วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / โลกการค้า
โลกการค้า

โลกการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ส่งออกสินค้าเกษตรไทย มีทั้งปัจจัยหนุนและความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง

ดูทั้งหมด

  •  

nn ภาพรวมการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ขยายตัว ต่อเนื่องที่ 9.8% เทียบกับไตรมาสก่อนที่ขยายตัว และขยายตัว 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) การส่งออกไปตลาดสำคัญอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 9% และ 7% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่องที่26.0%YoY และ 23.4%YoY ตามลำดับ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหาร ทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าในกลุ่มข้าว อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี การส่งออกไปยังตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุด (สัดส่วน 27% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร) หดตัวต่อเนื่องที่ -9.6%YoY จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมในไทยและการแข่งขันในตลาดจีนที่เพิ่มขึ้น ทำให้การส่งออกผลไม้ไทยไปตลาดหลักอย่างจีนลดลง

หมวดสินค้าเกษตรขยายตัวต่อเนื่องที่ 7.0 % YoY (สัดส่วนราว 54% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร) โดยกลุ่มสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ข้าว (25.2%YoY) ไก่ (5.8%YoY) และยางพารา (55.9%YoY) ซึ่งเป็นผลจากราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งคำสั่งซื้อยางตามมาตรฐาน EUDR ที่เติบโต ขณะที่กลุ่มสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง (-15.7%YoY) เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในไทยและลาว ทำให้การส่งออกผลไม้ผ่านแดนไปจีนลดลง และมันสำปะหลัง (-16.3% YoY) เนื่องจากผลผลิตมีจำกัดจากปัญหาโรคใบด่างและปัญหาขาดแคลนท่อนพันธุ์


ด้านหมวดสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่องที่ 13.2%YoY (สัดส่วนราว 46%) โดยกลุ่มสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (18.8%YoY) สิ่งปรุงรสอาหาร (4.4%YoY) และอาหารสัตว์เลี้ยง (24.3%YoY) จากความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัวได้แก่ น้ำตาลทราย (-23.6%YoY) เนื่องจากราคาส่งออกที่ปรับลดลง และปริมาณส่งออกได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตอ้อยลดลง

ทิศทางการส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญในปี 2568-2569 เช่น ข้าว ในปี 2568 คาดว่า ภาพรวมมูลค่าการส่งออกข้าวไทยจะอยู่ที่ราว 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือลดลง -25%YoY จากปริมาณการส่งออกข้าวที่ลดลงมาอยู่ที่ราว 7.8 ล้านตัน หรือลดลง-18.1%YoY จากนโยบายควบคุมการส่งออกข้าวของอินเดียที่ผ่อนคลายลง ทำให้อานิสงส์จากการที่ผู้นำเข้าข้าวหันมานำข้าวไทยทดแทนอินเดียหมดลง และส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับลดลง ส่วนในปี 2569 คาดว่า มูลค่าการส่งออกข้าวไทยจะอยู่ที่ราว 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดลง -6%YoY โดยในแง่ปริมาณการส่งออกข้าวอยู่ที่ราว 7.6 ล้านตัน หรือลดลง -2.7%YoY จากแรงกดดันจากการแข่งขันด้านราคาที่ต่ำกว่าของประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนาม และจุดขายของสายพันธุ์ข้าวไทยเริ่มไม่เป็นจุดแข็งในการส่งออก เนื่องจากข้าวพันธุ์พื้นนุ่มของเวียดนามมีราคาถูกและรสชาติดีกว่า

ยางพารา ในปี 2568-2569 คาดว่า มูลค่าการส่งออกยางแผ่นและยางแท่งจะอยู่ที่ 3.80 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 3.83 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือลดลง -11.6% YoY และ -1.5%YoY ตามลำดับ ตามราคาส่งออกยางแผ่นยางแท่งที่ปรับตัวลดลง -16.6%YoY และ -5.5%YoY จากผลผลิตยางพาราตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนที่คลี่คลาย และยังต้องติดตามความรุนแรงของปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่อาจทำให้การส่งออกยางแผ่นยางแท่งของไทยขยายตัวต่ำกว่าที่คาด

มันสำปะหลัง ตั้งแต่ปี 2568-2569 ผลผลิตมันสำปะหลังคาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้ จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก อีกทั้งการควบคุมการระบาดของโรคใบด่างให้อยู่ในวงจำกัดมากขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตเพียงพอต่อการส่งออกเพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมต่อเนื่องในจีนที่ยังมีความต้องการนำเข้ามันสำปะหลังจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น คาดว่า ในปี 2568-2569 มูลค่าการส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ดจะอยู่ที่ราว 593 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 640 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัว 22%YoY และ 8%YoY ตามลำดับ โดยปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ 2.8 ล้านตัน และ 3.1 ล้านตัน ขยายตัว 25%YoY (ขยายตัวสูงจากฐานที่ต่ำในปี 2567) และ 10%YoY ตามลำดับ แต่ก็เป็นระดับการส่งออกที่ไม่ได้สูงกว่าช่วง Peak ในช่วงปี 2564-2565

ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้งในปี 2568-2569 คาดว่า มูลค่าการส่งออกผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้งจะอยู่ที่ 7.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 7.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัว 11.3%YoY และ 9.8%YoY ตามลำดับ โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากปริมาณผลผลิตผลไม้ของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาทุเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่จูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนมากขึ้น ประกอบกับความต้องการบริโภคผลไม้เมืองร้อนของชาวจีนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างไรก็ดี การส่งออกไปจีนเผชิญปัจจัยท้าทายจากคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น ภายหลังมาเลเซียสามารถส่งออกทุเรียนสดเข้าจีนได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2567 ขณะที่เวียดนามและฟิลิปปินส์เร่งขยายการส่งออกทุเรียน ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันด้านราคาในตลาดจีนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

ไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป ในปี 2568-2569 คาดว่า มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 4,528 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 4,844 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัว 7.4%YoY และ 7.0%YoY ตามลำดับ และปริมาณการส่งออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูปจะอยู่ที่ 1.16 ล้านตัน และ 1.21 ล้านตัน หรือขยายตัว 3.6%YoY และ 4.3%YoY ตามลำดับ เนื่องจากการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปมีทิศทางฟื้นตัว ตามการเติบโตของการท่องเที่ยวและธุรกิจร้านอาหาร เช่นเดียวกับการส่งออกไก่แปรรูปของไทยไปญี่ปุ่นที่ยังขยายตัว ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคในญี่ปุ่นที่นิยมบริโภคอาหารพร้อมทาน รวมทั้งการระบาดของไข้หวัดนกในญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปจะช่วยหนุนการนำเข้าไก่เนื้อของไทยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ได้รับผลดีจากการระบาดของโรคไข้หวัดนกในจีน และ การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในจีนและเวียดนาม ทำให้มีการนำเข้าไก่เนื้อเพื่อทดแทนสุกรมากขึ้น รวมถึงการระบาดของไข้หวัดนกในออสเตรเลีย ส่งผลให้สหรัฐฯ ระงับนำเข้าสัตว์ปีกของออสเตรเลีย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการส่งออกไก่ของไทยเพื่อเข้าไปทดแทนในตลาดสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าส่งออกของออสเตรเลียได้

อย่างไรก็ตาม แม้การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรในปี 2568 จะขยายตัวได้ แต่มีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น 1.นโยบายการค้าของสหรัฐฯ หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้งอาจทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรงขึ้น รวมทั้งการที่สหภาพยุโรปได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีน ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นอาจกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าที่ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของจีนอย่างยางพาราที่พึ่งพาการส่งออกไปจีนสูงถึงราว 40% ของมูลค่าการส่งออกยางพาราทั้งหมดของไทย 2.ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่ามากขึ้น อาจกดดันต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทย เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาทจะทำให้รายได้จากการส่งออกในรูปเงินบาทมีแนวโน้มลดลง และอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก

3.ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ อาจกระทบต่อต้นทุนการส่งออก ทำให้ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทยยังได้รับแรงกดดันจากต้นทุนค่าขนส่งทางเรือที่แม้มีแนวโน้มลดลงในปี 2567-2568 แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง นอกจากนี้ หากสถานการณ์ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์มีความรุนแรงมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อสินค้าไทยที่พึ่งพาตลาดตะวันออกกลางในสัดส่วนที่สูง เช่น สินค้าในกลุ่มข้าว อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น 4.ปัจจัยท้าทายจากมาตรการสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้าที่เข้มงวดขึ้น เช่น กฎหมายที่ห้ามนำเข้าหรือส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่าไม้เข้าสู่ตลาดของสหภาพยุโรป (EU Deforestation-free products: EUDR) แม้ว่าล่าสุด คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอเลื่อนการบังคับใช้กฎหมาย EUDR ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ธ.ค. 2567 อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยควรวางแผนและเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย EUDR ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการส่งออกของผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มยางพารา และปาล์มน้ำมัน

5.สภาพอากาศที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรในหลายประเทศโดยเฉพาะในเอเชียทยอยเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบทำให้คู่ค้ามีความต้องการนำเข้าสินค้าเกษตรลดลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการผ่อนคลายนโยบายด้านความมั่นคงทางอาหารของประเทศต่างๆ เช่น นโยบายจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียที่มีการผ่อนคลายลงในช่วงเดือนต.ค. 2567 จะเป็นปัจจัยกดดันราคาข้าวตลาดโลกในระยะข้างหน้า เป็นต้น

 

** Krungthai COMPASS **

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:43 น. คนร้ายขว้างไปร์บอร์มหน้าร้านมินิมาร์ท เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที
21:34 น. 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'เสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดงานวันลองกอง 'ของดีเมืองนรา' ครั้งที่ 48
21:26 น. ปลุกปั่นชาตินิยม! 'กัมพูชา'ปล่อยเพลงใหม่ 'Don't Thai to the World' เนื้อหาพาดพิงไทยรุนแรง
21:25 น. โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหารชั้นนายพล เป็นกรณีพิเศษ จำนวน 90 ราย
21:18 น. อาลัย'เฮียเจษ' พลเมืองดีหัวใจเพื่อชาติ เมียยันทำโรงครัวเลี้ยงอาหารสานฝันสามี 'มทภ2.'วีดีโอคอลร่วมไว้อาลัย
ดูทั้งหมด
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'เป๊ก-เพลง'ไปต่อหรือพอแค่นี้? วงในเมาท์แรงหลังจัดตั้งครม. รู้เรื่อง!
'พุทธ อภิวรรณ'ชวนจับตา!!! คาดมีข่าวใหญ่ คนดังมีลูกศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกสอบโยงผู้หญิง-เงินบริจาค
ดูทั้งหมด
ในความต่างระหว่างสีผิว
นักการเมืองปล้นอำนาจประชาชนฉีกทิ้ง รธน.
บุคคลแนวหน้า : 16 กันยายน 2568
เปิดด่านเพื่อ...?
เตโชเบาะสะแก ซำแต
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คนร้ายขว้างไปร์บอร์มหน้าร้านมินิมาร์ท เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที

ปลุกปั่นชาตินิยม! 'กัมพูชา'ปล่อยเพลงใหม่ 'Don't Thai to the World' เนื้อหาพาดพิงไทยรุนแรง

เชื่อ'อภิสิทธิ์'ยังไม่กลับปชป. 'ศิริโชค'ชี้'เดชอิศม์'ยังกุมอำนาจ

โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหารชั้นนายพล เป็นกรณีพิเศษ จำนวน 90 ราย

อาลัย'เฮียเจษ' พลเมืองดีหัวใจเพื่อชาติ เมียยันทำโรงครัวเลี้ยงอาหารสานฝันสามี 'มทภ2.'วีดีโอคอลร่วมไว้อาลัย

พ่อค้าไก่หมุนสุดเฮง!!! ฝันว่ารถ จยย. หาย ซื้อเลขป้ายทะเบียน 2 ใบ รับทรัพย์ 12 ล้าน

  • Breaking News
  • คนร้ายขว้างไปร์บอร์มหน้าร้านมินิมาร์ท เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที คนร้ายขว้างไปร์บอร์มหน้าร้านมินิมาร์ท เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที
  • \'กรมสมเด็จพระเทพฯ\'เสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดงานวันลองกอง \'ของดีเมืองนรา\' ครั้งที่ 48 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'เสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดงานวันลองกอง 'ของดีเมืองนรา' ครั้งที่ 48
  • ปลุกปั่นชาตินิยม! \'กัมพูชา\'ปล่อยเพลงใหม่ \'Don\'t Thai to the World\' เนื้อหาพาดพิงไทยรุนแรง ปลุกปั่นชาตินิยม! 'กัมพูชา'ปล่อยเพลงใหม่ 'Don't Thai to the World' เนื้อหาพาดพิงไทยรุนแรง
  • โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหารชั้นนายพล เป็นกรณีพิเศษ จำนวน 90 ราย โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหารชั้นนายพล เป็นกรณีพิเศษ จำนวน 90 ราย
  • อาลัย\'เฮียเจษ\' พลเมืองดีหัวใจเพื่อชาติ เมียยันทำโรงครัวเลี้ยงอาหารสานฝันสามี \'มทภ2.\'วีดีโอคอลร่วมไว้อาลัย อาลัย'เฮียเจษ' พลเมืองดีหัวใจเพื่อชาติ เมียยันทำโรงครัวเลี้ยงอาหารสานฝันสามี 'มทภ2.'วีดีโอคอลร่วมไว้อาลัย
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

โลกการค้า : 11 กันยายน 2568

โลกการค้า : 11 กันยายน 2568

11 ก.ย. 2568

โลกการค้า : 4 กันยายน 2566

โลกการค้า : 4 กันยายน 2566

4 ก.ย. 2568

โลกการค้า : 28 สิงหาคม 2568

โลกการค้า : 28 สิงหาคม 2568

28 ส.ค. 2568

โลกการค้า : 21 สิงหาคม 2566

โลกการค้า : 21 สิงหาคม 2566

21 ส.ค. 2568

โลกการค้า : 14 สิงหาคม 2566

โลกการค้า : 14 สิงหาคม 2566

14 ส.ค. 2568

โลกการค้า : 7 สิงหาคม 2566

โลกการค้า : 7 สิงหาคม 2566

7 ส.ค. 2568

โลกการค้า

โลกการค้า

31 ก.ค. 2568

โลกการค้า : 24 กรกฏาคม 2566

โลกการค้า : 24 กรกฏาคม 2566

24 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved