลจับยาบ้า ซัดเจ้าหน้าที่นอกคอก ต้องกำจัดออกจากระบบ 'แม่ทัพภาค 2'โชว์ผลงานรอบ 1 ปี ขยายผลจับยาบ้า ซัดเจ้าหน้าที่นอกคอก ต้องกำจัดออกจากระบบ
  • เหตุปะทะชาวกัมพูชา ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำรวจ คฝ. บาดเจ็บ 4 นาย เหตุปะทะชาวกัมพูชา ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำรวจ คฝ. บาดเจ็บ 4 นาย
  • 5 โบรกเกอร์ชั้นนำชี้เป้า!หุ้น ATLAS ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งของธุรกิจ  LPG ภาคขนส่ง 5 โบรกเกอร์ชั้นนำชี้เป้า!หุ้น ATLAS ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งของธุรกิจ LPG ภาคขนส่ง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

โลกการค้า : 11 กันยายน 2568

โลกการค้า : 11 กันยายน 2568

11 ก.ย. 2568

โลกการค้า : 4 กันยายน 2566

โลกการค้า : 4 กันยายน 2566

4 ก.ย. 2568

โลกการค้า : 28 สิงหาคม 2568

โลกการค้า : 28 สิงหาคม 2568

28 ส.ค. 2568

โลกการค้า : 21 สิงหาคม 2566

โลกการค้า : 21 สิงหาคม 2566

21 ส.ค. 2568

โลกการค้า : 14 สิงหาคม 2566

โลกการค้า : 14 สิงหาคม 2566

14 ส.ค. 2568

โลกการค้า : 7 สิงหาคม 2566

โลกการค้า : 7 สิงหาคม 2566

7 ส.ค. 2568

โลกการค้า

โลกการค้า

31 ก.ค. 2568

โลกการค้า : 24 กรกฏาคม 2566

โลกการค้า : 24 กรกฏาคม 2566

24 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved