nn หลังถูกย้อนเกล็ด กรณีที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)และ “เพจดัง” แห่งหนึ่งออกมาตีปี๊บว่าอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT ที่บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้า (BEM) ให้บริการอยู่ ต่ำกว่า ถูกกว่า
และใช้เวลาเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเดียวกันได้เร็วกว่า รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ทุกประตู! โดยมีการยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นกันจะจะ อย่างนั่งจากสถานีหมอชิต-ไปอโศกนั้น รถไฟฟ้า BTS ใช้เวลาเดินทาง 21 นาที ค่าโดยสาร 44 บาท เทียบกับ MRT จากสถานีจตุจักร-สุขุมวิท ใช้เวลาเดินทางเพียง 19 นาที ค่าโดยสารแค่ 35 บาท หรือจากสถานีหมอชิต- บางหว้า นั้น BTS ใช้เวลาเดินทางถึง 38 นาทีค่าโดยสาร 59 บาท ขณะที่ MRT จากสถานีจตุจักร-บางหว้านั้น ค่าโดยสารแค่ 42 บาท และใช้เวลาเดินทางเพียง 28 นาทีเท่านั้น
แต่พอถูกย้อนเกล็ด ก็ในเมื่อรถไฟฟ้า MRT เหนือกว่า BTS ทุกประตูแล้ว เหตุใดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ รฟม. ที่กำลังเปิดประมูลรถไฟฟ้า สายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กม.วงเงินลงทุน 1.42 แสนล้านบาท อยู่ถึงไม่เปิดให้2 กลุ่มผู้เหมาที่ให้บริการรถไฟฟ้าของเมืองไทยคือ BTS และ BEM ได้ขับเคี่ยวชิงดำสัมปทานร่วมทุนในโครงการนี้กันแบบแฟรงค์ๆ แฟร์ แฟร์กันไปเลย... ยังไงซะ BEM ที่ให้บริการรถไฟฟ้า MRT ก็ “กินขาด” ชนะตั้งแต่ในมุ้งอยู่แล้ว เพราะวัดศักยภาพการบริหารจัดการกันปอนด์ต่อปอนด์ วัดต้นทุนให้บริการ ค่าโดยสารที่ให้บริการอยู่ในเวลานี้ก็เห็นกันอยู่โทนโท่ BEM เหนือกว่าทุกประตู BTS จะเอาอะไรมาสู้ได้
แล้วฝ่ายบริหาร รฟม. กลัวอะไร? ถึงต้องดั้นเมฆจะเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่รังแต่จะเรียกแขกให้งานเข้ามาใช้ ทั้งที่เกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเดิมก็ดีอยู่แล้ว และเป็นเกณฑ์คัดเลือกที่โครงการรถไฟฟ้า สายสีอื่นๆ ของ รฟม.หรือแม้แต่รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน มูลค่ากว่า 240,000 ล้าน ของการรถไฟฯที่มีขนาดใหญ่และมีความซับซ้อน ใช้เทคโนโลยีสูงกว่ารถไฟฟ้า สายสีส้มหลายเท่าตัวเขาก็ยังใช้เกณฑ์พิจารณาคัดเลือกกันปกติ…ไม่เห็นจะต้องอุตริไปลากเอาเกณฑ์บ้าบอที่ไหนมาใช้จนเรียกแขกให้งานเข้ากันแบบนี้!
เจอไม้นี้เข้า ก็ทำเอาคน รฟม.แทบไปไม่เป็น ไม่รู้ป่านนี้เก็บพับตารางเปรียบเทียบอัตราค่าโดยสารสุด “โหลยโท่ย” กลับเข้าแฟ้มกันไปหรือยัง แต่ที่แน่ๆ วันก่อน ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ได้ออกมาสัพยอกตีแผ่ข้อมูลในเอกสารคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน(Request for Proposal หรือ RFP) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มของรฟม.เองว่าระบุอัตราค่าโดยสาร ณ วันที่ 1 มกราคม 2566ที่ราคา 17-62 บาท ซึ่งเป็นอัตราใกล้เคียงกับค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ถูกกระทรวงคมนาคมและรฟม.แย้งก่อนหน้านี้ว่า “แพง” จนรับไม่ได้ จนทำให้การเจรจาขยายสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอสที่คณะทำงานเจรจาของ กทม.และบริษัทบีทีเอสหารือตนได้ข้อยุติกันไปแล้วต้องค้างเติ่งกันมาจนวันนี้
ทำเอา นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการ รฟม. นั่งไม่ติด ต้องอ้อมแอ้มออกมาชี้แจงว่าค่าโดยสารที่ว่านั้น เป็นแค่ตุ๊กตาที่ใช้เฉพาะให้เอกชนยื่นข้อเสนอร่วมลงทุน เพื่อเป็นบรรทัดฐานเดียวกันเท่านั้น แต่เมื่อเปิดใช้งานจริงรฟม.จะลดค่าโดยสาร (ช่วงตะวันออก) เหลือ 15-45 บาทเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเอาเข้าจริง รฟม.จะไปสั่งเขาลดราคาได้จริงไหม เพราะเคยมีตัวอย่างโครงการรัฐที่ต้อง “เสียค่าโง่”ไม่รู้เท่าไหร่ ต่อเท่าไหร่ จากการที่ภาครัฐคู่สัญญาไปล้วงลูกสั่งเขาลดราคา/ลดค่าผ่านทางลง โดยไม่เป็นไปตามเอกสารสัญญา อย่างโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์นั่นปะไร
จะว่าไป TOR และเกณฑ์คัดเลือกเดิมก็ให้ความสำคัญกับเรื่องของเทคนิคอยู่แล้ว ผู้ที่จะผ่านเกณฑ์ต้องได้คะแนนด้านเทคนิคเกิน 85% จึงค่อยมาตัดสินด้วยราคาทำให้เกิดความโปร่งใส แต่เกณฑ์คัดเลือกใหม่ที่ รฟม.ดั้นเมฆจะนำมาใช้นั้น กลับเอามาปนเปกับข้อเสนอการเงิน แถมยังลดทอนความเข้มข้นของเกณฑ์ด้านเทคนิคลง เปิดทางให้คณะกรรมการคัดเลือกให้คะแนนตามใบสั่ง สามารถจะกำหนดตัวคนที่จะชนะได้เลย ตรงนี้ต่างหากที่ทำให้ รฟม.งานเข้า เป็นรายการ “ขว้างงูไม่พ้นคอ” ที่ทำให้ รฟม.ปิดดีลจบยังไงก็ไม่ลงจนวันนี้
การที่ รฟม.ยังคงตั้งหน้าตั้งตาที่จะนำเอาเกณฑ์คัดเลือกเจ้าปัญหากลับมาประมูลให้ได้ ถึงวันนี้ วินาทีนี้หลายภาคส่วนต่างแสดงความเป็นกังวลว่า ท้ายที่สุดแล้วอาจทำให้เส้นทาง
ประมูลรถไฟฟ้า สายสีส้มอาจต้องจบลงด้วยความล้มเหลวไม่เป็นท่าเอาอีกคำรบเพราะเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่ไม่เพียงจะลดทอนคุณสมบัติด้านเทคนิคลงมา อันเป็นการดำเนินการที่ “ย้อนแย้ง” กับสิ่งที่ รฟม.ป่าวประกาศต่อสาธารณชนมาโดยตลอดนั้น ในส่วนของบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูลก็ยังคงแสดงท่าทีว่ารับไม่ได้ และยังคงตั้งแท่นจะ “ลุยกำถั่ว” ค้าความกับรฟม.ถึงขั้นฎีกาเอาด้วยอีก!
ยังดีอยู่หน่อยที่ “นายกฯลุงตู่” ของเราไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรสักอย่าง จึงได้แต่ฟ้อนเงี้ยวหน้าจอทีวีไปวันๆ ขณะที่ นายอาคมเติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังและอดีต รมว.คมนาคมที่แม้จะรู้ตื้นลึกหนาบางโครงการนี้แต่แกก็รู้ตัวเองดีว่า แค่ไล่แจก “เป๋าตัง” สารพัดโครงการในมือก็ยุ่งขิงเป็นยุงตีกันอยู่แล้ว เพราะ “เป๋าตุงเป๋าตัง” ทำท่าจะทำให้คลัง “เป๋าฉีก” จนต้องวิ่งพล่านควานหาเม็ดเงินภาษีมาปิดหีบอุดรายจ่าย!
หาไม่งั้น คงได้มีใครถูกปลดเซ่นโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มเจ้าปัญหาที่ล่าช้าข้ามปีเป็นแน่!!!
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี