nn ขณะที่หลายฝ่ายฝากความหวังไว้ว่าการลงทุนของรัฐในโครงการเมกะโปรเจกท์ทั้งหลายจะเป็นพระเอกมาช่วยประคองเศรษฐกิจไทยไม่ให้ทรุดหนักไปกว่านี้ แต่เอาเข้าจริงในแต่ละโครงการลงทุนกลับมีประเด็นก็ไม่ชอบมาพากล ทำให้โครงการนั้นๆต้องมีอัน“ติดหล่ม”ทำให้การลงทุนไม่เกิดขึ้นตามแผนงาน เม็ดเงินที่จะไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจก็ติดค้างเติ่งไปด้วย
ตอนนี้ที่กำลังเป็นที่โจษขานกันทั้งวงการรับเหมาก่อสร้างก็คือ...โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ระยะทาง 35.9 กม. ระยะเวลา 30 ปี วงเงินรวม 128,128 ล้านบาท และ คนทั้งวงการกำลังตั้งคำถามและโฟกัส ไปที่ คุณภคพงศ์ ศิริกันทรมาศผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)...เนื่องจากผู้ว่า รฟม.ท่านนี้ได้เปิดเผยว่า คณะกรรมการตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาให้นำคะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคมาเป็นเกณฑ์ประเมินรวมกับการเงินด้วยในสัดส่วน 30%... เนื่องจากโครงการเป็นการก่อสร้างที่ใช้เทคนิคขั้นสูง ก่อสร้างเป็นอุโมงค์ตลอดเส้นทาง ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ภาครัฐจะต้องได้โครงสร้างที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ในระยะยาว และอ้างว่าการพิจารณานี้ทางคณะกรรมการฯดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่องรายละเอียดของร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนและสาระสำคัญของร่างสัญญาร่วมลงทุน 2563 ข้อ 4 (8) ที่กำหนดให้ ระบุหลักเกณฑ์และวิธีการในการตัดสินให้ชัดเจนเป็นคะแนนในด้านต่างๆโดยข้อเสนอผลประโยชน์ที่รัฐจะได้รับและการขอสนับสนุนทางการเงินเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะต้องระบุให้ชัดเจนเป็นคะแนน
ถึงกระนั้นคนทั้งวงการก็มีคำถามกับการตัดสินครั้งนี้เพราะว่า...เรื่องนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญเลย และไม่เคยมีการดำเนินการในลักษณะนี้กับโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) มาก่อน อีกทั้งผู้ที่ยื่นข้อเสนอในโครงการนี้จะต้องผ่านเกณฑ์ต่างๆ ของ รฟม. ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นบริษัทหรือกลุ่มบริษัทที่มีศักยภาพและความเป็นไปได้ในการดำเนินการสูงเป็นไปได้หรือที่บริษัทที่ผ่านเกณฑ์จะไม่ทำตามข้อเสนอที่ได้ยื่นต่อ รฟม.ไม่ได้ และบริษัทที่ยื่นข้อเสนอยังต้องมีภาระรับผิดชอบค้ำประกันต่อ รฟม. ด้วย
คำถามสำคัญคือ การพิจารณาผู้ชนะการคัดเลือกโดยใช้ข้อเสนอทางเทคนิค ทั้งๆ ที่ได้มีการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาผู้ชนะการคัดเลือกมาแล้ว จะเป็นช่องทางที่ส่อไปในทางทุจริต ไม่เป็นธรรม และอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้หรือเปล่า?????
มิใช่แค่ข้อทักท้วงประเด็นที่อาจก่อให้เกิดการทุจริตเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนบางราย และยัง ผิดแผกแตกต่างไปจากการประมูล Mega Projectอื่นๆ...แม้แต่การประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) วงเงิน 60,000 ล้านบาท และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) วงเงินกว่า 60,000 ล้านบาทของ รฟม.เองที่เปิดประมูลไปก่อนหน้า และกลุ่มกิจการร่วมค้ บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture)คว้าสัมปทานไปนั้น ก็ยังไม่กล้าแหกหลักเกณฑ์กันแบบ “โจ๋งครึ่ม”ขนาดนี้!
วิจารณ์กันให้ขรมในวงการว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ต้อง “มีมือที่มองไม่เห็น” และ เป็นขาใหญ่มากๆ อยู่เบื้องหลังการถ่ายทำ...แน่นอนว่าผู้รับเหมามากว่าครึ่งของวงการฉาย “สปอร์ตไลท์”ไปที่ พี่เบิ้ม ของวงการรับเหมาก่อสร้างของเมืองไทย...ซึ่งเป็นเจ้าของโครงข่ายทางด่วนทั้งในและนอกเมือง รวมไปถึงโครงข่ายรถไฟฟ้าหลายสีอยู่ในมือไม่น้อย แถมยังถูกหวยชุดใหญ่ไปนับแสนล้าน เพราะได้รับการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนไปให้ถึง 12-15 ปีเพื่อแลกกับการยุติคดีฟ้องร้องเรียกค่าโง่จากรัฐบาล....แต่ระยะหลังมานี้ กลุ่มทุนรับเหมายักษ์รายนี้กลับต้อง “ชวด” และ “จั่วลม” งานประมูลก่อสร้างและสัมปทานโครงการรัฐไปหลายต่อหลายโครงการ...ไล่ดะมาตั้งแต่การประมูลสัมปทานบริหารและซ่อมบำรุง(O&M) โครงการมอเตอร์เวย์ 2 สายมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท โครงการขยายท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 และล่าสุดก็ตกขบวนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน มูลค่ากว่า2.9 แสนล้าน เพราะโดนกลุ่มทุนรับเหมาก่อสร้างรายอื่นปาดหน้าไปเรียบร้อยโรงเรียนจีน
คงจะด้วยเหตุนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี) ที่เนื้องานมีทั้ง งานโยธา สายสีส้มส่วนตะวันตกที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง พ่วงสัมปทานงานระบบรถไฟฟ้า และบริหารรถไฟฟ้าทั้งโครงการที่จะผูกปิ่นโตไปยาวถึง 30-35 ปี จึงถือเป็นอภิโครงการรถไฟฟ้าที่ทั้งใหญ่ทั้งยาวที่สุด จึงทำให้กลุ่มทุนรายนี้นั่งไม่ติด...เพราะตัวเองถือว่าเป็นเจ้าถิ่นในวงการ “รถไฟฟ้า”.... ตัวผู้บริหารองค์กรเจ้าของสัมปทาน ทั้งเบอร์เล็กเบอร์ใหญ่ก็ใช่ใครอื่น...!! จะยอมปล่อยให้หลุดมือไม่ได้...
จับตาดูกันอย่ากะพริบตา...ว่าฝ่ายบริหาร รฟม.และกระทรวงคมนาคมจะชิ่งหนีเผือกร้อนนี้กันอย่างไร ?????
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี