วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ll ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ เรื่อง เทคโนโลยีลดการปล่อย Emission ในอุตสาหกรรมเหล็ก และก้าวต่อไปสำหรับอุตสาหกรรมเหล็กไทย....โดยระบุว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ปริมาณมากในอุตสาหกรรมเหล็ก ส่งผลให้ต้องมีการเร่งปรับปรุงกระบวนการการผลิตเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จะรุนแรงขึ้นในอนาคต โดยเริ่มมีการกำหนดเป้าหมายลดการปล่อย GHG ของผู้ผลิตเหล็กทั่วโลก จนเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยเฉพาะผู้ผลิตเหล็กชั้นนำในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น สวีเดน ที่เริ่มลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีลดการปล่อย CO2 ในอุตสาหกรรมเหล็กและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล จนได้ผลิตภัณฑ์ Fossil-free steel สำหรับจำหน่ายให้กับอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ โดยมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตสินค้าในห่วงโซ่อุปทาน ทั้งภาคการผลิตวัสดุก่อสร้าง การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า และการผลิตรถยนต์ อาทิ
Hydrogen Breakthrough Ironmaking Technology (HYBRIT) โดย SSAB ผู้ผลิตเหล็กสัญชาติสวีเดนนำ Green hydrogen เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเหล็กพรุน (Sponge Iron หรือDirect Reduce Iron : DRI) และนำมาหลอมรวมกับเศษเหล็กในเตาหลอมไฟฟ้าระบบอาร์ค (Electric Arc Furnace : EAF) ที่ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนตลอดกระบวนการผลิต จนได้ Fossil-free steel และประสบความสำเร็จในการผลิตรถยนต์ต้นแบบที่ใช้ Fossil-free steel ทั้งคัน โดยมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ได้แก่ Volvo และ Mercedes ซึ่งมีแผนที่จะจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ภายในปี 2026
Carbon Capture and Utilization (CCU) เป็นการดักจับ CO2 จากโรงงานผลิตเหล็กของ ArcelorMittal ในเบลเยียม และนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปจนได้ผลิตภัณฑ์เอทานอลที่เรียกว่า “Steelanon” โดย LanzaTech ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำของโลก จากเทรนด์การเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ทำให้คาดว่าจะมีความต้องการใช้งานเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาคการก่อสร้าง ที่มีการสร้างอาคารสีเขียว ภาคการผลิตอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีส่วนประกอบของ Green Steel ไปจนถึงภาคการผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่อุปทาน
การนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเหล็กไทยไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อม แต่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้ผลิต และการสนับสนุนจากภาครัฐ การพัฒนาเทคโนโลยีลดการปล่อย CO2 สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กในประเทศที่พัฒนาแล้ว มีงบประมาณการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ทั้งด้านบุคลากรและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการผลิต Green Steel คือการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และผู้ผลิตเหล็กในประเทศ โดยอาจเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายลดการปล่อย CO2 และค่ามาตรฐานสำหรับ Green Steel ที่ชัดเจน เพื่อนำมาสู่การพัฒนาเครื่องมือการวัด และการกำหนดกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังต้องมีการออกมาตรการสนับสนุนการผลิต อย่างการจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ผลิตเหล็ก เพื่อใช้ในการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้เกิดความต้องการใช้งานเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การให้สิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องให้ใช้ Green Steel
ความร่วมมือในการลดการปล่อย CO2 ของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กของไทยนับเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด โดยปัจจุบัน ผู้ผลิตเหล็กของไทยเกือบทั้งหมดมีการใช้เตาหลอม EAF ในการผลิตเหล็กแล้ว อย่างไรก็ดี ยังสามารถพิจารณาการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต และการแสวงหาแหล่งพลังงานสะอาดเพิ่มเติมให้เพียงพอ เพื่อทดแทนการใช้พลังงานจากฟอสซิลให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังควรพิจารณาจัดเก็บข้อมูล และติดตามสถานการณ์การปล่อย CO2 ของอุตสาหกรรมเหล็กอีกด้วย
ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะข้างต้นจะเป็นก้าวแรกในการแสดงความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมเหล็กไทย ต่อเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งจะนำไปสู่ก้าวต่อไป ที่จะมีการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการยกระดับอุตสาหกรรมเหล็กของไทยได้มากขึ้นในอนาคต
SCB EIC

ทนายสายหยุดโต้เดือด ดาราสาวรอมอบตัว ตำรวจไม่รับ แต่กลับถูกล็อคคาบ้าน
ค่าครองชีพมหาศาล ดันนิวยอร์กครองแชมป์ เมืองเครียดที่สุดในโลกปี2025
น้าเดชว่าใคร อยู่ไทยเป็นผู้นำม๊อบ อยู่เมืองนอกเป็นลูกกระจ๊อก
ผัวหลอนยาบ้าสังหารเมียดับ อ้าง 16 ปีแห่งความแค้น ลูกสาวโต้แม่ให้อภัยนับครั้งไม่ถ้วน
รู้ชะตากรรม? ส่องโพสต์ล่าสุด นานา ไรบีนา ร่ายยาวถึงอนาคตเด็กๆ ก่อนโดนบุกรวบคาบ้าน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี