รายงานข่าวจากพรรคประชาชน แจ้งว่า ขณะนี้เกิดความระส่ำระสายขึ้นกับ สส.โซนภาคตะวันออกของ “พรรคประชาชน” โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ชลบุรี ที่มีพรรคมี สส. 7 คน จากจำนวน สส.ชลบุรีทั้งหมด 10 คน โดยเริ่มมีพรรคการเมืองซีกรัฐบาลหลายพรรคติดต่อทาบทาม สส.ชลบุรี พรรคประชาชนให้ไปร่วมงานด้วย เพื่อเติมเสียงต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี เนื่องจากเข้าใกล้ช่วงเวลาที่มีกระแสข่าวปรับ ครม.ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้
ในส่วนของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ชัดเจนว่า จะไปร่วมงานกับ “พรรคกล้าธรรม” เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาส่วนตัว โดยทัศนคติเข้ากับพรรคและสส.ของพรรคไม่ได้ จุดแตกหัก คือ น.ส.กฤษฎิ์ได้ยื่น “ขอหารือบางประเด็น” ในสภาซึ่งพรรคมองว่าไม่เหมาะสม และมีการเรียกเข้าห้องเย็นไปพูดคุยทำความเข้าใจ จึงทำให้ น.ส.กฤษฎิ์ไม่พอใจ
ล่าสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบพรรคจึงขอให้มาร่วมรณรงค์หาเสียงด้วย แต่เจ้าตัวมีปัญหาขัดแย้งกับทีมงานพรรค จ.ชลบุรี และแกนนำพรรคประชาชนได้ขอให้ สส.โทรศัพท์พูดคุยปรับความเข้าใจกัน แต่สุดท้าย น.ส.กฤษฎิ์ได้ทำหนังสือถึงพรรคประชาชนว่า “ขอยุติบทบาทการเมืองกับพรรคประชาชน และไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่แจ้งติดต่อเกี่ยวกับการประชุมใดๆ ของพรรค เพราะจะไม่เข้าร่วมประชุมหรือร่วมกิจกรรมกับพรรคอีกต่อไปแล้ว”ซึ่ง นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ได้ขอร้องว่าอย่าเพิ่งเปิดตัวร่วมกับพรรคการเมืองอื่น เพราะจะกระทบกับการเลือกตั้งท้องถิ่นของพรรคประชาชน
อย่างไรก็ตาม นอกจากพรรคกล้าธรรมแล้วยังมีตัวแทนจาก “พรรคภูมิใจไทย” ติดต่อเจรจาให้ น.ส.กฤษฎิ์ร่วมงานกับพรรค และในส่วนของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ก็มี รมช.รายหนึ่งที่รับผิดชอบพื้นที่ จ.ชลบุรี ติดต่อดึงตัวด้วยโดยให้เหตุผลว่า “หากจะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น ควรมาอยู่กับคนเมืองชลด้วยกันจะดีกว่า จะได้ไม่ถูกมองเป็นงูเห่าในสายตาคนชลบุรี” ซึ่งเรื่องนี้น.ส.กฤษฎิ์ ให้ตัวแทนของ รมช.คนดังกล่าวไปเจรจากับพรรคกล้าธรรมเอง เพราะเบื้องต้นได้ตกลงร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมแล้ว
นอกจากนี้ ยังมี สส.ชลบุรี พรรคประชาชน อีก 2-3 รายที่อาจจะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น ขณะที่นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี เขต 8 พรรคประชาชน ซึ่งเป็น สส.มาแล้ว 2 สมัย ตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ จะไม่ลงเลือกตั้งในสมัยหน้า เพราะอิ่มตัวทางการเมือง ส่วนนายยอดชายที่เป็นคนเปิดประเด็นการดูด สส.ยังยืนยันว่าจะอยู่กับพรรคต่อไป
รายงานข่าว ระบุด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาชนในเวลานี้เหมือนเป็นแผนการรุมกินโต๊ะทำลายพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมของซีกรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยในโซนภาคตะวันออกพรรคประชาชนมี สส. 17 คน จากจำนวน 29 เก้าอี้ทั่วทั้งภาค เป็น สส.ฉะเชิงเทรา 1 คน สส.ชลบุรี 7 คน ชนะยกจังหวัดคือ ระยอง 5 คน จันทบุรี 3 คน และตราด 1 คน
ในพื้นที่ จ.ชลบุรี พรรคเพื่อไทยยกให้ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” กับ “พรรคกล้าธรรม” จับมือแบ่งพื้นที่กัน พร้อมขอความร่วมมือจาก “บ้านใหญ่พรรคประชาธิปัตย์” ในการเจาะพื้นที่ จ.ระยอง ขณะที่พรรคเพื่อไทยพุ่งเป้าที่ จ.สมุทรปราการ ที่พรรคประชาชนชนะยกจังหวัดเช่นกัน
เอ๊ะที่ 1 : หากรายงานข่าวนี้เป็นจริง แปลว่า ขั้วพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันยังคงเหนียวแน่นต่อกัน ในการจะจับมือกันต่อหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ถึงกับวางแผน “สับหลีกพื้นที่กัน” เพื่อจะได้ไม่ตัดคะแนนกันเอง จนพ่ายแพ้ให้แก่พรรคประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่
เอ๊ะที่ 2 : กระนั้นก็ตาม ระหว่างนี้ มีการชิงไหวชิงพริบกันเพื่อมีอำนาจต่อรองกับ “พรรคเพื่อไทย” ที่กำลังย่ำแย่ เพื่อให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ ใช่หรือไม่ เพราะ “พรรคกล้าธรรม” ก็เริ่ม “กล้าแข็ง และดูเหมือนว่า ทักษิณ ชินวัตร รับรู้ถึงความเสื่อมถอย โรยรา ของพรรคเพื่อไทย จนเริ่มใช้ “พรรคสาขา” หรือ “พรรคแนวร่วม” ในการเดินหน้าเพื่อยึดกุมอำนาจทางการเมืองไว้กับตัวต่อไป โดยยังเชื่อมั่นว่า ในขั้วพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน พรรคเพื่อไทย ยังมีความแข็งแกร่งและน่าจะมีเสียงมากสุด
เอ๊ะที่ 3 : คือ การแถลงของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์
โดยน.ส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า เหตุที่เพิ่งแถลง เพราะตนเองสนับสนุนทีมเลือกตั้งเทศบาล ไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับพรรค ส่วนสาเหตุยุติบทบาท เนื่องจาก
3.1 - พรรคมีเป้าหมายเน้นสร้างพรรค ไม่ได้เน้นสร้างคน เรื่องที่พรรคสนใจแก้ปัญหาการทำงานจึงเป็นประเด็นการสร้างกระแส สร้างความนิยมให้กับพรรคเป็นหลัก โดยไม่ได้มุ่งเน้นผลประโยชน์ประชาชน ทำให้ตนเองไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ ตนเองเป็น สส.เขต เป้าหมายสำคัญที่สุดคือ การแก้ปัญหาในพื้นที่ การผลักดันเรื่องที่เป็นปัญหาในพื้นที่เข้าสู่พรรค แต่ก็ไม่เคยได้รับการสนับสนุนอย่างที่ควร ทำให้ตนเองไม่สามารถร่วมงานกับพรรคได้
3.2 - มีการพูดไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพในสถานะทางเพศ
3.3 - มีการปล่อยข่าวเรื่อยๆ ว่าตนเองเป็นงูเห่า ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรค ทั้งการยุบพรรค หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ประชาชนในเขตต้องโทรมาหาทุกครั้งว่า ตนเองเป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่เวลาก็พิสูจน์แล้วว่าตนเองไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตนเองเสียใจที่ต้องมายุติบทบาทในวันนี้
3.4 มีประชาชนที่สนับสนุนพรรคประชาชน มาร่วมรับฟังแถลงข่าวด้วย ได้ตะโกนสวนขึ้นมาว่า “แน่จริงก็ลาออก ลองลงสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่สังกัดพรรคที่คุณอยู่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่ที่จะให้คุณมาชุบตัว คุณเป็นงูเห่า”
น.ส.กฤษฎิ์ จึงกล่าวว่า ขอให้อยู่ในความสงบ แล้วค่อยคุยกัน ถ้าไม่มีอะไรอย่าส่งเสียง ก่อนจะกล่าวต่อว่า เป้าหมายในการทำงานของตนเองตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดูในเพจเฟซบุ๊กของตนเองได้ ส่วนที่ว่าทำไมถึงไม่ลาออก เพราะการลาออกจะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ ต้องเลือกตั้งใหม่ หรือต้องทำเพื่อความสะใจ เพื่อทำให้ตนเองเท่ แต่มันไร้สาระ เพราะตนเองต้องการทำหน้าที่ สส.ตามที่ประชาชนคาดหวัง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีปัญหากับตนเอง ขอให้ลองไปสอบถามคนที่ติดตามการทำงานของตนเองดูว่าเป็นอย่างไร
3.4 - สำหรับประเด็นแตกหัก นอกจากปัญหาการทำงานในส่วนจังหวัดที่มีปัญหามาโดยตลอดแล้ว ยังมีเรื่องร้องเรียนที่ตนเองร้องเรียนไปที่พรรค แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาตามกระบวนการและขั้นตอน การทำงานในสภาฯ การยื่นประเด็นไม่ได้รับการตอบรับให้ตั้งเป็นประเด็นในคณะกรรมาธิการฯ สุดท้ายที่เป็นประเด็นแตกหัก คือ ตนเองอภิปรายขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จฯ ไปทรงสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง ทั้งนี้ ตนเองได้ขออนุญาตเป็นตัวแทนราษฎรในการเข้าเฝ้าฯ และขอให้กระทรวงมหาดไทยทำงบประมาณเพื่อวางท่อประปาต่อน้ำจากเกาะสีชัง เพื่อไปยังอ่างเก็บน้ำ แต่เมื่อตนเองหารือจบก็มี สส.ท่านหนึ่งมาต่อว่า ว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พูดเช่นนี้
“ยืนยันว่าเหมาะสม เรื่องนี้เป็นผลกระทบกับตนเองตลอดมา พรรคมีการต่อว่าเนื่องจากเพื่อน สส.ส่วนมากไม่พอใจกับการที่ตนเองหารือในวันนั้น เพื่อน สส.ไม่กล้าคุยด้วยนานๆ เพราะกลัวว่าจะเป็นการวางตัวไม่เหมาะสม กลัวพรรคไม่ส่งลงสมัครในครั้งต่อไป และยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่อยากอธิบาย”
3.5 - ส่วนที่บอกว่าตนเองจะเข้ามากอบโกยนั้น ถามว่าตนกอบโกยอะไร ตั้งแต่เลือกตั้งว่าในจังหวัดชลบุรีมีใครทุ่มกำลังทรัพย์ ตั้งสำนักงาน ซื้อสำนักงานเพื่อให้ประชาชนขี่มอเตอร์ไซค์มาพบปะได้สะดวก ให้เด็กๆ ได้เรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ ในช่วงปิดเทอม เงินภาษีที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่โอนให้กับพรรค ตนเองไม่เคยได้ใช้สักบาท ไม่เคยรับเงินจากพรรคมาทำกิจกรรมในพื้นที่ขณะที่เรื่องความหวังของพี่น้องประชาชน ตนเองเข้าใจ เพราะตนเองเคยมีความหวังว่า พรรคจะเป็นความหวังเดียวที่เปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว
กลับผลักดันอะไรไม่ได้ ฉะนั้น ความผิดหวังที่มีอยู่ในใจมากมาย จึงเป็นเหตุให้ตนเองทำหนังสือยุติบทบาทกับพรรค
หลังจากนั้นพรรคได้เรียกตนเองไปคุยว่าจะมีการแก้ไขเรื่องต่างๆ ตนเองจึงบอกว่าการแก้ไขไม่ได้ช่วยอะไรเพราะเลยเวลาที่จะแก้ไปแล้ว จึงเรียกร้องให้พรรคขับตนเองออกเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ปวงชน จะได้ไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนชาวศรีราชาอย่างที่ตั้งใจไว้อย่างแท้จริง
3.6 - ประเด็นที่เลือกพรรคกล้าธรรม น.ส.กฤษฎิ์กล่าวว่า หากติดตามการทำงานผ่านเพจเฟซบุ๊ก ตนเองทำงานประสานงานกับรัฐมนตรีหลายคน ซึ่งได้รับการตอบรับจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนมาโดยตลอดถึง 2 ครั้ง ซึ่งประชาชนที่จ.ชลบุรี มองว่า เป็นเรื่องสำคัญในการเปิดอ่างเก็บน้ำ การจะเลือกพรรคไหนต้องเลือกพรรคที่สนับสนุนการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง โดยวันนี้จะไปขอใบสมัครพรรคกล้าธรรมไว้ก่อน เพื่อรอการขับออกจากพรรคประชาชน ขณะที่กระแสข่าวที่มีการเสนอเงิน 55 ล้านบาท เงินเดือน 250,000 บาท และรถตู้หรูนั้น ตนเองขอให้ไปถามคนที่พูดออกมา ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีการเสนอให้ร่วมงานกับพรรค ตนใช้เวลานานในการตัดสินใจ จนต้องเข้าโรงพยาบาลกว่า 2 รอบ
สิ่งที่ต้อง “เอ๊ะ” ขั้นสุด คือเรื่อง อ่างเก็บน้ำ และการแสดงออกซึ่งความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี่แหละ
พรรคประชาชนมีปัญหากับท่าทีนี้จริงๆ อย่างนั้นหรือ? พวกเขาไม่ซาบซึ้ง ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจริงๆ ใช่ไหม และไม่อยากให้ใครแสดงออกด้วย?
ส่วนเรื่อง “ความหลากหลายทางเพศ” ที่ สส.คนนี้ ไม่ได้รับการให้เกียรติ ถ้าจริง แปลว่า บทบาทที่พรรคประชาชนตั้งแต่สมัยเป็นพรรคก้าวไกลเล่นมาตลอดว่า สู้เพื่อสิทธิของ LGBTQ+ ก็ “ปลอม” ใช่ไหม?
เรื่องเอ๊ะๆ เหล่านี้ ต้องฝากให้ทุกท่านนำไป “ตรวจคำตอบ” การเมืองบ้านเราในขณะนี้!!
จิตกร บุษบา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี