วันศุกร์ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / โลกการค้า
โลกการค้า

โลกการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
3ตลาดสำคัญในอาเซียนของสินค้าไทย ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ

ดูทั้งหมด

  •  

** หากสหรัฐฯ จัดเก็บภาษีตอบโต้ตามอัตราที่ประกาศไว้1 จะทำให้เวียดนาม กัมพูชา และไทยเป็นประเทศในอาเซียนที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ มากที่สุด เนื่องจากเป็นประเทศที่จะถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีตอบโต้สูงถึง 46%, 49% และ 36% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียนที่ 33% อีกทั้งยังมีการพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่สูง สะท้อนจากสัดส่วนการส่งออกสินค้าของเวียดนาม กัมพูชา และไทยไปสหรัฐฯ ในปี 2567 สูงถึง 22%, 21% และ 10% ต่อ GDP ตามลำดับ ดังนั้น หากการเจรจาระหว่างประเทศในอาเซียนและสหรัฐฯ ไม่บรรลุผล อาจทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ จากเวียดนาม กัมพูชา และไทยมีแนวโน้มลดลงจากต้นทุนภาษีนำเข้าสินค้าที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ

สินค้าส่งออกของอาเซียนที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบทางตรงในการส่งออกไปสหรัฐฯ มากที่สุด คือ กลุ่มเครื่องจักร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มสิ่งทอและรองเท้า เนื่องจากในปี 2567 อาเซียนส่งออกสินค้าเหล่านี้ไปสหรัฐฯ เฉลี่ยสูงถึง 34% และ 19% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดไปสหรัฐฯ ตามลำดับ รวมทั้งยังเป็นกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯ สามารถนำเข้าจากตลาดอื่นทดแทนได้ง่าย อย่างไรก็ดี อาเซียนอาจได้รับอานิสงส์ในการส่งออกสินค้าบางกลุ่มไปยังสหรัฐฯ เพื่อทดแทนสินค้าจากจีนที่จะถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าที่สูง โดยเฉพาะสินค้าที่อาเซียนมีศักยภาพในการผลิตและมีกำลังการผลิตส่วนเกิน เช่น ถุงมือยาง ผลิตภัณฑ์พลาสติก  เป็นต้น ซึ่งอาจลดทอนผลกระทบต่อผู้ประกอบการได้บ้าง


ทั้งนี้เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซียเป็นประเทศในอาเซียน เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการส่งออกของผู้ประกอบการไทย เพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดใน 3 มิติ  1.ความต้องการนำเข้าสินค้ามีแนวโน้มเติบโต สะท้อนจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยของการนำเข้าสินค้า ในปี 2562-2567 ของเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซียสูงถึง 8.5%, 7.9% และ 6.4% ต่อปี 2.ส่วนแบ่งการตลาดของสินค้านำเข้าของไทยยังน้อย สะท้อนถึงโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น โดยสินค้าไทยมีส่วนแบ่งการตลาดในเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซียอยู่ที่ราว 4%-5% เท่านั้น 3.มูลค่าการนำเข้าสินค้าในปี 2567 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอาเซียนที่ 1.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ส่งออกที่สูง

สำหรับ เวียดนาม สินค้าที่มีศักยภาพของไทยในการขยายการส่งออกไปได้มากขึ้น เช่น ลวดทองแดง น้ำตาล รวมถึงน้ำมันปิโตรเลียม แผงควบคุม ยางพารา และแผ่นอะลูมิเนียม โดย สินค้าดาวเด่น ได้แก่ ลวดทองแดง และน้ำตาล ซึ่งเป็นสินค้าไทยที่มีความต้องการนำเข้าในเวียดนามเพิ่มขึ้น สะท้อนจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยของการส่งออกไปเวียดนามในปี 2562-2567 สูงถึง 13% และ 8% ต่อปี ตามลำดับ     อีกทั้งไทยมีส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ยในเวียดนามในปี 2562-2566 สูงถึง 43% และ 45% ตามลำดับ และสินค้าที่มีศักยภาพ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม แผงควบคุม ยางพารา และแผ่นอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของการส่งออกไปเวียดนามในปี 2562-2567 สูงถึง 10%, 17%,  24% และ 20% ต่อปี ตามลำดับ แต่ไทยยังมีส่วนแบ่งการตลาดในเวียดนามไม่มากนัก

ส่วนมาเลเซียสินค้าที่มีศักยภาพของไทยในการขยายการส่งออกไปได้มากขึ้น ได้แก่ เนื้อสัตว์ รวมถึงเรือขุด เครื่องบิน แผงควบคุม และโทรศัพท์ โดย  สินค้าดาวเด่น ได้แก่ เนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นสินค้าไทยที่มีความต้องการนำเข้าในมาเลเซียเพิ่มขึ้น สะท้อนจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยของการส่งออกไปมาเลเซียในปี 2562-2567 สูงถึง 20% ต่อปี อีกทั้งไทยมีส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ยในมาเลเซียในปี 2562-2567 สูงถึง 73% และ สินค้าที่มีศักยภาพ ได้แก่ เรือขุด เครื่องบิน แผงควบคุม และโทรศัพท์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของการส่งออกไปมาเลเซียในปี 2562-2567 สูงถึง 16%, 69%, 23% และ 38% ต่อปี ตามลำดับ แต่ไทยยังมีส่วนแบ่งการตลาดในมาเลเซียไม่มากนัก

ขณะที่อินโดนีเซีย สินค้าที่มีศักยภาพของไทยในการขยายการส่งออกไปได้มากขึ้น ได้แก่ ข้าว และน้ำมันปิโตรเลียม  โดย สินค้าดาวเด่น ได้แก่ ข้าว ซึ่งเป็นสินค้าไทยที่มีความต้องการนำเข้าในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น สะท้อนจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยของการส่งออกไปอินโดนีเซียในปี 2562-2567 สูงถึง 82% ต่อปี อีกทั้งไทยมีส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ยในอินโดนีเซียในปี 2562-2567 สูงถึง 30% และ. สินค้าที่มีศักยภาพ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของการส่งออกไปอินโดนีเซียในปี 2562-2567 สูงถึง 39% ต่อปี แต่ไทยยังมีส่วนแบ่งการตลาดในอินโดนีเซียไม่มากนัก

** Krungthai COMPASS **

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:16 น. ‘จักรภพ’เตือนแรง‘อย่าให้ไฟในบ้าน ลุกลามถึงชายแดน’ ย้ำวิกฤตภายในอาจเปิดทางศัตรู
15:03 น. เสิร์ฟความมันส์!ไม่มีกั๊ก!กับสคูลทัวร์ 'คอนเสิร์ตศาสตร์ 2025 ศาสตร์ความมันส์ ยกกำลัง 3'
15:03 น. 'เพเซอร์ส'ฮึด! ตีเจ๊า'โอเคซี'ชี้ชะตาแชมป์NBAถึงนัดสุดท้าย
15:02 น. ‘อดีตสว.สมชาย’ยันไม่ได้เรียกหา‘รัฐประหาร’ ลั่นเป็นความผิด‘แพทองธาร’คนเดียว
14:58 น. ปัดล็อบบี้ฝุ่นตลบ! ‘ภูมิใจไทย’ยัน‘เนวิน’ไม่เคยดีล‘ลุง’-ดัน‘พีระพันธุ์’-ตั้งรัฐบาลสู้
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2568
เปิดภาพ'ทหารเขมร'! แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ลั่นพร้อมรับคำสั่ง'ฮุน มาเนต'
‘เขมร’เล่นเกม! เปิดด่านยอมให้ผลไม้เข้า ตั้งเงื่อนไขเอาคืนห้ามรถจาก‘จันทบุรี’
ค้นพบ'พญาครุฑ'130ล้านปี สัตว์เลื้อยคลานบินได้ ตัวแรกของไทยในภาคอีสาน
‘ยูเอ็น’ยังกังวล! รายงานชี้‘กัมพูชา’หลายเมืองกลายเป็นแหล่งซ่องสุม'โจรออนไลน์'
ดูทั้งหมด
‘แพทองธาร’ต้องลาออก
เมาแล้วขับ จับ ปรับ ยึดรถ
จุดจบตระกูลเหลี่ยม (1)
คลิปหลุด หรือตัวนายกฯหลานฮุนเซน ใครคือภัยความมั่นคงของชาติ ?
ความไม่ชัดเจนในมาตรา ๑๔๔ ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ และกรณีศึกษาการกระทำฝ่าฝืนในมาตรานี้
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เพเซอร์ส'ฮึด! ตีเจ๊า'โอเคซี'ชี้ชะตาแชมป์NBAถึงนัดสุดท้าย

‘อดีตสว.สมชาย’ยันไม่ได้เรียกหา‘รัฐประหาร’ ลั่นเป็นความผิด‘แพทองธาร’คนเดียว

'บิ๊กป้อม'แถลงชัด! ไม่ร่วมรัฐบาล'แพทองธาร' จี้ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ

สันดานเขมร! ชาว'กัมพูชา'มาร้องเพลง ที่ 'ปราสาทตาควาย' ทหารไทยเข้าไปห้าม (คลิป)

‘รทสช.’แตก!‘กลุ่ม 18’ไม่ยอมรับมติเปลี่ยน‘ชัยเกษม’นั่งนายกฯ เข้าทาง‘พีระพันธุ์’ส้มหล่น

‘ปานเทพ’ฟันฉับ! เคสคลิปเสียง‘นายกฯ-ฮุนเซน’ เข้าข่ายภัยความมั่นคงต่อชาติ ใครยฝืนร่วมโดนด้วย

  • Breaking News
  • ‘จักรภพ’เตือนแรง‘อย่าให้ไฟในบ้าน ลุกลามถึงชายแดน’ ย้ำวิกฤตภายในอาจเปิดทางศัตรู ‘จักรภพ’เตือนแรง‘อย่าให้ไฟในบ้าน ลุกลามถึงชายแดน’ ย้ำวิกฤตภายในอาจเปิดทางศัตรู
  • เสิร์ฟความมันส์!ไม่มีกั๊ก!กับสคูลทัวร์ \'คอนเสิร์ตศาสตร์ 2025 ศาสตร์ความมันส์ ยกกำลัง 3\' เสิร์ฟความมันส์!ไม่มีกั๊ก!กับสคูลทัวร์ 'คอนเสิร์ตศาสตร์ 2025 ศาสตร์ความมันส์ ยกกำลัง 3'
  • \'เพเซอร์ส\'ฮึด! ตีเจ๊า\'โอเคซี\'ชี้ชะตาแชมป์NBAถึงนัดสุดท้าย 'เพเซอร์ส'ฮึด! ตีเจ๊า'โอเคซี'ชี้ชะตาแชมป์NBAถึงนัดสุดท้าย
  • ‘อดีตสว.สมชาย’ยันไม่ได้เรียกหา‘รัฐประหาร’ ลั่นเป็นความผิด‘แพทองธาร’คนเดียว ‘อดีตสว.สมชาย’ยันไม่ได้เรียกหา‘รัฐประหาร’ ลั่นเป็นความผิด‘แพทองธาร’คนเดียว
  • ปัดล็อบบี้ฝุ่นตลบ! ‘ภูมิใจไทย’ยัน‘เนวิน’ไม่เคยดีล‘ลุง’-ดัน‘พีระพันธุ์’-ตั้งรัฐบาลสู้ ปัดล็อบบี้ฝุ่นตลบ! ‘ภูมิใจไทย’ยัน‘เนวิน’ไม่เคยดีล‘ลุง’-ดัน‘พีระพันธุ์’-ตั้งรัฐบาลสู้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

3ตลาดสำคัญในอาเซียนของสินค้าไทย ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ

3ตลาดสำคัญในอาเซียนของสินค้าไทย ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ

19 มิ.ย. 2568

ความเสี่ยง”ภาษีทรัมป์”ลากยาว  การค้าโลกไม่สมดุล...คือต้นตอของปัญหา

ความเสี่ยง”ภาษีทรัมป์”ลากยาว การค้าโลกไม่สมดุล...คือต้นตอของปัญหา

12 มิ.ย. 2568

โลกการค้า : 5 มิถุนายน 2568

โลกการค้า : 5 มิถุนายน 2568

5 มิ.ย. 2568

โลกการค้า : 29 พฤษภาคม 2568

โลกการค้า : 29 พฤษภาคม 2568

29 พ.ค. 2568

7-11 ยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะยกระดับSMEไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

7-11 ยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะยกระดับSMEไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

22 พ.ค. 2568

ผู้ประกอบไทยหันมาทางนี้ มีวิธีรับมือ” Reciprocal Tariffs “ มาฝาก

ผู้ประกอบไทยหันมาทางนี้ มีวิธีรับมือ” Reciprocal Tariffs “ มาฝาก

15 พ.ค. 2568

โลกการค้า : 8 พฤษภาคม 2568

โลกการค้า : 8 พฤษภาคม 2568

8 พ.ค. 2568

โลกการค้า : 1 พฤษภาคม 2568

โลกการค้า : 1 พฤษภาคม 2568

1 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved