nn จำได้ว่าช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ที่ดัชนีตลาดหุ้นต้วมเตี้ยมอยู่แถวๆ 1,400 จุดนิดๆๆ ซ้ำก็ยังสร้างผลตอบแทนที่ต่ำกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอยู่มาก ซ้ำยังมีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนหลายราย...ตอนนั้น คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...ก็มีไอเดียที่จะหากองทุนมาช่วยปั๊มบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยจึงได้เกิดกองทุนวายุภักษ์ 1 ขึ้นมา (วงเงิน1-1.5 แสนล้านบาท)...และตอนนั้น คุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง..เองก็ออกมาพูดว่ามั่นใจว่ากองทุนนี้จะช่วยดึงดัชนีตลาดหุ้นไทยได้แน่นอน...!! และกองทุนวายุภักษ์ก็เริ่มเข้ามาซื้อหุ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม...ซึ่งก่อนหน้านั้นสัปดาห์เดียวต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นเก็บไว้ในมือไม่น้อย..พอวายุภักษ์เข้าพี่แกก็เทขายซัดกำไรไปเต็มๆ...มาถึงวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ยังอ่อนปวกเปียกเหมือนเดิมและดูเหมือนจะแย่ลงด้วยซ้ำ...ตอนนี้ต่ำกว่าระดับ 1,400 จุดไปแล้ว...จากที่นักลงทุนต่างชาติเทขายมาต่อเนื่องอยู่แล้ว...ช่วงนี้เทขายหนักลงไปอีก...เพราะเขาไม่พอใจที่บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่กระทำการที่เขามองว่าขาดธรรมาภิบาลที่ดี....ซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญมากๆ...แม้ว่า “บจ.” รายดังกล่าวจะออกมาชี้แจงว่านี่เป็นแผนการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะสร้างการเติบโต....แต่นักลงทุนต่างชาติบอกเลยว่า “ฟังไม่ขึ้น”...และเขาก็มองว่าคุณจะรับความเสียหายจากการลงทุนครั้งนี้เนื่องจากบริษัทที่เข้าไปลงทุนเกินตัวด้วยการ “กู้แหลก”....ซึ่งด้วยสภาพเศรษฐกิจไทยและโลกเป็นแบบนี้สินค้าคงขายได้ยากมากๆ...ซึ่งด้วยข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ณ ตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ...จึงเกิดคำถามสำคัญว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะจ่ายหนี้ไหวหรือไม่????....!! ด้วยข้อเท็จจริงของตลาดหุ้นไทยตอนนี้ไม่ใช่มีเพียง “บจ.” รายใหญ่รายนี้ที่มีประเด็นเรื่องความสงสัยธรรมาภิบาล...ตลอดช่วงหนึ่งปีมานี้เกิดขึ้นกับ “บจ.” ไทยร่วมสิบราย...แล้วก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมี “บจ.” ของไทยอีกสักกี่รายที่“ฝีแตก”...และนี่คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย...nn

อนันตเดช พงษ์พันธุ์