กำหนดวันหย่อนบัตรเลือกตั้งยิ่งงวดใกล้เข้ามา บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองใหญ่ๆ ดังๆ ก็ยิ่งดุเดือดรุนแรงและไร้สาระมากขึ้น ด้วยต่างมุ่งหวังโจมตีทำลายความน่าเชื่อถือของกันและกัน ตรงกันข้ามกับพรรคการเมืองเล็กๆ อีกหลายพรรค ที่แม้แทบไม่มีความหวังว่าจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาหรือไม่ แต่กลับตั้งอกตั้งใจนำเสนอนโยบายในการพัฒนาประเทศชาติของพรรคตนอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ถ้าอยากรู้ว่าจริงหรือไม่ ลองเปิด ที.วี. ตอนดึกๆ ที่เขาจัดสรรเวลาให้แต่ละพรรคทำคลิปวิดีโอมาออกอากาศดู แล้วจะรู้ว่าเป็นเช่นนั้นจริง
การที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ หรือพรรคการเมืองดังๆ ที่เป็นตัวเก็งว่าจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล หรืออย่างน้อยก็ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ต่างพากันหาเสียงโจมตีกันไปมา แอบอ้างความดีความชอบให้ฝ่ายตน ทับถมโจมตีฝ่ายอื่นเช่นนี้ ย่อมยืนยันได้ถึงคุณภาพของการเมืองไทยโดยองค์รวมว่าพัฒนาอยู่ในระดับไหน ที่สำคัญ ยืนยันได้อย่างมั่นใจว่า การเมืองไทยไม่สามารถทำให้คนเลวกลายเป็นคนดีได้ แต่สามารถทำให้คนดีกลายเป็นคนเลวได้
บนเวทีการเมือง พรรคที่แกนนำเคยปลุกระดมคนให้ออกมาล้มรัฐบาลด้วยการพกน้ำมันเข้ามาเผาเมืองหลวง ปลุกระดมคนให้ไปล้อมศาลากลางจังหวัด ปลุกระดมคนให้เผาบ้านเผาเมือง รับใช้นายใหญ่ที่เป็นตำนานการคอร์รัปชันโกงกินทั้งลับและเปิดเผย ตำนานการแทรกแซงองค์กรอิสระและข่มขู่คุกคามฝ่ายที่เห็นต่าง ตำนานการหักหลังเอาตัวรอดปล่อยให้ลูกน้องติดคุกคนแล้วคนเล่า และตำนานการใช้เสียงข้างมากมาออกกฎหมายลักหลับในสภาเพื่อหวังให้ตนเองพ้นโทษ พรรคการเมืองและนักการเมืองเช่นนี้แหละที่เวลานี้เรียกตัวเองอย่างไม่อายฟ้าอายดินว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย”
บนเวทีการเมืองอีกเช่นกัน พรรคที่คนเขารู้กันทั่วว่าจัดตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับการอยู่ในอำนาจต่อของกลุ่มผู้กุมอำนาจ พรรคที่สามารถจัดงานเลี้ยงระดมทุนได้อย่างน่าพิศวง พรรคที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่างในขณะที่พรรคอื่นทำไม่ได้ทั้งโดยการเอื้อของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่ร่างมารองรับ และโดยการตีความแบบเอาสีข้างเข้าถูขององค์กรและผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายทั้งปวง พรรคการเมืองและนักการเมืองพวกนี้แหละ ที่เวลานี้ปฏิเสธว่าตนไม่ได้เอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้สืบทอดอำนาจ
พฤติกรรมและการดำรงอยู่ได้ของพรรคการเมืองเหล่านี้และนักการเมืองเหล่านี้ เป็นเพราะพวกเขามีกองเชียร์ มีกองหนุน
ประชาชนเรานั่นแหละ ที่เป็นกองเชียร์ เป็นกองหนุน
หลายคน (ขอย้ำว่าหลายคน แต่ไม่ใช่ทุกคน) เป็นกองเชียร์ เป็นกองหนุน แบบไม่มีเงื่อนไข แบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่ยึดถือเอาความถูกต้องชอบธรรมเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ
บ้างเลือกแล้วว่าจะสนับสนุนฝ่ายทักษิณ บ้างเลือกแล้วว่าจะสนับสนุนฝ่าย คสช. จะทำถูกทำผิดอย่างไรก็ไม่สนใจ มิหนำยังช่วยแก้ต่างในสิ่งที่ทำผิดให้เสียอีก คุณภาพของพรรคการเมืองและนักการเมืองบ้านเราจึงเป็นอย่างที่เห็น
จากการออกแบบของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเมือง หลังการเลือกตั้ง รัฐบาลจะต้องเป็นรัฐบาลผสม และนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่เป็นภาพที่ทุกคนมองเห็น ถ้าไม่มีองค์กรอิสระองค์กรไหนกินดีหมีกล้าชี้ว่าพลเอกประยุทธ์ขาดคุณสมบัติในการเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี
แต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะโอกาสที่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยมีค่อนข้างสูง เว้นแต่จะมีงูเห่าเกิดขึ้นอีก แต่กระนั้นรัฐบาลก็จะบริหารอะไรไม่ค่อยได้ และจะอยู่ไม่ได้นาน จนต้องยุบสภา หรือเกิดความวุ่นวายทางการเมือง จนมีคนคิดสั้นนำรถถังออกมาวิ่งบนถนนอีก
ถ้าเป็นกรณีหลัง ก็อย่ามาชี้นิ้วว่าคนโน้นคนนี้หนักแผ่นดินนะครับ เพราะเวลานั้น ไม่มีอะไรหนักไปกว่ารถถังอีกแล้ว !
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
สำนักที่ปรึกษาร้อยชักสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี