ll เชื่อว่าตอนนี้ประเทศไทยคงพอจะเห็นเค้าลางของรัฐบาลชุดใหม่แล้ว....ถามว่ามีอะไรรออยู่บ้างนั้น...ลองมาดูความเห็นและข้อเสนอแนะที่น่าสนใจจาก...คุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย...กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งพรรคก้าวไกลมีคะแนนเป็นอันดับ 1 ตามหลักการก็มีสิทธิที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน และครั้งนี้เห็นว่าหลายพรรคการเมืองออกมาประกาศเจตนารมณ์ว่าจะให้เกียรติพรรคการเมืองลำดับ 1 เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลก่อน จึงต้องรอติดตามว่าหลังจากนี้กระบวนการจับมือตั้งรัฐบาลจะออกมาในลักษณะใด…ในมุมมองภาคเอกชนมองว่าเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นภาพคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ตัวอย่างหลายประเทศก็มีผู้นำที่เป็นคนรุ่นใหม่ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา แต่สิ่งสำคัญคือการผสมผสานคนที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาช่วยบริหารประเทศ เช่นเดียวกับภาพของธุรกิจที่วันนี้เราจะเห็นได้ว่ามีนักธุรกิจรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตในการเลือกตั้งครั้งนี้คือไม่มีพรรคใดได้รับเสียงที่ชนะขาดแบบท่วมท้น จะทำให้เห็นภาพของพรรคอันดับ 1 และอันดับ 2 ทิ้งห่างกันไม่มาก ความเป็นไปได้ที่พรรคอันดับ 1 จะจับมือกับอันดับ 2 หรือรูปแบบการจัดตั้งรัฐบาลในหลากหลายสูตร เป็นเรื่องที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่วันนี้ทุกภาคส่วนอยากเห็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ สามารถบริหารงานได้ต่อเนื่องไม่หยุดชะงัก
ดังนั้น วันนี้สิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็นคือกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลที่รวดเร็วตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย เพราะทุกภาคส่วนจะได้เห็นหน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่ รวมไปถึงชุดนโยบายต่างๆ ที่จะออกมาตามที่พรรคแกนนำจัดตั้งและพรรคร่วมได้ตกลงกันที่ก็จะมีความชัดเจน ซึ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประเทศได้เป็นอย่างมาก
ขณะที่ คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค. 2566 ได้ชี้ให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการเมืองไทยที่พัฒนาไปอีกระดับหนึ่งประชาชนมีการตื่นตัวมากขึ้นและต้องการการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้ก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงสูงสุดและเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลที่จะรวมกับพรรคเพื่อไทยที่ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับ 2 ดังนั้นภาคเอกชนจึงต้องการเห็นการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุดและที่สำคัญต้องมีเสถียรภาพเพราะหากรัฐบาลไม่มั่นคงจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศได้ และเราเองก็ไม่อยากเห็นการประท้วงบนถนนหากมีปัญหาจะกระทบท่องเที่ยวที่จะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจในปีนี้อีก
ทั้งนี้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ควรจะต้องเป็นทีมที่มีประสบการณ์การแม้ว่ากรณีที่พรรคก้าวไกลอาจจะไม่มีแต่ก็ต้องดึงคนรุ่นใหม่ๆ มาร่วมคิด และทำงานเป็นทีมไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนโดยเฉพาะภายใต้
คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) และหน่วยงานรัฐต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่น กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ เพราะท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่แบ่งเป็น 2 ขั้วระหว่างสหรัฐและสหภาพยุโรป(อียู) กับรัสเซียและจีนไทยต้องอยู่ท่ามกลางมหาอำนาจที่เป็นคู่ค้าหลักอันดับ 1 และ 2 ทั้งคู่ให้ได้ ดังนั้นการเดินเกมระหว่างประเทศจึงต้องเป็นไปด้วยความชาญฉลาด ซึ่งส.อ.ท.พร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกรัฐบาล
สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งทำคือการแก้ไขปัญหาปากท้องชาวบ้านที่ขณะนี้หนี้ครัวเรือนของไทยสูงมาก ท่ามกลางราคาพลังงานโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่แพงซึ่งหากมองเบื้องต้นนโยบายที่หาเสียงไว้ของก้าวไกลและเพื่อไทย ที่เหมือนกันคือ การดูแลราคาพลังงานโดยเฉพาะมีเป้าหมายที่จะลดค่าไฟลงจึงเป็นสิ่งที่จะถูกจับตามองใกล้ชิดว่าจะทำได้หรือไม่อย่างไร
นอกจากนี้การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั้ง 2 พรรคก็มีแนวทางเช่นกันโดยเพื่อไทยจะขึ้นเป็นอีก 600 บาทต่อวันในปี 2570 ขณะที่ก้าวไกลนั้นขึ้นทันที 450 บาทต่อวันและปรับทุกปีซึ่งนับเป็นการขึ้นแบบก้าวกระโดดและก้าวข้ามการพิจารณาของคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ดังนั้นคงจะต้องติดตามว่าจะมีมาตรการอะไรมาเยียวยาผลกระทบให้กับกลุ่มที่ใช้แรงงานเข้มข้นและผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี)หรือไม่
สุดท้ายนี้ข้อเสนอของภาคเอกชนนั้นคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ได้จัดทำข้อเสนอต่อพรรคการเมืองให้ทราบถึงความต้องการของภาคเอกชน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแก้ปัญหาในการดำเนินธุรกิจไปแล้วหลักๆ 6 ข้อได้แก่ การยกระดับขีดแข่งขันประเทศ การปฏิรูปกฎหมายที่ล้าสมัยการส่งเสริมให้ไทยเป็นฮับเทคโนโลยี การเพิ่มผลิตภาพแรงงาน การสนับสนุนเอสเอ็มอี การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี