วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
nn เมื่อเร็วๆ นี้ มีการสร้างความร่วมทางด้านการค้าที่น่าสนใจระหว่าง...เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (The Ministry of Economy, Trade and Industry : METI) ประเทศญี่ปุ่น องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization : JETRO Bangkok) และกลุ่มทรู เพื่อจัดงาน Rock Thailand ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจสตาร์ทอัพระดับแถวหน้าจากญี่ปุ่นได้มานำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีและแผนธุรกิจต่อบริษัทชั้นนำและพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทย (CVCs / VCs / Corporate Innovations)
ภายใต้แนวคิด “Empowering Growth in Asean” มีเป้าหมายเพื่อสร้างความร่วมมือแบบ co-creation ส่งเสริมเศรษฐกิจใหม่ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย พร้อมทั้งร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งมิตรภาพอาเซียน-ญี่ปุ่น โดยในปีนี้มีสตาร์ทอัพ 10 บริษัทมานำเสนอแผนธุรกิจเน้นไปที่กรีนเทคโนโลยีและดิจิทัล ด้านไบโอเทคโนโลยี และนวัตกรรมลดคาร์บอนต่อบริษัทร่วมทุนเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
ฯพณฯ ยาสึโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญกับประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานและแข็งแกร่ง ซึ่งงาน Rock Thailand ถือเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในการสร้างเศรษฐกิจระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยผ่านความร่วมมือกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการนำเทคสตาร์ทอัพของญี่ปุ่นมานำเสนอแผนธุรกิจและนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อบริษัทชั้นนำของไทย โดยจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2562 และในปีนี้ถือเป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทสตาร์ทอัพจากญี่ปุ่น
เช่น Umitron,Liberaware และ Neural Group ได้เข้ามาร่วมทำงานกับบริษัทในเครือซีพีเพื่อนำเทคโนโลยีมาวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากดาวเทียม โดรน และเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งในสถานที่ต่างๆ ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ปศุสัตว์ และการขนส่ง และยังมี Sagri สตาร์ทอัพในการทำเทคโนโลยีมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในภาคเกษตรกรรมที่กำลังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทในเครือซีพี นอกจากนี้ยังมีสตาร์ทอัพที่ได้รับโอกาสจากงาน Rock Thailand ที่ผ่านมาอย่าง Regional Fish และ Zero Board ได้เข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำในไทย และการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เทคสตาร์ทอัพ 10 บริษัทได้มาร่วมนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านดิจิทัล AI ไบโอเทคโนโลยีและนวัตกรรมลดคาร์บอนแก่บริษัทชั้นนำของไทย ซึ่งทางเมติพร้อมร่วมมือสนับสนุนอย่างเต็มที่ และได้มีการส่งเสริมการขยายธุรกิจในต่างประเทศของสตาร์ทอัพญี่ปุ่นผ่านมาตรการต่างๆ เช่น สนับสนุนงบประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาทในการวิจัยและพัฒนา Deep Tech รวมทั้งทุ่มงบอีก 5 พันล้านบาท เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในต่างประเทศโดยความร่วมมือกับบริษัทร่วมลงทุน (Venture Capital-VC)
“ผมเชื่อมั่นว่าหากภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นและไทยร่วมมือกันผ่านช่องทางต่างๆ เราจะสามารถร่วมสร้างเทคโนโลยีนวัตกรรมที่มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความท้าทายทางสังคม ไม่เพียงแค่แก้ปัญหาในระดับอาเซียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระดับโลกด้วย เราจะพยายามอย่างเต็มที่และพร้อมสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทุกประเทศแถบภูมิภาคอาเซียนในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างยั่งยืน” รัฐมนตรีกระทรวงเมติ กล่าว
ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า การจัดงาน Rock Thailand เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญทางธุรกิจด้านเทคสตาร์ทอัพระหว่างญี่ปุ่นและไทยจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่จะทำให้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างเท่าทัน เพราะตอนนี้โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน การทำธุรกิจให้เติบโตจะต้องคิดไปพร้อมกับความยั่งยืน และต้องปรับโมเดลธุรกิจไปสู่ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยการปรับองค์กรสู่ความเป็น Tech Company และมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ New S-Curve ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเครือซีพี ได้ขยายธุรกิจด้วยการเพิ่มการลงทุนด้านธุรกิจพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) พร้อมทั้งทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพในการพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดรับกับความท้าทายในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการส่งเสริมเทคสตาร์ทอัพในไทยและอาเซียนต้องให้ความสำคัญด้วยการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมทั้งมีการลงทุนใน Deep Tech เพื่อพัฒนาธุรกิจสีเขียวในอาเซียน ซึ่งหากได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนที่เหมาะสมจะสามารถดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในสตาร์ทอัพแถบอาเซียนช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคที่แข็งแกร่งมากขึ้น
“ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างญี่ปุ่นและไทยแบบ co-creation ในงาน Rock Thailand ครั้งนี้เป็นหัวใจสำคัญในการสนับสนุนเสริมพลังสตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผ่านการส่งเสริมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้สามารถรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับสตาร์ทอัพของไทยและอาเซียนในการทำธุรกิจเพื่อสร้างโลกให้ยั่งยืนอีกด้วย”ซีอีโอเครือซีพี กล่าว
Mr.Okishio Shogo Business Development for overseas จาก Towing Inc 1 ในบริษัทสตาร์ทอัพ เปิดเผยว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมนำเสนอแผนธุรกิจ Rock Thailand ครั้งที่ 5โดยมองว่านอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับสตาร์ทอัพได้เจอกับผู้ร่วมทุนแล้วนั้น เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมด้านความยั่งยืนเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับโลกต่อไป และหวังว่าเทคโนโลยีที่ทางบริษัทคิดค้น คือ สูตรการทำปุ๋ย โดยการผสมจุลินทรีย์ ไบโอชาร์ และปุ๋ยอินทรีย์รวมกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร และนำไปสู่ carbon credit ได้นั้น จะนำไปสู่ความยั่งยืนได้
งาน “Rock THAILAND” เป็นหนึ่งในกิจกรรมความร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและเครือเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้โครงการ Open
Innovation Columbus (OIC) ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีสตาร์ทอัพรุ่นใหม่จากญี่ปุ่นรวม 10 บริษัทที่มานำเสนอแผนธุรกิจ (Pitching) และเทคโนโลยีนวัตกรรมสายกรีน ประกอบด้วย 1.ExtraBold Inc. สตาร์ทอัพที่เน้นเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) และกำลังวิจัยสร้าง 3D สำหรับหุ่นยนต์ รวมไปถึงริเริ่ม “Green Creative”สนับสนุนการรีไซเคิลที่เปลี่ยนจากปิโตรเลียมเป็นเรซิ่นและพลาสติกชีวภาพ 2.CADDI Co., Ltd.ผู้ที่นำโซลูชั่นเทคโนโลยีคลาวด์เซอร์วิสมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการข้อมูลในอุตสาหกรรมการผลิต 3.Recursive Inc. สตาร์ทอัพ ที่พัฒนานวัตกรรมด้วยการนำ AI มาแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน การเพิ่มผลผลิตและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4.Quwak Inc.สตาร์ทอัพที่พัฒนาแพลตฟอร์ม Digital ID (Digital Identity) พิสูจน์และยืนยันตัวตนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความปลอดภัย และสามารถระบุและยืนยันตัวตนได้อย่างแม่นยำ
5. Spiber Ltd. สตาร์ทอัพด้านไบโอเทคโนโลยีที่ผลิตโปรตีนชีวภาพ Brewed Protein ด้วยกระบวนการหมักโดยจุลินทรีย์ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และช่วยลดการพึ่งพาปิโตรเลียมแบบดั้งเดิม 6.Thermalytica Inc. สตาร์ทอัพด้าน CleanTech เน้นเทคโนโลยีพลังงานสะอาดลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยได้รับการจดสิทธิบัตร TIISA® และนำไปใช้ในหลายธุรกิจใหม่อย่างรถยนต์ EV และอาคารประหยัดพลังงาน 7.TOWING Inc. สตาร์ทอัพสาย Agritech พัฒนานวัตกรรมสารปรับปรุงดินที่ชื่อ SORATAN ช่วยป้องกันโรคและดักจับคาร์บอน 8.Plant Life Systems Co. Ltd. พัฒนาเทคโนโลยีในการเพาะปลูกด้วยการนำแบบจำแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของชีววิทยาโมเลกุลพืชมาปรับใช้หาเทคนิคการปลูกพืชในพื้นที่ๆไม่เหมาะกับการปลูกให้ทำการเกษตรได้ 9.KAICO LTD. สตาร์ทอัพที่พัฒนาและผลิตโปรตีนพิเศษจากหนอนไหมเพื่อใช้ในทางการแพทย์สำหรับการผลิตยาและวัคซีน และ 10.Bacchus Bio innovation Co.,Ltd. สตาร์ทอัพที่ส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพด้วยการใช้ไบโอเทคโนโลยีและดิจิทัลมาแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดคาร์บอน

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี