nn ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้แน่นอนว่าเม็ดเงินที่สะพัดในระบบก็คือการใช้เม็ดงบประมาณของภาครัฐ และก็ดูเหมือนจะไม่มีวันหมดไปสักทีกับข้อกังขาในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ...แม้ว่าจะไม่ถูกตั้งข้อกังขาทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ว่าทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องมีอย่าง 1-2 โครงการหลุดออกมาให้สังคมได้วิพากษ์วิจารณ์กัน...อย่างเช่น...งบประมาณสร้างชาติในยุคอดีตรัฐมนตรีที่เพิ่งหลุดจากตำแหน่งไป...ในโครงการมูลค่า 50 ล้านบาท เพื่ออัดฉีดงบฯที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือ สอศ. ....แต่เม็ดเงินที่อัดลงไปหวังเพื่อสร้างภาพลักษณ์...ดูแววจะแปรเปลี่ยนเป็นการสร้างประโยชน์แอบแฝง จนทำให้ส่อแววจะทำให้ “เสียภาพลักษณ์” เสียมากกว่า...เนื่องด้วยกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแบบมีข้อกังขา....แม้ว่าดูผิวเผิน เหมือนเป็นกระบวนการที่ถูกต้องครบถ้วน แต่เมื่อลงรายละเอียด ก็พอมองออกว่าคล้ายกับการ “ล็อก” สวนทางกับคำกล่าวของอดีตรัฐมนตรีท่านนั้น ที่พูดเหมือนขุดหลุมฝังตนเองเสมอว่า ไทยต้องยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างรีบด่วน เพราะเป็นเรื่องที่ประเทศไทย “รอไม่ได้” แต่ดูแววแล้ว เรื่องของผลประโยชน์ก็ “รอไม่ได้” เช่นกัน...
เรื่องที่ว่านี้จุดประเด็นร้อนกันมาตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจจาก สส.อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาซึ่งทำให้เชื่อว่าเกิด “ข่าวรั่ว” จนมีการหยิบยกข้อมูลการจัดจ้าง วงเงินงบประมาณ 50 ล้านดังกล่าว ที่เตรียมการไว้สำหรับจ้างพิเศษสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานีสื่อบันเทิงที่ไม่ได้มีเนื้อหา สาระในการข่าว และการศึกษา.....ต่อมาเวทีแห่งการจ้างพิเศษก็ถูกตีตกไป และเกิดเป็นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ภายใต้ขอบเขต TOR งานโครงการสื่อสารอาชีวศึกษายกกำลังสองและเสริมสร้างภาพลักษณ์อาชีวศึกษา....มีสาระสำคัญในการจัดจ้าง ซึ่งกล่าวว่าเป็นโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อสร้างการรับรู้ และเสริมสร้างความเข้าใจ ให้นักเรียน นักศึกษา พ่อ แม่ผู้ปกครอง และสาธารณชน ให้เล็งเห็นความจำเป็นและความสำคัญของการเรียนอาชีวศึกษา โดยเผยแพร่ข้อมูลผ่านทางสื่อสารมวลชน และสื่อสาธารณะ เพื่อเป็นสื่อกลางที่หลากหลายช่องทาง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เข้าถึงการอาชีวศึกษา และสนับสนุนการเรียนสายวิชาชีพมากขึ้น
คำถามที่ตามมาคือ “สื่อสารมวลชนที่เป็นสื่อสาธารณะ และหลากหลายช่องทาง เหตุใด จึงมีเกณฑ์การพิจารณาที่มุ่งเน้นเลือกคัดสรรเฉพาะเจาะจงที่เจ้าของคลื่นสัมปทาน” ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นเกณฑ์ที่วางแผนเพื่อเอื้อให้รายใดรายหนึ่ง และหนึ่งในนั้น ตัวเลือกสำคัญ คือ สถานีโทรทัศน์ซึ่งเป็นสื่อบันเทิงที่เคยถูกหยิบยกจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ถึงกระนั้นกระบวนการจัดจ้าง ก็ดำเนินต่อไปอย่างไม่ได้กริ่งเกรงว่าจะเป็นประเด็นทางสังคม...แต่จากการเจาะลึกตามติดประเด็น พบว่า มีบริษัทที่เข้าเสนอรายละเอียดตามข้อกำหนด และผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดตาม TOR จำนวน 3 บริษัท ซึ่งคำตอบของการประกาศผลการคัดเลือก แน่นอนว่า ไม่น่าแปลกใจเพราะบริษัทที่ได้รับเลือก คือ สื่อโทรทัศน์ที่ถูกกล่าวถึงมาตั้งแต่ยังไม่มีประกาศการจัดจ้างนั่นเอง สื่อที่ถูกตีแผ่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่ามีการเอื้อประโยชน์ถึงกัน การส่อแววประโยชน์ทับซ้อนยังไม่สิ้นสุด เพราะที่น่าแปลกใจ จนต้องตามต่อ คือ เมื่อไล่เช็คข้อเสนอด้านราคาของสื่อที่ได้รับการคัดเลือก กลับพบว่า เสนอราคาด้วยราคาที่สูงกว่า แต่เรทติ้งของช่องกลับไม่ได้ติดอันดับ Top 5 และได้รับผลการคัดเลือก?
จึงถึงเวลาที่ต้องร่วมกันทบทวนว่า การจะสร้างภาพลักษณ์ให้แก่อาชีวศึกษา สมเหตุสมผลหรือไม่ ที่ต้องดำเนินการทุ่มเม็ดเงิน 50 ล้านไปกับการลงโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ที่มีผู้เปิดผ่าน และเลือกติดตามสื่อดังกล่าวน้อยราย และสมเหตุสมผลหรือไม่ ที่จะต้องใช้บริษัทที่เป็นข้อกังขาตั้งแต่ TOR ยังไม่เกิด...ไม่รู้เรื่องนี้ในที่สุดจะกลายเป็น “คำถามที่ไม่มีคนตอบ” หรือไม่ ??????
แต่ที่ตอบได้คงมีเพียง ภาพเด็กอาชีวะยกพวกตีกัน ก็คงยังเป็นข่าวที่ถูกสื่อสารต่อไป เพราะกระบวนการการพัฒนาที่ไม่ได้ทำอย่างเอาจริงเอาจัง เพราะทำแต่เพียงเพื่อนโยบายฉาบฉวยที่อาจเกิดประโยชน์กับคนบางกลุ่มเพียงเท่านั้น คำว่า “อาชีวะสร้างชาติ” จึงดูน่าเป็นห่วงเกินกว่าการสนับสนุนให้เป็นจริง และคงต้องเป็นหน้าที่สำคัญของประชาชนคนไทย ที่จะร่วมกันติดตาม ตรวจสอบ เพื่อให้เม็ดเงินที่หนุนภาคการศึกษา ส่งเสริมสร้างศักยภาพให้แก่อนาคตของชาติได้เป็นเม็ดเงินที่ถูกต้องและถูกใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ “เพื่อคนไทยไม่ใช่เพื่อใครบางคน”
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี