โดยโค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์ (ขอบคุณการรีวิว จากเพจ Trick of the Trade ครับ)
ไม่ต้องแนะนำมากสำหรับผู้เขียน เพราะโค้ชหนุ่มได้ฝากผลงานเอาไว้มากมายด้านความรู้การเงินส่วนบุคคลที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนมาจนนับไม่ถ้วน
จากชีวิตจริงของผมเอง ผมเคยมีความเชื่อผิดอยู่ 3 อย่างว่า
1.แค่ทำงานหาเงินให้มากกว่าที่ใช้ในแต่ละเดือน เดี๋ยวก็รวยเอง
2.ผมเชื่อว่าตัวเองเป็นเครื่องจักรสร้างเงิน คือหาเงินเก่งมาก แต่ทำไมบางเดือนเงินไม่พอใช้ ถึงขั้นต้องยอมขายหุ้นที่ตั้งใจจะถือยาวเพื่อเอาเงินออกมาใช้
3.ตราบใดที่เรายังมีแรงหาเงินได้ เราจะไม่มีวันจน
ผมคิดผิดถนัดและเคยเหลือเงินติดตัวแค่ 47 บาทมาแล้ว
จนตัวเองเริ่มศึกษาเรื่องการเงินส่วนบุคคล ก็จากเพจของโค้ชหนุ่มนี่แหละ ทำให้ผมรู้จักหลักการหลายอย่างที่เกิดมาไม่เคยได้ยิน เช่น ให้เก็บก่อนเหลือแค่ไหนค่อยใช้ (เรื่องแบบนี้ผมได้ยินครั้งแรกตอนอายุ 41 บ้าไหม?)
กลับมาเรื่องหนังสือ
ถ้าเราพูดถึงเลข 101 เราจะนึกถึงชื่อวิชาเรียนในมหาวิทยาลัยว่า วิชาอะไรก็ตามที่มีเลข 101 ตามท้าย นั่นคือวิชาเริ่มต้นของสาขาวิชานั้นๆ เช่น การตลาด 101 คือพื้นฐานการตลาด
หนังสือ Money 101 เล่มนี้ก็เช่นกัน
นี่เป็นหนังสือพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการเงินส่วนบุคคลที่ทุกคนควรอ่านและทำตามอย่างมาก เพื่อชีวิตการเงินที่ดีขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจจากหนังสือ
1.คนเราจะมีจุดสะกิดใจให้หันมาสนใจเรื่องการจัดการเงินอย่างจริงจังเสียที และส่วนมากจะเกิดจากเรื่องร้าย เช่น สูญเสียเสาหลักครอบครัว บ้านโดนยึด ครอบครัวล้มละลาย ฯลฯ และมันจะดีกว่าไหม ถ้าเราเริมจัดการกับเงินก่อนที่เรื่องร้ายเหล่านั้นจะเกิดขึ้น
2.การจะร่ำรวยได้นั้น ไม่ใช่แค่หาเงินเก่ง แต่เราต้องจัดการกับเงินของเราให้ดีด้วย ซึ่งการจัดการนั้นหมายถึง. การหา การเก็บ การควบคุมการใช้จ่าย และการนำไปต่อยอดให้เกิดดอกผลที่ดีกว่า
3.เราต้องมีเป้าหมายชีวิตก่อน ว่าเราอยากชีวิตแบบไหนที่เรามีความสุข จากนั้นค่อยมาดูว่าชีวิตแบบนั้นต้องมีเงินเท่าไหร่จึงจะพอ ซึ่งนั่นคือเป้าหมายทางการเงินของเรานั่นเอง
4.การจัดการเงิน ต้องรู้ 2 เรื่อง คือ สภาพคล่อง (เงินสดเข้าออกในแต่ละเดือน) และ ความมั่งคั่ง (การสะสมสภาพคล่องไว้ในรูปแบบทรัพย์สินต่าง)
เราจะไม่มีทางมั่งคั่งได้เลย ถ้ายังจัดการสภาพคล่องไม่ได้
5.หาได้มากไม่ได้แปลว่าจะมั่งคั่งถ้าหากเงินที่หาได้ยังน้อยกว่าเงินที่ต้องจ่ายออก คนรายได้เดือนละ 100,000 แต่ค่าใช้จ่ายเดือนละ 200,000ถือว่ามีสภาพคล่องแย่กว่าคนรายได้เดือนละ 10,000 แต่มีค่าใช้จ่ายเดือนละ9,000 เพราะคนหลังยังมีเหลือเดือนละ 1,000 บาท แปลว่าสภาพคล่องเป็นบวก
6.สิ่งแรกที่ต้องทำคือ งบการเงินส่วนบุคคล คือทำรายการแสดงเงินเข้าออกในชีวิตแต่ละเดือน
รายรับ - รายการเงินเก็บ- รายจ่าย = เงินเหลือ
เฉพาะรายจ่าย ให้แยกออกเป็นรายจ่ายประจำ จ่ายทุกเดือน ไม่จ่ายไม่ได้ เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ) กับรายจ่ายตามการใช้ชีวิต เช่น กิน ดื่ม ช็อป
7.อีกสิ่งที่ต้องทำคือรายการทรัพย์สิน เปรียบเทียบกับหนี้สิน
อย่าปล่อยให้ชีวิตมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินนานเกินไป
8.เรื่องเก็บเงินนั้น เริ่มได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ไม่ต้องเก็บครั้งละมากๆก็ได้ แต่ของให้เก็บอย่างสม่ำเสมอ
9.หนี้...มีได้แต่ต้องไม่เกินกำลังจนกระทบสภาพคล่อง และหนี้ที่น่ากลัวที่สุดคือ หนี้ประเภท ใช้ก่อน ผ่อนทีหลัง เช่น ซื้อสินค้า ผ่อน 6-24 เดือนไปเที่ยวตปท. ผ่อน 6 เดือน
10.การเลือกซื้อของที่มีภาระผ่อนยาว ห้ามซื้อเพราะจะเอาของแถมหรือผลประโยชน์ระยะสั้น เช่น ได้สิทธิทางภาษี (ได้สิทธิปีเดียว แต่กระทบสภาพคล่องไป 10 ปี) แต่ควรซื้อเพราะประโยชน์จากการใช้งานเท่านั้น
11. ซื้ออะไรอย่าลืมนึกถึงค่าใช้จ่ายที่จะตามมาด้วยว่ากระทบกับสภาพคล่องไหม เช่น ซื้อรถจะมีค่าน้ำมัน ค่าซ่อม
12.การซื้อของด้วยเงินเก็บแบบที่คนสมัยก่อนทำ จึงเป็นการซื้อที่ปลอดภัยและไม่กระทบกับสภาพคล่อง แต่คนสมัยนี้ไม่ค่อยทำแล้วเพราะกระแสบริโภคนิยมกับความอยากได้
13.หนังสือบอกตัวอย่างของทางเลือกในการลงทุน หรือการเตรียมตัวเพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินไว้หลายอย่าง ไปอ่านและเลือกทำตามอันที่เหมาะกับตัวเรา เพราะแต่ละคนมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน
14.เมื่อเราเตรียมพร้อมสำหรับเจอเรื่องร้ายๆ เราจะพบแต่เรื่องดีๆ
15.ออกแบบชีวิตหลังเกษียณได้เลยตั้งแต่วันนี้ ยิ่งเริ่มต้นไว จะยิ่งมีเงินเยอะเมื่อถึงวันเกษียณ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ เราจะมีรายได้อะไรอีกไหมเมื่อเกษียณ ชีวิตวัยเกษียณต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง และวางแผนออมเพื่อให้ได้ตามที่ต้องการ
16.อย่ามีหนี้หลังเกษียณเพราะนั่นคือ นรกที่แท้จริง และหนี้ที่จะเกิดได้หลังเกษียณคือหนี้บริโภคทั้งนั้นซึ่งไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลย เพราะรถ/บ้าน ทรัพย์สินหลักๆ ควรจะหมดภาระและได้มาเป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้ว ลูกก็เรียบจบรับผิดชอบตัวเองได้แล้วเหมือนกัน
17.หนังสือบอกวิธีคำนวณการเก็บเงินสำหรับการเกษียณให้ด้วย ซึ่งข้อมูลอันนี้ดีมากๆ ทุกคนควรทำตามตั้งแต่วันนี้
18.ทุกคนมีรายได้เสริมได้ อย่าปล่อยให้ชีวิตมีรายได้จากทางเดียว เพราะมันเสี่ยงมากที่สุด
19.หาทางสร้าง passive income จากทรัพย์สินที่ทำรายได้ให้เราได้เช่น อสังหาริมทรัพย์ (ที่เปล่าก็ได้) ค่าลิขสิทธิ์ ดอกเบี้ย/ปันผล ฯลฯ
20.อย่ามองแค่เงินระยะสั้น ให้โฟกัสที่รายได้ระยะยาว
เรื่องการเงินส่วนบุคคล ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าส่วนบุคคล แปลว่า เราไม่ควรเอาเรื่องเงินของเราไปเป็นภาระกับใคร และไม่ให้ใครมารบกวนเรา เราทุกคนต้องรับผิดชอบเรื่องการเงินของตัวเอง
เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตอนาคตที่ดีกว่า
และอ่านแล้วต้องทำตาม รับรองว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีจริง ถ้าอ่านรวดแล้วไม่ทำอะไรก็จะไม่ได้อะไรเลย
ยืนยันว่าหนังสือเล่มนี้
จะเป็นคู่มือเริ่มต้นที่ดีให้ทุกคนครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี