แนวโน้มธุรกิจจำนำทะเบียนรถปี2568
**ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 (1Q68) สินเชื่อรวมคงค้างของผู้ประกอบการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (รวมสินเชื่อที่มีสินทรัพย์อ้างอิงประเภทอื่นด้วย เช่น ที่ดิน) มียอดคงค้างอยู่ที่ 4.13 แสนล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 และมีการเติบโตเล็กน้อย 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) การเติบโตของสินเชื่อชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเทียบกับการเติบโตที่ 28.1% YOY ในปี 2566 โดยปัจจัยหลักมาจากความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการในการปล่อยสินเชื่อใหม่และการจัดการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่มีการปล่อยไปก่อนหน้า ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมไปถึงตลาดตราสารหนี้ที่ยังมีสภาวะตึงตัวอยู่ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการบางรายจำเป็นต้องชะลอการปล่อยสินเชื่อ เพื่อนำกระแสเงินสดรับส่วนหนึ่งไปใช้สำหรับการชำระคืนหนี้ มีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่สินเชื่อยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเหล่านี้จะเป็นกลุ่มบริษัทที่สามารถบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อได้และมีแหล่งเงินทุนเพียงพอสำหรับการขยายสินเชื่อ
กำไรสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 (3M68) ของกลุ่มธุรกิจจำนำทะเบียนรถที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีการเติบโตอยู่ที่ 6.5% YOY โดยการเติบโตของกำไรสุทธิมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่ยังขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 2.3% YOY ตามการขยายตัวของสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดตามการขยายตัวของสินเชื่อที่ปรับลดลง ขณะที่คุณภาพสินเชื่อของกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยังคงค่อนข้างอ่อนแอ แต่มีแนวโน้มทรงตัวมากขึ้นในไตรมาส3 จากการที่ผู้ประกอบการมีการปรับตัวโดยปรับหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อใหม่ให้เข้มงวดมากขึ้น ปรับปรุงกระบวนการติดตามหนี้ และการบริหารจัดการหนี้เสียรวมถึงการตัดจำหน่ายหนี้สูญเชิงรุก
คาดว่าสินเชื่อจำนำทะเบียนรถปี2568 จะเติบโตที่ระดับ 5%-10% จากเดิมที่คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ที่ระดับ 10%-15% โดยแม้ว่าความต้องการสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่เนื่องจากคุณภาพสินเชื่อที่ยังอ่อนแอ ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางและมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลให้ผู้ประกอบการมุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพสินเชื่อและเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง โดยขยายสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างมั่นใจว่ายังมีความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก
คุณภาพสินเชื่อคาดว่าจะเริ่มมีแนวโน้มทรงตัวและปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยได้ แม้ว่าความสามารถในการผ่อนชำระของลูกหนี้ฐานรากยังคงอ่อนแอจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่คาดว่าความพยายามของผู้ประกอบการในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมาในการรักษาระดับคุณภาพสินเชื่อโดยมีการปรับเงื่อนไขและกระบวนการอนุมัติสินเชื่อให้เข้มงวดมากขึ้น ประกอบกับมีการตัดจำหน่ายหนี้สูญและขายหนี้เสียจะสามารถช่วยลดระดับ NPL Ratio ได้ ในส่วนของต้นทุนด้านเครดิตคาดว่าได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว แต่ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับช่วง 4-5 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินเชื่อยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และอาจมีการเร่งตัวขึ้นได้อีกครั้งหากสภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอและยืดเยื้อมากกว่าที่คาดการณ์ไว้จนส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้
คาดว่ารายได้และกำไรของธุรกิจจำนำทะเบียนรถจะเติบโตได้แม้จะเป็นไปอย่างจำกัด โดยปัจจัยที่ยังช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้และกำไรมาจากคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อ ค่าใช้จ่ายด้านเครดิตที่คาดว่าจะปรับลดลงจากความพยายามรักษาคุณภาพสินเชื่อของผู้ประกอบการและการควบคุมค่าใช้จ่ายใน การดำเนินงานรวมไปถึงการขยายสาขาที่จะชะลอลง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะเริ่มลดลงได้เล็กน้อยในระยะถัดไปตามทิศทางของดอกเบี้ยที่อยู่ในขาลง อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าวจะถูกชดเชยบางส่วนด้วยอัตราผลตอบแทนที่อาจมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากการมุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อใหม่ที่มีความเสี่ยงลดลง อย่างไรก็ตามอาจเห็นการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนในผู้ประกอบการบางรายที่มีการการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรับในช่วงก่อนหน้านี้และเริ่มเห็นผลของการปรับอัตราดอกเบี้ยรับหลังสัญญาเก่าสิ้นสุดลง คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการที่ชัดเจนขึ้นในครึ่งหลังของปี 2568 เมื่อสินเชื่อมีการเติบโตสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายด้านเครดิตมีการปรับลดลงชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ธุรกิจจำนำทะเบียนรถยังได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัดจากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าและโดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคา เนื่องจากธุรกิจจำนำทะเบียนรถรับหลักประกันที่ปลอดภาระแล้ว แต่เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าส่วนมากยังอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ ทำให้ผู้ประกอบการส่วนมากยังไม่รับหรือมีหลักประกันเป็นรถไฟฟ้าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก จำนวนรถไฟฟ้าสะสมทั้งหมด ณ เดือนเมษายน 2568 อยู่ที่ 266,888 คัน แม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่ารถประเภทอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดด้วยอัตราการเติบโตถึง 62% YOY แต่เมื่อเทียบกับจำนวนรถจดทะเบียนสะสมทั้งหมดแล้วจะยังคิดเป็นเพียง 0.62% ของจำนวนรถจดทะเบียนสะสมทั้งหมด รวมทั้งผู้ประกอบการต่างมีความระมัดระวังในการรับจำนำทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่มีราคารถมือสองที่มีเสถียรภาพและมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม การแข่งขันราคาของรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งส่งผลให้ราคารถยนต์น้ำมันมือสองลดลงนั้นอาจมีผลกระทบเชิงลบกับธุรกิจจำนำทะเบียนรถในแง่ที่ส่งผลให้ผลขาดทุนจากการขายรถยึดเพิ่มขึ้นได้ แต่ก็คาดว่าอยู่ในระดับที่จำกัด เนื่องจากพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของผู้บริโภคในรถยนต์ทั้งสองประเภทยังไม่สามารถทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้ธุรกิจกลุ่มจำนำทะเบียนรถเผชิญความเสี่ยงหลัก ได้แก่ 1. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) 2. ความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) 3. ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ (Operational Risk) 4.ความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk) 5. ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและกฎหมาย (Regulatory Risk)
**ทริสเรทติ้ง**
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี