วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ll โลกการค้า...ไปเห็นรายงานชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับภาษีทางการค้า ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่ผู้ประกอบการจะต้องเจอในอนาคตแล้วก็รู้ว่าน่าสนใจ จึงของหยิบเอามานำเสนอ ซึ่งเป็นรายงานของ PwC ประเทศไทย (บริษัทให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจไทยมานานกว่า 64 ปี ทั้งด้านภาษี กฎหมาย และ แผนธุรกิจ) มีบริษัทเครือข่าย 151 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานมากกว่า 360,000 คน
เนื้อหาสำคัญ PwC ประเทศไทย แนะผู้ประกอบการทำความเข้าใจและปรับตัวเพื่อรับมือกับการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ แนวทางการตีความ และข้อปฏิบัติของกรมสรรพากร รวมถึงนโยบายทางภาษีที่ได้รับการพัฒนาและอาจถูกนำมาปรับใช้ในอนาคตอันใกล้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น เป็นผลโดยตรงจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในยุคการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล อันนำมาซึ่งความพยายามในการสร้างระบบการจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรม และสอดรับกับการดำเนินธุรกิจข้ามพรมแดนแบบไร้รอยต่อของผู้ประกอบธุรกิจข้ามชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ย่อมทำให้ผู้ประกอบการต้องมีความพร้อมและสามารถปฏิบัติตามกฎหมายภาษีที่ปรับเปลี่ยนใหม่ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติงานทางภาษีที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกัน ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกตั้งคำถาม หรือการต้องแบกรับภาระการพิสูจน์ในกรณีของการถูกประเมินภาษี
นายสมบูรณ์ วีระวุฒิวงศ์ หุ้นส่วนและหัวหน้าสายงานภาษีและกฎหมาย PwC ประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนาประจำปี Maximise Shareholder Value 2024 ในหัวข้อ “รับมือความท้าทายในปัจจุบัน เปิดรับโอกาสอันยั่งยืนแห่งอนาคต” (Embracing today’s complexities, welcoming tomorrow’s opportunities) ว่า ในโลกปัจจุบันที่เป็นยุคเศรษฐกิจดิจิทัล มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการดำเนินธุรกิจแบบไร้พรมแดน หน่วยจัดเก็บภาษีในประเทศต่างๆ มีการหารือทั้งในเชิงวิชาการและทางปฏิบัติเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์สากลอันเป็นที่ยอมรับร่วมกันและสอดรับกับแนวคิดที่ว่า ทุกประเทศควรได้รับสิทธิในการจัดเก็บภาษีตามสัดส่วนที่เหมาะสมและเป็นธรรมจากการทำธุรกรรมข้ามชาติของ
ผู้ประกอบการ
ในปัจจุบัน ภาครัฐของไทยมิได้นิ่งเฉยต่อกรอบการพัฒนาการจัดเก็บภาษีดังกล่าว โดยประเทศไทยมีได้มีส่วนร่วมและนำนโยบายการจัดเก็บภาษีในระดับสากลมาปรับใช้เป็นกฎหมายภายในอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีกรณีการโอนถ่ายกำไรโดยใช้ช่องว่างทางกฎหมายภาษี เพื่อการหลบเลี่ยง กัดกร่อนฐานภาษีในประเทศ (Base Erosion and Profit Shifting : BEPS) การแก้ไขอนุสัญญาพหุภาคีที่เกี่ยวข้องกับมาตรการตามบทบัญญัติของอนุสัญญาภาษีซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาภาษีซ้อน (MLI) หลักการของ Pillar 1 และ Pillar 2 ที่เกี่ยวข้องกับจัดสรรสิทธิในการจัดเก็บภาษีให้แต่ละประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดการความเสี่ยงด้านการกำหนดราคาโอน ผ่านข้อตกลงการกำหนดราคาเป็นการล่วงหน้า (APA) และวิธีการดำเนินการเพื่อความตกลงร่วมกัน (MAP) เป็นต้น
ในอนาคต กรมสรรพากรมีแนวทางในการพัฒนาระบบภาษีไทยให้สอดคล้องกับหลักการสากลอย่างต่อเนื่อง อันจะเห็นได้จากการปรับใช้แผนปฏิบัติราชการกรมสรรพากร ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อเป็นทิศทางในการขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายในมิติต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกรมสรรพากรได้พิจารณาทิศทางและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงการกำหนดนโยบายภาษีและการพัฒนาการบริหารจัดเก็บภาษีของประเทศต่างๆ ตลอดจนข้อตกลงความร่วมมือด้านภาษีอากรในระดับนานาชาติ เช่น OECD Inclusive Framework on Base Erosion and Profit Shifting (BEPS) หรือกรอบความร่วมมือเกี่ยวกับการป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษี และการโอนกำไรไปต่างประเทศ และ Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes หรือกรอบความร่วมมือเกี่ยวกับความโปร่งใสและการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านภาษี
“นอกจากการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับกฎเกณฑ์การจัดเก็บภาษีใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการปฏิบัติทางภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมายปัจจุบันด้วย การขยายธุรกิจของผู้ประกอบการยังคงต้องคำนึงถึงการวางแผนโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสม ทั้งในแง่ของการกำหนดความมุ่งหมายทางการค้า การเลือกรูปแบบการลงทุน การบริหารความเสี่ยงและการสร้างโอกาสทางภาษีผ่านการควบรวมกิจการ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการปฏิบัติงานเรื่องภาษี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ความถูกต้อง และมีความพร้อมในเชิงข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบในอนาคต”นายสมบูรณ์กล่าว
นอกเหนือจากความเปลี่ยนแปลงทางภาษีสรรพากร การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของการค้าข้ามพรมแดนและการปฏิวัติดิจิทัล ยังนำมาซึ่งความท้าทายทางศุลกากรในมิติของแนวโน้มการตรวจสอบหรือสอบสวนในด้านพิกัด การประเมินราคา และการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร (BOI) อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่อง มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญภายใต้แนวคิดสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) ของสหภาพยุโรป ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจไทย และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจและเกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจของผู้ประกอบการ
“การพัฒนาทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจยุคดิจิทัล อันนำมาซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพและช่องทางในการทำธุรกิจเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ การสร้างระบบการจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้น จึงป็นความรับผิดชอบของหน่วยจัดเก็บภาษี ผู้ประกอบการในฐานะผู้เสียภาษีจึงต้องเตรียมความพร้อม กลยุทธ์ และทรัพยากร ในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นโดยมีการเสียภาษีและปฏิบัติตาม
กฎหมายต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงและภาระจากการถูกตรวจสอบ และยังส่งผลเชิงบวกต่อภาพลักษณ์ของบริษัท ทั้งต่อคู่ค้า นักลงทุน และหน่วยงานของรัฐอีกด้วย” นายสมบูรณ์กล่าว
กระบองเพชร

'เพื่อไทย'เปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัคร สส.ล็อตใหม่เพิ่ม 11 คน เผย 'นนทบุรี' ครบทุกเขต
‘จุลพันธ์’ยันลูกชูวิทย์ กุ่ย ยังอยู่เพื่อไทย อุบชื่อแคนดิเดตนายกฯยังไม่เคาะ
'กัน จอมพลัง'กลับมาแล้ว! เตรียมฟ้องคนดัง10ราย ชาวเน็ตก็ไม่รอด
‘โฆษกรัฐบาล’ย้ำทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ ปรามสื่อมาเลย์ให้ระวังการสื่อสารให้มากขึ้น
โชเฟอร์ปวดท้องจอดรถเข้าห้องน้ำ ยังไม่ทันเสร็จภารกิจ โดน6ล้อเสยท้าย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี