วันที่ ๒๙ ตุลาคมนี้ โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบฝายน้ำล้น ไซยะบุรี ซึ่งตั้งอยู่กลางลำน้ำโขง แขวงไซยะบุรี สาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชนลาว (ห่างจากหลวงพระบางมาทางทิศใต้ประมาณ ๘๐ กิโลเมตร และห่างจากปากแม่น้ำโขง ที่เวียดนามประมาณ ๑,๙๐๐ กิโลมตร ได้ฤกษ์เปิดอย่างเป็นทางการแล้วครับ
โครงการนี้ใช้เวลาก่อสร้าง ๘ ปี ๒๕๕๕ – ๒๕๖๒
งบลงทุนทั้งหมด ๑๓๕,๐๐๐ ล้านบาท (รวมงบลงทุนสิ่งแวดล้อม ๑๙,๐๐๐ ล้านบาท)
ผู้ถือหุ้น คือบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ๓๗.๕% บริษัท นที ซินเนอร์ยี่ จำกัด ๒๕% รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว ๒๐% บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน ) ๑๒.๕% บริษัท พีที จำกัด ๕%
กำลังการผลิต ๑,๒๘๕ เมกะวัตต์ สามารถผลิตพลังไฟฟ้าได้ ๗,๓๗๐ ล้านหน่วยต่อปี ภายในโรงไฟฟ้าจะมีกังหันน้ำผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด ๘ เครี่อง ชุดแรก ๗ เครี่องมีกำลังการผลิต ๑๗๕ เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้าส่งผ่านระบบส่งไฟฟ้าขนาด ๕๐๐ กิโลโวลด์ เพื่อเชื่อมโยงกับระบบสายส่งการไฟฟ้าผ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และชุดกังหันผลิตไฟฟ้าที่สองอีก ๑ เครื่อง กำลังการผลิต ๖๐ เมกะวัตต์ที่จะผลิตและจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบไฟฟ้าขนาด ๑๑๕ กิโลโวลด์ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ออกแบบก่อสร้างในรูปแบบฝายน้ำล้น ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลเข้าเท่ากับปริมาณน้ำที่ไหลออก ไม่มีการกักเก็บน้ำ หรือเบี่ยงน้ำออกจากแม่น้ำโขง
ดังนั้นปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโครงการจะเป็นไปตามปริมาณน้ำที่มีตามธรรมชาติ เพราะไม่มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เหมือนเขื่อนกักเก็บน้ำทั่วๆไป หลังการก่อสร้างเสร็จและเริ่มผลิตไฟฟ้าจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงสูงขึ้นเฉพาะบริเวณด้านเหนือน้ำจากที่ตั้งโครงการ ฯ ไปถึงตอนใต้น้ำของเมืองหลวงพระบาง โดยมีปริมาณน้ำใกล้เคียงกับระดับน้ำสูงสุดในฤดูน้ำหลากตามธรรมชาติ
ส่วนตอนล่างหรือท้ายน้ำของโครงการ แม่น้ำโขงจะมีระดับน้ำปกติตามธรรมชาติ ถ้าท้ายน้ำจากไซยะบุรีน้อย ก็เพราะน้ำที่มาจากหลวงพระบางน้อย หรือแม่น้ำสาขาที่ไหลลงแม่น้ำโขงไม่ว่าจะบนแผ่นดินลาว หรือแผ่นดินไทยมีน้อยลง
ธรรมชาติผิดไปจากเดิมหรือไม่ ?
แน่นอน ธรรมชาติก็ต้องเปลี่ยนไป การยกระดับน้ำให้สูงขึ้น น้ำก็ต้องสูงขึ้นมา ต้องอพยพผู้คนที่อยู่ริมฝั่งออก ต้องหาที่อยู่อาศัย หาที่ทำกิน ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่สูงขึ้น
ต้องเข้าใจว่าน้ำโขงมาจากไหน ?
น้ำโขงมาจากปริมาณน้ำไหลในลำน้ำโขงที่มีอยู่แล้วหนึ่ง ในลาวที่มาจากพื้นที่รับน้ำฝนหนึ่ง จากเขื่อนในจีนที่มีผลกระทบมากที่สุด และปริมาณน้ำโขงในช่วงมาถึงไซยะบุรีนั้น ยังขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำเพิ่มเติมจากลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงอีกด้วย
ถ้าหากน้ำโขงมีปริมาณน้อยลงในบางปีที่หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ไม่ใช่โรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ไซยะบุรีเป็นต้นเหตุ เพราะน้ำโขงที่ไหลมาจากหลวงพระบางมาจำนวนเท่าไร ก็ต้องไหลผ่านโรงไฟฟ้าเท่านั้น (หลังจากที่ยกระดับน้ำสูงให้ใกล้เคียงกับระดับน้ำสูงสุดในฤดูน้ำหลากเท่านั้น
โรงไฟฟ้าไซยะบุรี ทำให้น้ำแล้งจริงหรือ ?
ตรงนี้ต้องดูตัวเลข ปริมาณน้ำจากข้อมูล วัดที่สถานีวัดน้ำหลวงพระบาง ปี ๒๕๖๒ เดือนกรกฎาคม วัดได้ ๑,๔๒๘ ลบม ต่อวินาที (เป็นช่วงที่การก่อสร้างกำลังจะแล้วเสร็จ)
ผู้คนทั้งหลาย สื่อมวลชน ต่างชี้ไปที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีทั้งนั้นว่า เป็นตัวการที่ทำให้ลำโขงขอดเขิน
ทั้งที่เดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ ปริมาณน้ำที่วัดได้จากสถานีเดียวกันวัดได้ ๑,๒๙๗ ลบม ต่อวินาที ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้ำที่น้อยที่สุด แม้ลำน้ำโขงจะมีน้ำน้อยจนสามารถเดินข้ามได้ ก็โทษได้แต่เทวดาฟ้าดิน
เพราะโรงไฟฟ้าไซยะบุรี ยังไม่เกิด
แม่น้ำโขงนั้นไหลมาจากธิเบต (เขตปกครองพิเศษของจีน) ๔,๓๕๐ กิโลเมตร ไหลผ่านจีน พม่า ลาว ไทย เวียดนาม จีนสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแล้ว ๘ เขื่อน ตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ โดยที่ไม่ได้มีการปรึกษากับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ท้ายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น พม่า ลาว ไทย เวียดนาม แต่อย่างใดว่าจะมีผลกระทบ อย่างใด
ตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ ที่จีนสร้างเขื่อนมันว่าน (เขื่อนแรก) มาถึงวันนี้จีนสร้างเขื่อนที่ ๘ แล้ว มีเขื่อน ดาเชาฉาน เขื่อนเซี่ยววาน เขื่อนจิ่งหง ฯลฯ
การสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไม่ว่าจะที่จีน หรือสาธารณรัฐประชาธิไตยประชาชนลาว ที่ไซยะบุรี และที่กำลังจะสร้างเป็นแห่งที่สองที่หลวงพระบาง ย่อมมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และฝ่ายที่คัดค้าน ซึ่งก็มีอยู่เช่นนี้ทั่วโลก ไม่ได้มีเฉพาะที่จีน และที่ลาว ประเทศ ยุโรป อเมริกาที่มีแม่น้ำและภูมิประเทศเหมาะสมพอจะสร้างได้เขาก็ทำ เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกปี ทุกประเทศทั่วโลก
ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่คณะกรรมการลุ่มแม่น้ำโขงจะต้องแสดงบทบาทอย่างจริงจังให้ประชาชาติที่ใช้ลำน้ำนานาชาติร่วมกันสายนี้ ปรึกษาหารือกันก่อนลงมือทำโครงการใดๆ รวมทั้งโครงการที่เคยสร้างขึ้นมาแล้วกับลำน้ำสายนี้ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน และลดความขัดแย้ง จากทฤษฎีกำปั้นใหญ่ จะทำอะไรก็ได้เช่นทุกวันนี้
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี