วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / Insight คริปโต
Insight คริปโต

Insight คริปโต

ดร.กร พูนศิริวงศ์
วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
Wealth Gap 2030 : ทำไมช่องว่างความมั่งคั่งกำลังขยายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์

ดูทั้งหมด

  •  

ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา โลกการเงินกำลังเคลื่อนเข้าสู่ยุคที่ “รายได้จากการทำงาน”ไม่ได้โตเร็วพอที่จะตามราคาสินทรัพย์ได้อีกต่อไป ข้อมูลจาก Global Wage Report ของ ILO ชี้ชัดว่า ค่าแรงจริง (real wage) ในหลายประเทศเกือบไม่เพิ่มขึ้นเลยเมื่อปรับตามเงินเฟ้อแม้เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังโควิดแล้วก็ตาม ขณะที่ในบางภูมิภาค ค่าแรงยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี

นี่คือสัญญาณว่ารายได้จากการทำงานกำลังสูญเสียพลังซื้อในอัตราที่น่าเป็นห่วง เพราะค่าครองชีพโดยเฉพาะค่าที่อยู่อาศัยพุ่งสูงเกินกว่าจะตามทันได้


ในทางกลับกัน สินทรัพย์สำคัญของโลก—หุ้น กองทุน พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์—กลับเติบโตเร็วกว่าค่าแรง 3–5 เท่าในหลายประเทศตลอดทศวรรษที่ผ่านมา

งานศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์การกระจายความมั่งคั่งพบว่าการเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์เป็นปัจจัยใหญ่ที่สุดที่ผลักให้ความเหลื่อมล้ำขยายตัว เพราะผู้ที่มีทุนตั้งต้นสามารถสะสมสินทรัพย์และได้รับ “ผลตอบแทนจากทุน” ในอัตราที่เร่งขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผู้ที่ยังไม่มีเงินพอจะลงทุนตั้งแต่แรก ไม่มีโอกาสตามราคาที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเลย

เมื่อราคาบ้านวิ่งแซงเงินเดือน : ความมั่งคั่งแยกจากแรงงานอย่างชัดเจน

ในไทย ภาพความเหลื่อมล้ำก็สะท้อนชัดจาก “ราคาบ้านที่วิ่งเร็วกว่ารายได้” เช่นกัน ข้อมูลจาก BOT และบทวิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ ระบุว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมาราคาที่อยู่อาศัยในไทยเพิ่มขึ้นราว 45–50% ขณะที่รายได้เฉลี่ยของประชาชนเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 20–25% เท่านั้น หมายความว่าราคาบ้านโตเร็วกว่ารายได้เกือบ2 เท่า โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวที่ราคาที่ดินและต้นทุนก่อสร้างปรับขึ้นต่อเนื่องทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนมากเริ่ม “เอื้อมไม่ถึงบ้านหลังแรก” แม้ทำงานหลายปีแล้วก็ตาม

ช่องว่างนี้ตอกย้ำว่าคนที่สามารถสะสมสินทรัพย์ตั้งแต่เนิ่นๆ ได้มักจะทิ้งห่างคนที่ต้องพึ่งพาเพียงรายได้จากงานประจำซึ่งสะท้อนโครงสร้างความเหลื่อมล้ำที่กำลังขยายตัวในไทยไม่ต่างจากหลายประเทศทั่วโลกครับ เมื่อผสานกับภาวะเงินเฟ้อเชิงโครงสร้าง (structural inflation) ที่ถูกขับเคลื่อนโดยต้นทุนแรงงานสูงขึ้นการย้ายฐานการผลิต และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ราคาสินทรัพย์ยิ่งมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง จนช่องว่างระหว่าง“ผู้ที่ถือครองสินทรัพย์” กับ “ผู้มีแต่รายได้จากงาน” ถ่างออกทุกปี

ในขณะเดียวกัน AI และ automation ก็เข้ามาเขย่าตลาดแรงงานอย่างรุนแรง IMF ประเมินว่า AI จะมีผลกระทบกับงานทั่วโลกราว 40% และอาจสูงถึง 60% ในประเทศพัฒนาแล้ว หมายความว่าแรงงานจำนวนมากจะถูกกดดันให้ค่าจ้างเพิ่มช้าลง หรือถูกแทนที่โดยเทคโนโลยี แม้รายได้และกำไรของบริษัทจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

ดอลลาร์แข็ง ➞ ประเทศกำลังพัฒนาเสียเปรียบหนัก เกิดความเหลื่อมล้ำระดับโลก

ความเหลื่อมล้ำไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศ แต่กำลังขยายในระดับโลกเช่นกัน งานศึกษาของ IMF พบว่าเมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น 10% ผลกระทบที่มีต่อประเทศกำลังพัฒนานั้นรุนแรงกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายเท่า GDP อาจหดตัวเฉลี่ย ประมาณ 1.9% ภายในหนึ่งปีขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วได้รับผลกระทบเพียง 0.6% และมีความสามารถในการฟื้นตัวเร็วกว่า

ดอลลาร์แข็งค่ามากในรอบปีที่ผ่านมา ทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ (emerging markets) ไปสู่สินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรสหรัฐฯ ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มขึ้น รัฐบาลต้องตัดงบลงทุน และความสามารถในการพัฒนาความรู้และทักษะของประชาชนลดลง

เมื่อทุนไหลเข้าประเทศที่ร่ำรวย แต่ไหลออกจากประเทศกำลังพัฒนา ช่องว่างความมั่งคั่งแบบข้ามประเทศจึงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้ประชาชนในประเทศเหล่านี้ยิ่งเผชิญข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ ทั้งค่าครองชีพสูงขึ้นค่าเงินอ่อนลงและต้นทุนชีวิตแพงขึ้น กล่าวได้ว่า โลกกำลังถูกแบ่งเป็นสองกลุ่มชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม :

ประเทศที่มีตลาดทุนแข็งแรง สกุลเงินแข็ง และถือครองเทคโนโลยี VS ประเทศที่พึ่งพาสินเชื่อต่างชาติ และไม่มีทรัพย์สินที่มูลค่าเพิ่มขึ้นตามโลกการเงิน

ทางรอดสู่ปี 2030 : ความรู้ทางการเงิน + การลงทุนเชิงรุก คือเกราะป้องกันที่แท้จริง

เมื่อเห็นภาพทั้งหมดแล้ว คำถามคือ คนทั่วไปควรทำอย่างไร? คำตอบไม่ใช่ “ทำงานให้หนักขึ้น” เพราะข้อมูลชี้แล้วว่าแรงงานไม่สามารถเอาชนะสินทรัพย์ได้อีกต่อไป การปรับตัวที่สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้ทำงาน” เป็น “ผู้ถือครองสินทรัพย์” ให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร กองทุน อสังหาฯ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเข้าใจ ความมั่งคั่งยุคนี้เกิดขึ้นจากการให้เงินทำงานควบคู่ไปกับแรงงานของเราเอง อย่างไรก็ตาม ความรู้ทางการเงินคือสิ่งที่แบ่ง “ผู้ชนะ” และ “ผู้แพ้” อย่างแท้จริง เพราะการลงทุนที่ไม่มีความเข้าใจความเสี่ยงอาจย้อนกลับมาทำลายความมั่นคงของตัวเองได้ทันที

ในยุคที่เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยผันผวน เทคโนโลยี disrupt งาน และราคาสินทรัพย์วิ่งเร็วกว่ารายได้การสร้างวินัยการลงทุนและความรู้ทางการเงินคือ “ทักษะชีวิต” ที่สำคัญพอๆ กับทักษะดิจิทัล หากเข้าใจภาพใหญ่และลงมือสร้างสินทรัพย์ตั้งแต่วันนี้ โอกาสในการอยู่ฝั่งผู้ชนะในปี 2030 ก็ยังอยู่ในมือเราเสมอครับ

ดร.กร พูนศิริวงศ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:04 น. กขค. ผนึก สคบ. ร่วมขับเคลื่อนและกำกับดูแล 'ดิจิทัลมาร์เก็ต'
22:02 น. วอลเลย์บอลหญิงประเดิม!เช็คโปรแกรมแข่งซีเกมส์วันพุธนี้
21:55 น. 'กอ.รมน.'เข้มเฝ้าระวัง 'โดรนสอดแนม–โดรนพลีชีพ' ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย เขมร
21:40 น. ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง
21:22 น. เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33
ดูทั้งหมด
ทนายแก้ว เสียใจอย่างสุดซึ้ง หากเป็นไปตามข่าว ผิดถึงขั้นประหารชีวิต
จับตา พายุลูกใหม่ กำลังก่อตัวช่วง 8-10 ธ.ค. บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 5-11 ธ.ค.68
ฮุน เซน กินหรูอยู่สบาย โพสต์ภาพเที่ยวทะเลในสีหนุวิลล์ ขณะดำรงตำแหน่งรักษาการประมุข
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 7-13 ธ.ค.68
ดูทั้งหมด
Wealth Gap 2030 : ทำไมช่องว่างความมั่งคั่งกำลังขยายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์
สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเขมร
เมื่อระบบธรรมาภิบาลไม่อาจป้องกันอำนาจนอกระบบได้
จบที่ไม่จบ?
ไทยป้องกันตนเอง
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กขค. ผนึก สคบ. ร่วมขับเคลื่อนและกำกับดูแล 'ดิจิทัลมาร์เก็ต'

วอลเลย์บอลหญิงประเดิม!เช็คโปรแกรมแข่งซีเกมส์วันพุธนี้

'กอ.รมน.'เข้มเฝ้าระวัง 'โดรนสอดแนม–โดรนพลีชีพ' ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย เขมร

ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง

เสธ ทบ ลงพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ดูแลประชาชน เยี่ยมทหารบาดเจ็บ พร้อมย้ำไทยยืนหยัดปกป้องแผ่นดิน

ด่วน! ทร.เตือนเรือประมงไทย หลีกเลี่ยงเดินเรือเข้าใกล้เขตแดนทางทะเล ไทย-กัมพูชา

  • Breaking News
  • กขค. ผนึก สคบ. ร่วมขับเคลื่อนและกำกับดูแล \'ดิจิทัลมาร์เก็ต\' กขค. ผนึก สคบ. ร่วมขับเคลื่อนและกำกับดูแล 'ดิจิทัลมาร์เก็ต'
  • วอลเลย์บอลหญิงประเดิม!เช็คโปรแกรมแข่งซีเกมส์วันพุธนี้ วอลเลย์บอลหญิงประเดิม!เช็คโปรแกรมแข่งซีเกมส์วันพุธนี้
  • \'กอ.รมน.\'เข้มเฝ้าระวัง \'โดรนสอดแนม–โดรนพลีชีพ\' ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย เขมร 'กอ.รมน.'เข้มเฝ้าระวัง 'โดรนสอดแนม–โดรนพลีชีพ' ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย เขมร
  • ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง
  • เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33 เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

Wealth Gap 2030 : ทำไมช่องว่างความมั่งคั่งกำลังขยายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์

Wealth Gap 2030 : ทำไมช่องว่างความมั่งคั่งกำลังขยายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์

10 ธ.ค. 2568

จบแล้วแต่ยังไม่จบ : ทำไมการสิ้นสุด  QT ไม่ได้ทำให้สภาพคล่องกลับมาทันที

จบแล้วแต่ยังไม่จบ : ทำไมการสิ้นสุด QT ไม่ได้ทำให้สภาพคล่องกลับมาทันที

3 ธ.ค. 2568

The Great Data Divide - ประเทศที่ควบคุมข้อมูลได้ จะควบคุมเศรษฐกิจโลกได้

The Great Data Divide - ประเทศที่ควบคุมข้อมูลได้ จะควบคุมเศรษฐกิจโลกได้

26 พ.ย. 2568

การกลับมาของสภาพคล่องโลกหลัง Government Shutdown สหรัฐฯ -  จะเป็นตัวเร่งรอบใหม่ของตลาดคริปโตหรือไม่?

การกลับมาของสภาพคล่องโลกหลัง Government Shutdown สหรัฐฯ - จะเป็นตัวเร่งรอบใหม่ของตลาดคริปโตหรือไม่?

19 พ.ย. 2568

Bitcoin กับนโยบายแจกเงิน $2,000 ของทรัมป์ :  เม็ดเงินใหม่ที่อาจหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดคริปโต

Bitcoin กับนโยบายแจกเงิน $2,000 ของทรัมป์ : เม็ดเงินใหม่ที่อาจหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดคริปโต

12 พ.ย. 2568

Web3: อินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่ผู้ใช้‘อ่าน เขียน และเป็นเจ้าของ’ได้จริง

Web3: อินเทอร์เน็ตยุคใหม่ที่ผู้ใช้‘อ่าน เขียน และเป็นเจ้าของ’ได้จริง

5 พ.ย. 2568

สหรัฐฯ–จีน บรรลุข้อตกลงเบื้องต้น :  สัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจโลกและสินทรัพย์ดิจิทัล

สหรัฐฯ–จีน บรรลุข้อตกลงเบื้องต้น : สัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจโลกและสินทรัพย์ดิจิทัล

29 ต.ค. 2568

เมื่อหนี้ครัวเรือนคือกับดัก :  ภาระหนี้ครัวเรือนไทยสูงสุดเท่าไรและเราจะรับมืออย่างไร?

เมื่อหนี้ครัวเรือนคือกับดัก : ภาระหนี้ครัวเรือนไทยสูงสุดเท่าไรและเราจะรับมืออย่างไร?

22 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved