วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ปี69การค้าและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโจทย์หินของทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่
** เศรษฐกิจโลกปี 2569 มีแนวโน้มชะลอลงคาดว่าจะขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) จาก 2.7% YOY ในปี 2568 ปัจจัยสำคัญที่กดดันมาจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบเต็มปี ทำให้การค้าโลกชะลอตัวหลังหมดแรงหนุนจาก Front-loading แม้การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามกระแส AI จะยังเติบโตได้ดี การลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งด้านการลงทุนภาคเอกชนและความมั่งคั่งผ่านราคาสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ AI ขณะเดียวกันการลงทุนในเทคโนโลยีและดาตาเซ็นเตอร์ยังส่งผลดีต่อประเทศตลาดเกิดใหม่ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี นโยบายการเงินและการคลังในโลกยังผ่อนคลาย แต่ข้อจำกัดเริ่มชัดขึ้น บางประเทศสิ้นสุดวัฏจักรการลดดอกเบี้ย ขณะที่บางประเทศยังมีแรงกดดันเงินเฟ้อ ส่วนนโยบายการคลังเผชิญข้อจำกัดจากต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น และหนี้สาธารณะสูง ทำให้การสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะต่อไปมีข้อจำกัดมากขึ้น
นโยบายการเงินโลกในปี 2569 ยังคงผ่อนคลาย (ยกเว้นญี่ปุ่น) แต่ความสามารถในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมมีจำกัด เนื่องจากธนาคารกลางส่วนใหญ่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมามากแล้วในปีนี้ และจะเข้าสู่ช่วงสิ้นสุดวัฏจักรลดดอกเบี้ยในปีหน้า SCB EIC ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มทยอยลดดอกเบี้ยอีก 50 bps ก่อนจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 จากความเสี่ยงเงินเฟ้อ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 2% ไว้ตลอดปี ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มทยอยขึ้นดอกเบี้ยสู่ 1.25% ภายในปีหน้า หลังข้อมูลการปรับเพิ่มค่าจ้างประจำปีชัดเจนขึ้น
ความเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจโลกในปี 2569 ได้แก่ 1. ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า โดยเฉพาะมาตรการภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณา ทั้งภาษีรายสินค้า เช่น อิเล็กทรอนิกส์ และ Transshipment tariff 2. ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ จากท่าทีของสหรัฐฯ ที่ลดการสนับสนุน NATO และยุโรปลงมาก รวมถึงความตึงเครียดทางการทูตระหว่างญี่ปุ่น-จีน 3. ความเสี่ยงในตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะราคาสินทรัพย์กลุ่ม AI ที่อาจปรับฐานลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และ 4. ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาพอากาศสุดขั้วและภัยธรรมชาติจะรุนแรงขึ้นทั่วโลก
สำหรับผลกระทบที่ไทยจะได้รับจากการค้าและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวด้วยสาเหตุข้างต้น แน่นอนคือการส่งออกของไทย แม้การส่งออกไทยจะขยายตัวสูงในปี 2568 แต่แนวโน้มปี 2569 มีโอกาสพลิกกลับมาหดตัว ซึ่ง เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าและผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่ชัดเจนขึ้น ทำให้สินค้าไทยมีโอกาสในการแข่งขันได้ยากลำบากขึ้น คู่ค้าเองก็มีกำลังซื้อลดลง ส่วนแรงหนุนจากการเร่งส่งออกก่อนขึ้นภาษี (Front-loading) กำลังหมดไปหลังสหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสูงตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีนี้ คู่ค้าก็จะชะลอสั่งออร์เดอร์ใหม่ แต่ระบายสต๊อกเดิมที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังต้องอาจเผชิญความเสี่ยงจากการตั้งกำแพงภาษีเพิ่มเติมของสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าสวมสิทธิ
นอกจากนี้การแข่งขันจากจีนทวีความรุนแรงขึ้น หลังสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงลดภาษีตอบโต้อัตราสูงเป็นเวลา 1 ปี ทำให้สินค้าจีนอาจกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯ ได้มากขึ้น ทั้งนี้การส่งออกและนำเข้าของไทยยังมีความเสี่ยงจากข้อสรุปการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯที่อาจล่าช้า ท่ามกลางกรณีขัดแย้งกัมพูชาที่รุนแรงขึ้นและความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการยุบสภาเร็วกว่ากำหนด
สำหรับภาคการท่องเที่ยวปี 2569 คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นจากปี 2568 มาอยู่ที่ราว 34.1 ล้านคน แต่การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนยังเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป การแข่งขันด้านท่องเที่ยว (Tourism war) ในเอเชียที่มีแนวโน้มเข้มข้นขึ้น รวมทั้งเมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อำนาจการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ย่อมลดลงตามไปด้วย
เมื่อการค้าและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เศรษฐกิจไทยประเทศไทยย่อมหนีไม่พ้นแรงกระแทก เนื่องจากโคตรงสร้างเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพาภาคการค้าระหว่างเป็นเทศเป็นหลัก โดย ภาคส่งออก มีสัดส่วน 60 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( GDP) ส่วนภาคการท่อเที่ยว 15 % ต่อ GDP และ ส่วนภาคการผลิต การลงทุนภาคเอกชน 10 % ต่อ GDP ก็ย่อมรับผลกระทบตามไปด้วย เพราะภาคการผลิตของไทยส่วนใหญ่ผลิตเพื่อการส่งออก หากส่งออกร่วงภาคการผลิตย่อมร่วมด้วยเช่นกัน
สรุปคือในปี2569...ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะเจอโจทย์ยากมาก กับการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ การทำนโยบายแบบลดแลกแจกแถมคงใช้ไม่ได้แล้ว ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณ...ดังนั้นต้องมีฝีมือจริงๆถึงจะประคองเศรษฐกิจไทยให้ผ่านพ้นช่วงยากลำบากนี้ไปได้...**
** กระบองเพชร**

สรุปมติคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) : การออกเสียงประชามติ
'Tokyogurl'เจอโทษหนัก! ยึดเบี้ยเลี้ยง-ส่อโดนคดีอาญา
‘สุไพรพล เพ็ญแข’ชู‘30 บาทรักษาทุกที่’นโยบายหลักหาเสียงเขตบางกอกน้อย-บางพลัด
คณะบุคคล หน่วยงานต่างๆ ประชาชน พร้อมใจเข้ากราบสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง
เขมรร้อนตัวกลัวโดนถล่ม ออกประกาศ'ปอยเปต'ไม่มีกำลังทหาร-อาวุธหนัก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี