วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
‘Thai First’ รอไม่ได้อีกแล้ว สต๊อกเหล็กตลาดโลกลอตใหญ่จ่อถล่มไทย

ดูทั้งหมด

  •  

nn การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้กระทบต่ออัตรากรขยายของเศรษฐกิจโลกอย่างหนัก (IMF ประมารการว่า จีดีพีของโลกติดลบ 3%) ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ความต้องการใช้สินค้าสำคัญๆของโลกลดลงอย่างมาก เช่น กรณีของน้ำมันที่ความต้องการใช้ลดลงถึง 30% จนทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ จนกระทั่งไม่มีคลังน้ำมันที่จัดเก็บได้รวมไปถึงสินค้าสำคัญอื่นอย่างเช่นผลิตภัณฑ์เหล็ก ซึ่งปริมาณการความต้องการใช้ลดลง ตามภาวะภาคธุรกิจสำคัญที่มีอัตรากรขยายตัวลดลง เช่น ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ฯลฯ

ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้ผลิตเหล็กรายสำคัญของโลกต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เช่น กรณี ประเทศจีน ประเทศผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก (กำลังผลิตต่อปีกว่า 900 ล้านตัน เมื่อปี 2562) ทำให้รัฐบาลจีนต้องใช้มาตรการต่างๆ เพื่อระบายสต๊อกที่ล้นตลาดอยู่ตอนนี้เช่น มาตรการหนุนส่งออกด้วยการเพิ่มอัตรา การชดเชยภาษีสำหรับการส่งออกสินค้าเหล็กอีก 3% (เพิ่มจาก 10% เป็น 13%) นับแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้าน Nippon Steel Corp ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ อันดับ 1 ของญี่ปุ่น และอันดับ 3 ของโลก และ JFE Steel ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น และอันดับ 8 ของโลก ต้องออกมาประกาศปิดเตาถลุงเหล็กบางส่วนลง


ขณะที่ Arcelor Mittal บริษัทผู้ผลิตเหล็กอันดับ 1 ของโลก ต้องปรับลดการผลิตเหล็กของโรงงานในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ทั้งใน สหรัฐฯ แอฟริกาใต้ สหภาพยุโรป และโรงเหล็กบางแห่งในสหรัฐฯ จำเป็นต้องประกาศลดพนักงานลง และ Thyssen Krupp ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 1 ในเยอรมนี ประกาศแผนปรับโครงสร้างบริษัท โดยวางที่จะแผนปลดพนักงานราว 3,000 ตำแหน่ง รวมทั้ง ผู้ผลิตเหล็กต่างๆ ในหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งในอินเดีย ตุรกี อังกฤษ ฟินแลนด์ ออสเตรีย แคนาดา ซาอุดีอาระเบีย อินโดนีเซีย ฯลฯ ก็ต้องปรับลดการผลิตลงจากผลกระทบของความต้องการใช้เหล็กที่หดตัว

ดังนั้น นอกจากการปรับตัวในหลายรูปแบบเพื่อการอยู่รอดแล้ว ก็ยังต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลของตนในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศด้วย เช่น สมาคมอุตสาหกรรมเหล็กของยุโรป (Eurofer) ได้ยื่นจดหมายต่อสหภาพยุโรป (EC) ทบทวนมาตรการจำกัดการนำเข้าที่เข้มงวดมากขึ้น เพิ่มเติมจากมาตรการ Global Safeguard ที่ใช้อยู่ รวมถึงการพิจารณามาตรการฉุกเฉินจำกัด การนำเข้า ซึ่งได้รับอนุญาตให้สามารถใช้ได้ตามข้อตกลง Article XXI ของความตกลง GATT 1994ซึ่งเป็นข้อยกเว้นสำหรับการปกป้องผลประโยชน์ทางความมั่นคง (Security Exceptions) เนื่องจากมาตรการ Global Safeguard ที่ใช้อยู่ไม่ครอบคลุมสินค้าที่นำเข้าจากประเทศกำลังพัฒนา (undevelopedcountries) ซึ่งรวมถึงการนำเข้าจากประเทศจีน รัสเซีย และบราซิลด้วย

ขณะที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าของสหรัฐฯ (AISI) และอีก 4 สมาคมเหล็กของสหรัฐฯ ขอให้สภาคองเกรสบรรจุแพ็กเกจการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในมาตรการฟื้นฟูผลกระทบจาก โควิด-19 ใน ระยะต่อไป โดยแพ็กเกจโครงสร้างพื้นฐานด้านการลงทุน ต้องระบุถึงการใช้วัสดุเหล็กและงานแปรรูปเหล็กที่ผลิตภายในประเทศ

ส่วนกรณีของประเทศตุรกี ผู้ผลิตและส่งออกเหล็กรายใหญ่อันดับ 7 ของโลก ก็เพิ่งประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กหลายรายการ ทั้งกลุ่มบิลเล็ต เหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบ เหล็กกล้าไร้สนิม เหล็กโครงสร้างรูปพรรณและเหล็กเส้น โดยปรับภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้น 5% จากอัตรา 9-15% เป็น 14-20% กลุ่มท่อเหล็กปรับภาษีนำเข้าเพิ่ม 2% จากอัตรา 6-7% เพิ่ม เป็น 8-9%

แน่นอนว่าด้วยมาตรการต่างๆ ของประเทศ ทำให้เกิดสต๊อกเหล็กที่คงค้างในตลาดโลกจำนวนมหาศาล และต้องหาตลาดทีจะส่งออกไป แน่นอนว่า กลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย คือเป้าหมายอันดับแรกของสต๊อกเหล็กลอตนี้ ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ประการ คือ 1.ประเทศไทยมาตรการป้องกันการนำเข้า และมาตรการคุ้มครองอุตสาหกรรมในประเทศที่อ่อนแอมากที่สุด 2.ประเทศไทยมีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานช่วง 5 ปีนี้ สูงถึง กว่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจำเป็นต้องใช้สินค้าเหล็กจำนวนมาก หลายหลากกลุ่ม

ด้วยเหตุที่ทุกประเทศถือว่า อุตสาหกรรมเหล็ก คืออุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศ ดังนั้นทุกประเทศผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ หรือแม้แต่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ยังต้องตื่นตัวเร่งหาทางรับมือกับการทะลักของเหล็กนำเข้า เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ ดังนั้นประเทศไทยจึงไม่มีเหตุผลอันใดที่จะไม่เร่งหาหนทางรับมือ และด้วยสภาพการของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศในช่วงหลายปีมานี้ก็ยิ่งน่าเห็นห่วง โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อสิ้นปี 2562ประเทศไทยมีการใช้สินค้าเหล็ก 18.47 ล้านตันและส่วนใหญ่ประมาณ 58% ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง แต่จะพบว่าสินค้าส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ กว่า 12 ล้านตัน คิดเป็นกว่า 66% ของการใช้ในประเทศ และคิดเป็นมูลค่ากว่า 3.2 แสนล้านบาทส่งผลให้ผู้ประกอบการในประเทศมีการใช้กำลังการผลิตเพียง 32% เท่านั้น และสภาพการก็เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องมาหลายปี

ด้วยมาตรการการคุ้มครองอุตสาหกรรมในประเทศที่มีอุปสรรคในเรื่องความล่าช้า (ซึ่งยากที่จะแก้ไข) ดังนั้นสิ่งที่จะเข้ามาช่วยกู้วิกฤติในอุตสาหกรรมเหล็กของไทยได้ในขณะนี้ก็ต้องหวังพึ่งนโยบาย“Thai First ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน” ซึ่งหัวใจหลักคือการสนับสนุนให้สินค้าในประเทศเป็นหลักโดยจากการศึกษาเบื้องต้นของ ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เรื่องผลกระทบจากการใช้สินค้าในประเทศ (โดยการใช้เครื่องมือตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิต หรือ Input-OutputTable (I-O Table) ซึ่งเป็นตารางที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างการผลิตและการใช้ผลผลิต ทั้งที่ใช้ไปในขั้นสุดท้ายและที่ใช้ไปเพื่อการอุปโภคขั้นกลาง พบว่า จากข้อมูลโครงการก่อสร้างของกระทรวงคมนาคม 44 โครงการโดยได้มีการประเมินจากผู้ผลิตสินค้าเหล็กในประเทศว่าสามารถใช้สินค้าเหล็กในประเทศได้เป็นมูลค่าถึงประมาณ 110,000 ล้านบาท และจากมูลค่าดังกล่าวเมื่อนำไปวิเคราะห์โดย I-O table พบว่าจะช่วยให้เกิดการจ้างงานทั้งทางตรง และทางอ้อมกว่า 139,000 คน และช่วยให้ GDP ของประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.6%

โดยสรุปคือ การสนับสนุนการใช้สินค้าในประเทศจึงเป็นกลไกที่สำคัญที่จะส่งเสริมให้เกิดการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น และพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาอุตสาหกรรมอื่นต่อไป...!! ถึงตรงนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรออะไรแล้วที่เร่งทำให้ “Thai First” มีผลในทางปฏิบัติทันทีในโครงการลงทุนของรัฐนับจากนี้ต่อไป....

กระบองเพชร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:52 น. ปชป.เลือดไหลไม่หยุด! 'ชานน สัมพันธารักษ์'ยื่นใบลาออก รับไม่ได้อุดมการณ์เปลี่ยน
09:38 น. ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ 'ทักษิณ' จุดเดือด 'นักข่าวอาวุโส' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว
09:25 น. ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก
09:15 น. 'กอบศักดิ์' ฟันธง 'ภาษีทรัมป์' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่
09:06 น. รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง 'ก๊ก อาน'
ดูทั้งหมด
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ปราชญ์ สามสี'ผ่าเกมตระกูล'ชินวัตร-ฮุน' ทำไมคนหนึ่งเงียบ อีกคนดิ้น ที่แท้!!
‘สม รังสี’เปิดไทม์ไลน์แฉ‘แรงจูงใจ’เบื้องหลัง‘ฮุน เซน’เล่นเกมกฎหมายถอดสัญชาติกัมพูชา
ดูทั้งหมด
‘อนุทิน VS แพทองธาร’เรื่อง‘กาสิโน’
ประชาธิปไตยมักถูกท้าทายอยู่เสมอ
ไร้เพื่อน?
บุคคลแนวหน้า : 10 กรกฎาคม 2568
รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ไร้ฝีมือแท้ทรู คือ ตัวถ่วงประเทศไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568

'นิธิพัฒน์'ซัดเจ็บ! 'นักการเมืองสันดานเสีย' หวังประโยชน์ส่วนตน ทำชาติป่วน

'แพรรี่'เทศน์พระเอี่ยวสีกา สึกออกมาก็แค่ตาแก่คนหนึ่ง สีกาก็ร้ายไปเป็นเปรตแน่นอน

'ทรัมป์'ร่อนจดหมายภาษีอีก8ประเทศ 'บราซิล'อ่วมเจอรีดภาษีนำเข้า50%เซ่นปม'โบลโซนาโร'

'สมเด็จฮุน เซน'กลัวมากถ้า'คนไทย'จะรักตนเอง แซะเจ็บไทยควรโฟกัสผู้นำตัวเองดีกว่า

  • Breaking News
  • ปชป.เลือดไหลไม่หยุด! \'ชานน สัมพันธารักษ์\'ยื่นใบลาออก รับไม่ได้อุดมการณ์เปลี่ยน ปชป.เลือดไหลไม่หยุด! 'ชานน สัมพันธารักษ์'ยื่นใบลาออก รับไม่ได้อุดมการณ์เปลี่ยน
  • ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ \'ทักษิณ\' จุดเดือด \'นักข่าวอาวุโส\' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ 'ทักษิณ' จุดเดือด 'นักข่าวอาวุโส' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว
  • ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก
  • \'กอบศักดิ์\' ฟันธง \'ภาษีทรัมป์\' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่ 'กอบศักดิ์' ฟันธง 'ภาษีทรัมป์' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่
  • รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง \'ก๊ก อาน\' รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง 'ก๊ก อาน'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หมุนตามทุน : ถึงเวลาที่ต้องผนึกกำลัง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

หมุนตามทุน : ถึงเวลาที่ต้องผนึกกำลัง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

9 ก.ค. 2568

หมุนตามทุน : อุตฯก่อสร้างยังมีทางรอด...แม้ต้องเผชิญกับหลากหลายความท้าทาย

หมุนตามทุน : อุตฯก่อสร้างยังมีทางรอด...แม้ต้องเผชิญกับหลากหลายความท้าทาย

2 ก.ค. 2568

รัฐบาลต้องไม่หยุดเดินหน้านโยบาย กำจัด”อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ”-เหล็กคุณภาพต่ำทุกชนิด

รัฐบาลต้องไม่หยุดเดินหน้านโยบาย กำจัด”อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ”-เหล็กคุณภาพต่ำทุกชนิด

11 มิ.ย. 2568

หมุนตามทุน : หาโอกาสการลงทุนได้ที่ไหน  ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกเปราะบาง

หมุนตามทุน : หาโอกาสการลงทุนได้ที่ไหน ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกเปราะบาง

4 มิ.ย. 2568

หมุนตามทุน : กนอ.ประกาศยุทธศาสตร์ \'HPOE\'  สร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

หมุนตามทุน : กนอ.ประกาศยุทธศาสตร์ 'HPOE' สร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

21 พ.ค. 2568

ทั่วโลกยังแห่ลงทุนทองคำ แรงซื้อจากรายย่อยไทยโตสูงสุดในอาเซียน

ทั่วโลกยังแห่ลงทุนทองคำ แรงซื้อจากรายย่อยไทยโตสูงสุดในอาเซียน

7 พ.ค. 2568

หมุนตามทุน : 200 รง.เหล็กไทยรวมพลังหนุน \'รมว.เอกนัฏ\'

หมุนตามทุน : 200 รง.เหล็กไทยรวมพลังหนุน 'รมว.เอกนัฏ'

30 เม.ย. 2568

หมุนตามทุน :  เป็นกำลังใจให้ “รมว.เอกนัฏ”ไปให้สุดซอย ก่อนที่เหล็กเตาIFจะทำลายชีวิตคนและอุตสาหกรรมไทยไปมากว่านี้

หมุนตามทุน : เป็นกำลังใจให้ “รมว.เอกนัฏ”ไปให้สุดซอย ก่อนที่เหล็กเตาIFจะทำลายชีวิตคนและอุตสาหกรรมไทยไปมากว่านี้

23 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved