วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / โลกการค้า
โลกการค้า

โลกการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
โลกการค้า : 29 พฤษภาคม 2568

ดูทั้งหมด

  •  

จีนเที่ยวไทยลดลงอาจไม่ใช่แค่ชั่วคราว   รัฐต้องเร่งปรับเกม ดึงยุโรป-อินเดียแทน

** ถือว่าผิดคาดไปค่อนข้างมากหลังจากเปิดปีใหม่มา ภาคท่องเที่ยวที่เป็นความหวังของเศรษฐกิจในปีนี้กลับหดหายไปอย่างน่าตกใจ แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ล่วงหน้าแล้วว่าแรงส่งคงจะชะลอตัวลงบ้างหลังจากแบกเศรษฐกิจไทยมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งตอนปลายปี 2024 ยังเป็นเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่ฟื้นตัวกลับไปได้เพียง 60-70% ของนักท่องเที่ยวก่อนโควิด-19 ที่จำนวนเฉลี่ยประมาณ 560,000 คนต่อเดือน อย่างไรก็ดี หลังจากตรุษจีนในเดือนมกราคมของปี 2025 นักท่องเที่ยวจีนกลับหดตัวรุนแรงเกือบครึ่ง เหลือเพียงเดือนละไม่ถึง 300,000 คน หรือคิดเป็นเพียง 30% ของช่วงก่อนโควิด-19 เท่านั้น


คำถามสำคัญที่หลายฝ่ายสงสัยกัน คือ เหตุการณ์นี้จะเป็นเพียงการชะลอตัวลงชั่วคราวหรือว่าถาวร เป็นปัญหาที่เกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง (Structural) ที่ต้องใช้เวลาแก้ไขปัญหายาวนาน หรือว่าเป็นเพียงปัญหาชั่วครั้งชั่วคราว (Cyclical) ซึ่งจะผ่านไปได้ในที่สุด KKP Research มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาจากปัจจัยทั้งสองประเภทที่ทำให้นักท่องเที่ยวชะลอตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยมี 3 ข้อเท็จจริงที่สังเกตได้ในช่วงที่ผ่านมา  เริ่มต้นจากข้อเท็จจริงประการแรกที่เป็นปัจจัยเชิงโครงสร้าง คือ จำนวนนักท่องเที่ยวขาออกของจีน (Chinese outbound tourist) ยังไม่ฟื้นตัวเท่าช่วงก่อนโควิด-19 จากทั้งภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลง ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนเริ่มส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจหลักอีกเครื่องยนต์หนึ่ง โดยนักท่องเที่ยวจีนที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศ ฟื้นตัวเพียง 86.5% ของนักท่องเที่ยวปี 2019 สวนทางกับนักท่องเที่ยวจีนที่ท่องเที่ยวในประเทศที่ฟื้นตัวถึง 93.6% แล้ว

ข้อเท็จจริงประการที่สองที่เป็นปัจจัยเชิงโครงสร้างเช่นกัน คือ นักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวกลับมาเปลี่ยนจากกรุ๊ปทัวร์เป็นนักท่องเที่ยวอิสระ (Free Individual Traveler: FIT) มากขึ้น โดยในช่วงก่อนโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยเลือกมาในลักษณะกรุ๊ปทัวร์ค่อนข้างสูงหากเทียบกับภูมิภาคอื่น โดยคิดเป็นเกือบ 40% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด และมีกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระเพียง 60% ขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ จะมีนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์เพียง 10-20% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อจีนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง สัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่เลือกมากับกรุ๊ปทัวร์ลดลงเหลือเพียง 20% เท่านั้นในปีที่ผ่านมา จากการสำรวจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาล่าสุด ดังนั้นเมื่อเทียบการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งสองประเภทแล้ว จะพบว่านักท่องเที่ยวอิสระในปีที่ผ่านมาฟื้นตัวกลับมาถึง 77.4% ของปี 2019 แล้ว หรือคิดเป็นนักท่องเที่ยว 5.3 ล้านคน ส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ฟื้นตัวมาเพียง 33.4% หรือคิดเป็นเพียง 1.4 ล้านคนเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลโดยตรงต่อรูปแบบและพฤติกรรมการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวอิสระมักมีกำลังซื้อและมีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวสูงกว่านักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ ราคาจึงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว ทำให้การกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยเน้น “ราคา” เป็นหลักอาจจะไม่ได้ผลอีกต่อไป แต่ปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ อาจเป็นตัวชี้ขาดมากกว่าว่านักท่องเที่ยวจีนจะเลือกมาเที่ยวไทยหรือไม่ เช่น ประเภทสถานที่ท่องเที่ยว ระดับการให้บริการ ความปลอดภัย ฯลฯ

ข้อเท็จจริงประการที่ 3 ที่อาจเกิดจากทั้งประเด็นเชิงโครงสร้างและชั่วคราว คือ ในบรรดานักท่องเที่ยวจีนที่ยังออกมาเที่ยวนอกประเทศกลับเลือกเบนเข็มไปเที่ยวประเทศอื่น ๆ มากขึ้น โดยหลังจากนักท่องเที่ยวจีนในเดือนมกราคมแตะระดับสูงสุดเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่จีนกลับมาเปิดประเทศที่จำนวนกว่า 6.6 แสนคนจากเทศกาลตรุษจีน นักท่องเที่ยวจีนกลับลดลงไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงประมาณ 3 แสนคนจนถึงเดือนเมษายน ขณะที่หากพิจารณาเที่ยวบินขาออกจากจีนกลับพบว่าได้ทยอยฟื้นตัวตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว แต่เที่ยวบินขาเข้าไทยกลับยังลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าความน่าสนใจของประเทศไทยลดลงมากกว่าจะเกิดจากคนจีนเที่ยวต่างประเทศลดลง

หากถามต่อไปว่าแล้วจีนหันไปเที่ยวประเทศใด ข้อมูลเที่ยวบินขาออกและจำนวนนักท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ ชี้ไปที่ประเทศอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม และมาเลเซีย โดยสาเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนเลือกมาเที่ยวไทยน้อยลงอาจจะแบ่งเป็น 2 ด้าน 1. การเที่ยวซ้ำของนักท่องเที่ยวจีนอาจต้องใช้เวลา โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระที่ต้องมีการเตรียมตัววางแผนท่องเที่ยวเอง ซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราวที่อาจทยอยปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2. ประเด็นความปลอดภัยที่รุนแรงขึ้นในสายตานักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขภาพลักษณ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม โดยเฉพาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระที่ให้ความสนใจเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษกว่ากรุ๊ปทัวร์อยู่แล้ว โดยจากการสำรวจล่าสุดของ Dragon Trail International พบว่านักท่องเที่ยวจีนมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มองว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย เพิ่มขึ้นจาก 38% ในช่วงเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศอื่น ๆ การรับรู้เรื่องความปลอดภัยไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก สะท้อนว่าประเด็นการลักพาตัวดาราชาวจีนในช่วงต้นปี การปราบปรามธุรกิจสีเทา และเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวไทย

สำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แบบสำรวจข้างต้นได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนรู้สึกปลอดภัยในอันดับต้นๆและรัฐบาลควรให้น้ำหนักเป็นอย่างแรก คือ ผลการประเมินความเสี่ยงในการเดินทางของรัฐบาลจีนและการออกมาตรการเพิ่มความปลอดภัยโดยรัฐบาลท้องถิ่น ที่ผู้ตอบแบบสอบถามประมานครึ่งหนึ่งระบุว่าทำให้รู้สึกปลอดภัย รองลงมาประมาณ 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ข้อมูลจากครอบครัว เพื่อน หรือนักท่องเที่ยวคนอื่นในสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนในทางบวกจะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยขึ้น   ขณะที่ประมาณ 1 ใน 5 ระบุว่าการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงต่ำแต่แรกหรือการซื้อประกันการเดินทางจะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น สุดท้ายปัจจัยที่ไม่ช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น คือ การท่องเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์หรือการมีไกด์ทัวร์ท้องถิ่น รวมไปถึงการรับข้อมูลจากตัวแทนธุรกิจท่องเที่ยว (Travel Agent)

คำถามสำคัญต่อไปคือนักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นตัวได้ในระยะเวลาอันใกล้หรือไม่ และจะมีนักท่องเที่ยวชาติอื่นมาแทนที่นักท่องเที่ยวจีนได้หรือไม่? KKP Research มองว่าในระยะสั้นคงเป็นไปได้ยากที่นักท่องเที่ยวจีนจะหันกลับมาเที่ยวไทยอย่างในอดีต หากปัญหาเชิงโครงสร้างข้างต้น โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย ไม่ถูกแก้ไข ขณะเดียวกันการหวังพึ่งพานักท่องเที่ยวชาติอื่น เพื่อชดเชยนักท่องเที่ยวจีนในระยะสั้นทันทีคงเป็นไปได้ยาก ทั้งในแง่จำนวนที่สูงหลายล้านคนและรายได้จากการท่องเที่ยวหลายแสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวอาจมีนักท่องเที่ยวบางประเทศที่มีโอกาสเติบโตขึ้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญทดแทนนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวลงไปได้เพียงบางส่วน โดย KKP Research มองว่านักท่องเที่ยวยุโรปและเอเชียใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ควรเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ภาคท่องเที่ยวไทยควรให้ความสำคัญมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากความนิยมในการท่องเที่ยวไทยที่มากขึ้น โดยเฉพาะอินเดียมีการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งในช่วงหลายปีหลังมานี้ โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนักท่องเที่ยวยุโรปและเอเชียใต้ฟื้นตัวได้ประมาณ 120% ของช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 และคิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวเกือบ 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ฤดูกาลท่องเที่ยวของทั้ง 2 ภูมิภาคถือว่าสามารถชดเชยได้พอสมควร โดยนักท่องเที่ยวยุโรปจะมีฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปีถึงต้นปี ขณะที่นักท่องเที่ยวอินเดียมีฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงกลางปีมากกว่า โดยเฉพาะในเดือน พ.ค. ถึง มิ.ย. ที่เป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยตามปกติ

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว 2 กลุ่มนี้มีความแตกต่างจากนักท่องเที่ยวจีนค่อนข้างชัดเจน ซึ่งนำไปสู่การกำหนดนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยที่ต้องเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ โดย 1. ในมิติของพื้นที่ท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวยุโรปส่วนใหญ่นิยมท่องเที่ยวภาคใต้เป็นหลัก รองลงมาคือภาคตะวันออกอย่างพัทยา และกรุงเทพฯ ส่วนนักท่องเที่ยวอินเดียมีความคล้ายคลึงกับนักท่องเที่ยวจีน คือ ครึ่งหนึ่งท่องเที่ยวกรุงเทพฯ เป็นหลัก รองลงมาคือภาคตะวันออกและภาคใต้

2. ในมิติของรูปแบบการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ที่แตกต่างจากนักท่องเที่ยวจีน โดยนักท่องเที่ยวยุโรปและอินเดียใช้จ่ายกับที่พักและโรงแรมมากกว่านักท่องเที่ยวจีน ขณะเดียวกันมีการเดินทางภายในประเทศต่ำกว่า สะท้อนว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักจะท่องเที่ยวเพียงไม่กี่สถานที่และให้ความสำคัญกับคุณภาพของที่พักเป็นหลัก โดยนักท่องเที่ยวอินเดียจะให้ความสำคัญกับกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ และการชอปปิ้งมากกว่าชาวยุโรป ดังนั้น นโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวอาจต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่เหมาะสม รวมไปถึงประเภทของธุรกิจที่ภาครัฐควรส่งเสริมมากขึ้น

“ข้อมูลสะท้อนรูปแบบของนโยบายส่งเสริมที่ควรแตกต่างกันออกไป เช่น นักท่องเที่ยวยุโรปให้ความสนใจการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เน้นอาหารข้างทาง หรือ Street food  และ ชอปปิ้งเครื่องประดับของที่ระลึกต่าง ๆ ขณะที่นักท่องเที่ยวอินเดียจะให้ความสนใจในร้านอาหารน้อยกว่า แต่สนใจกิจกรรมยามค่ำคืน หรือ Night life การนวดและทำสปา และชอปปิ้งเสื้อผ้ากับผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง เป็นต้น “

** KKP Research **

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:10 น. 'พุทธิพงษ์'โพสต์ซึ้งถึง'แพทย์ 365 วัน' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ
07:56 น. สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ
07:50 น. เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้
07:45 น. จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ
07:35 น. กาฬสินธุ์เดือด! ลูกเขยโหดยกพวกตามง้อไม่สำเร็จ ยิง'เมีย-พ่อตา'ดับ
ดูทั้งหมด
'แพทยสมาคมฯ'มาแล้ว!!! ออกแถลงการณ์ประกาศจุดยืนสนับสนุนมติแพทยสภา
‘เซเลบผ้าท้องถิ่น’จัดหนัก! ถล่ม‘อิ๊งค์’ไร้กาลเทศะ ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติการทูต
ประวัติศาสตร์!เชลซี ทีมแรกกวาดทุกแชมป์ถ้วยยุโรป
ทุบเปรี้ยง!ยก 5 เหตุผล‘ทักษิณ’ไม่หนี หวั่น‘ปิดประตูตาย’
‘แม่ทัพภาคที่ 2’ฮึ่ม! หากเขมรไม่ถอนกำลังออกไปจาก‘ช่องบก’ ทหารไทยไม่ถอยเช่นกัน
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 31 พฤษภาคม 2568
หุ้นเด่น : 11 พฤษภาคม 2568
สงครามการค้าที่ไทยไม่ควรหวั่นไหวตามความบ้าของสหรัฐ
หากภูมิใจไทย ไม่ได้ครองมหาดไทย
บุคคลแนวหน้า : 31 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ

'เจิมศักดิ์'บอก'ออกอาการแล้ว' หลัง'ทูตรัศม์'โพสต์ป่วยจิตวิปลาส ปลุกหมอล้มรัฐบาลเลือกตั้ง

ชวนชมไลฟ์สดงานเสวนา'Why Nations Fail บทเรียนที่ประเทศไทย ต้องไม่ล้มเหลว'พรุ่งนี้

‘พิสดาร’ระวังเป็น‘ปมด้อย’ แนะพ่อแม่ตั้งชื่อลูกขอให้ยึด‘ประโยชน์สูงสุดของเด็ก’

พปชร.ร่วมปกป้องเกียรติภูมิ-ศักดิ์ศรีแพทยสภา ชื่นชมทำอย่างตรงไปตรงมา

(คลิป) 'สมศักดิ์'แจงยิบ! ปมวีโต้มติแพทยสภา ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน ปัดคุย'ทักษิณ' ยันไม่มีเอื้อ

  • Breaking News
  • \'พุทธิพงษ์\'โพสต์ซึ้งถึง\'แพทย์ 365 วัน\' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ 'พุทธิพงษ์'โพสต์ซึ้งถึง'แพทย์ 365 วัน' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ
  • สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ
  • เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้ เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้
  • จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ
  • กาฬสินธุ์เดือด! ลูกเขยโหดยกพวกตามง้อไม่สำเร็จ ยิง\'เมีย-พ่อตา\'ดับ กาฬสินธุ์เดือด! ลูกเขยโหดยกพวกตามง้อไม่สำเร็จ ยิง'เมีย-พ่อตา'ดับ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

โลกการค้า : 29 พฤษภาคม 2568

โลกการค้า : 29 พฤษภาคม 2568

29 พ.ค. 2568

7-11 ยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะยกระดับSMEไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

7-11 ยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะยกระดับSMEไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

22 พ.ค. 2568

ผู้ประกอบไทยหันมาทางนี้ มีวิธีรับมือ” Reciprocal Tariffs “ มาฝาก

ผู้ประกอบไทยหันมาทางนี้ มีวิธีรับมือ” Reciprocal Tariffs “ มาฝาก

15 พ.ค. 2568

โลกการค้า : 8 พฤษภาคม 2568

โลกการค้า : 8 พฤษภาคม 2568

8 พ.ค. 2568

โลกการค้า : 1 พฤษภาคม 2568

โลกการค้า : 1 พฤษภาคม 2568

1 พ.ค. 2568

เจาะลึกความสำเร็จ 7-Eleven...ที่ดิจิตัลครองใจลูกค้า

เจาะลึกความสำเร็จ 7-Eleven...ที่ดิจิตัลครองใจลูกค้า

24 เม.ย. 2568

ธุรกิจไทยไม่ถึงครึ่ง..ที่ผู้นำฝ่ายปฏิบัติการได้ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

ธุรกิจไทยไม่ถึงครึ่ง..ที่ผู้นำฝ่ายปฏิบัติการได้ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

17 เม.ย. 2568

Aftershock...เริ่มสะเทือนถึงการท่องเที่ยวไทย

Aftershock...เริ่มสะเทือนถึงการท่องเที่ยวไทย

10 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved