“เพิ่มสำรองรองรับหนี้เสียในอนาคต”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นธนาคารทหารไทยธนชาตหรือTTBเราคาดว่า TTB จะยังคงใช้นโยบายขยายสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และ ไม่คิดว่าสินเชื่อจะกลับมาฟื้นตัวได้ในระยะสั้นในภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน เราจึงปรับลดสมมติฐานอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในปี 2568F/2569F เป็น -6%/+3% จากเดิม 0%/+3% นอกจากนี้เรายังใช้สมมติฐานว่าสินเชื่อจะหดตัวประมาณ 2% QoQ และ 3.5% YTD ใน 2Q68F ขณะเดียวกันทั้ง yield และ มาร์จิ้นยังคงถูกกดดันจากการลดดอกเบี้ย และ yield ที่ลดลงจากโครงการคุณสู้ เราช่วย
คงการตั้งสำรองฯ (credit cost) ไว้ที่ระดับสูงเพื่อเพิ่มสำรองส่วนเกิน (management overlay) ธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศใน 2H68 และ เราเชื่อว่า TTB จะอยู่ในสถานะที่ลำบากกับการเผชิญอุปสรรคในระยะต่อไป ซึ่งในสถานการณ์นี้ เราคิดว่า TTB จำเป็นต้องเพิ่มสัดส่วนสำรองหนี้เสีย/สินเชื่อ (LLR/Loan) เพื่อรองรับความไม่แน่นอน ทั้งนี้ TTB เผยว่าธนาคารพยายามจะเพิ่มสัดส่วน LLR/สินเชื่อให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับธนาคารอื่น ๆ โดยสัดส่วน LLR/สินเชื่อใน 1QL8 อยู่ที่ 4.9% ใน 1Q68 (ค่าเฉลี่ยของธนาคารอื่น ๆ อยู่ที่ 6.8%) เราคาดว่า credit cost น่าจะยังอยู่ในระดับสูงที่ 1.5% (จาก 1.5% ใน 1Q68 และ เป้าปีนี้ที่ 1.25-1.35%)
คาดว่ากำไรใน 2Q68F จะอยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท (-3% QoQ, -8% YoY และ -6% ในงวด 1H68F) กำไรที่คาดว่าจะลดลง QoQ สะท้อนถึง 1.) NII ที่ลดลงจากการที่สินเชื่อหดตัวกดดันให้ NIM -8bps QoQ 2.) FVTP ลดลง ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะสินเชื่อหดตัว 7% YoY และ NIM ลดลง 15bps YoY นอกจากนี้ เราใช้สมมติฐาน credit cost ใน 2Q68F ที่ 1.4% (จาก 1.5% ใน 1Q68 และ 1.6% ใน 2Q68) ในขณะเดียวกัน โครงการคุณสู้เราช่วยจะทำให้ NPL ของธนาคารอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ที่ +2% QoQ และ -1% YoY เมื่ออิงตามประมาณการกำไรใน 2Q68F ของเรา กำไรในงวด 1H68F จะคิดเป็น 52% ของประมาณการกำไรเต็มปี
เราปรับสมมติฐานดังนี้ 1.) ปรับเพิ่ม credit cost ปี 2568F/2569F เป็น 1.5%/1.4% (จากเดิม 1.45%/1.3%) 2.) ปรับลดอัตราการขยายตัวของสินเชื่อเป็น -6%/+3% (จากเดิม 0%/+3%) เรายังคงสมมติฐาน NIM ปี 2568F/2569F ไว้ที่ 3%/3% และ อัตราการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมไว้ที่ 2%/3% เนื่องจาก ROE ลดลง เราจึง de-rate PBV เป็น 0.75x (จาก 0.8x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568F ใหม่ที่ 1.88 บาท จากเดิม 2.02 บาท โดยยังคงคำแนะนำถือ
ปัจจัยเสี่ยงจากรายได้โตลดลง, NPLs เพิ่มขึ้น และ ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี