nn ถ้านับตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2566 มาจนถึงปัจจุบัน ก็เรียกได้ว่าครบรอบ 1 ปีพอดีๆที่ประชาชนต้องมาลุ้นว่าเศรษฐกิจของประเทศจะดำเนินไปในทิศทางใด นโยบายรัฐบาลที่ได้ดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้จะได้รับการสานต่อหรือไม่...เพราะกระบวนการ “กล่องสุ่มเลือกนายกฯ”...คงไม่มีอะไรให้ได้ลุ้น... “ดิจิทัล วอลเล็ต” ที่หลายล้านคนรอ...ต้องลุ้นว่าได้กี่โมง...เรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่มี...กาสิโนถูกกฎหมาย...ซึ่งเป็นแกนหลักของเรื่องนี้...ซึ่งรัฐบาลทำรายงานมาแบบ “งานโคตรหยาบ”...จนถูกนักวิชาการชำแหละออกมาไม่เหลือซากเพราะช่องโหว่ทางกฎหมายมากมายและมองไม่เห็นถึงคำว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจตรงไหนเลย...รัฐบาลจะกลับไปทำการบ้านใหม่ (ให้งานมันดีขึ้น) เสร็จได้วันไหน...นี่ไม่นับเรื่องที่จะเป็นการเปิดช่อง...ให้ “ทุนจีนเทา ไทยเทา” ที่ทำ “เว็บพนันออนไลน์” ที่ตอนนี้หนีไปอยู่ต่างประเทศได้มีโอกาสกลับมาโลดแล่นในสังคมได้อย่างเปิดเผยอีกนะ...!! และเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า...ที่ควรจะเอาขึ้นมาอยู่บนดินซึ่งสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ...มาพิจารณาศึกษาเป็นเรื่องเป็นราวมาตลอดเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาจนเกือบจะได้ข้อสรุปออกมาแล้ว...ก็ยังต้องลุ้นต่ออีกว่า...คณะรัฐมนตรีชุดใหม่...ที่มีพรรคเพื่อไทย...ยังคงเป็นแกนนำ...จะเอายังไงต่อ...!! ถ้าระดับนโยบายไม่ฟันธง...แวดวงการเงิน...ก็ห่วงๆอยู่ว่ามันจะยืดเยื้อ...ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก...โดยเฉพาะเรื่องเงินภาษีที่เราจะได้...ให้ข้อมูลไว้เป็นฐานว่า...ตอนนี้บุหรี่ไฟฟ้าจากจีนที่เข้ามาในประเทศไทย ก็ปีละประมาณ 2 พันล้านบาท...แต่ยังคงไม่รู้กันล่ะสิว่าที่หนักหนากว่านั้นคือที่ทะลักเข้ามาจากมาเลเซีย (ซึ่งเขาผลิตเองเป็นของมาเลเซียเลย) ซึ่งตัวเลขนั้นมากว่าที่เข้ามาจากจีนด้วย....!! ถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่า...ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต...คงดีดลูกคิดออกมาได้แล้วว่าจะได้เงินภาษีเข้าคลังกี่หมื่นล้านบาท...ถ้าหากมีการ “ปลดล็อก”แล้วให้ขายหรือผลิตได้ถูกต้องตามกฎหมาย...เหมือนกับอีก 90ประเทศทั่วโลกเขาทำกัน...!! อย่างนี้ครับถ้าระดับนโยบายไม่ชัดตีโจทย์เรื่องไม่ทะลุแล้วแกล้งตีมึนไปเรื่อยไป...คณะกรรมาธิการฯที่มี สส.จากพรรคเพื่อไทยเป็นประธานก็ยัง “ขาสั่นๆ”...ศึกษามาเป็นปีจริงแล้วก็น่าจะสรุปได้แล้ว...แต่ก็ยังยืดเวลาออกไปอีก 60 วัน(เพื่อ???)...สิ่งที่คืบหน้าล่าสุดตอนนี้ก็คือ...ประธานคณะกรรมาธิการฯ...ส่งใบลงความเห็นไปให้คณะกรรมาธิการฯ ทั้ง 35 คน...ไปรายงานว่าจะเลือกทางไหน...เสร็จก็ให้ส่งกลับมาที่ประธาน...เพื่อที่จะแนบเข้าไปกับรายงานของกมธ.เพื่อเสนอต่อสภาฯ...!! กระทำการแบบนี้เหมือนยืดเวลารอ “ฝั่งค้านฝั่งเสียประโยชน์วิ่งเข้าหา” (หลังจากนั้นคิดเอาเองกันต่อนะว่าเวลาจะคุยกับนักการเมืองไทยต้องทำแบบไหน)...ระหว่างนี้ก็ให้ “ตัวเป้ง” ที่จ่ายถึงโอนไว...ที่แอบลักลอบเอาเข้ามาขาย “สวาปาม”ไปก่อน...!!รู้เช่นเห็นชาติแบบนี้ก็ให้สิ้นหวังกับนักการเมืองไทยจริงๆ...nn
อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี