ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นปีหนูไฟเสียแล้ว เพราะตั้งแต่ช่วงท้ายปี ชาวโลกใจหายใจคว่ำกับไฟป่าที่โหมเปลวเพลิงเผาผลาญป่าออสเตรเลียและดูเหมือนว่าจะไม่หยุดลงง่ายๆ  โลกสูญเสียสัตว์เฉพาะถิ่นหลายร้อยล้านตัว โดยเฉพาะจิงโจ้และโคอาล่าถูกไฟครอกตายเกลื่อนแผ่นดินดาวน์อันเดอร์ ไม่เพียงเฉพาะสัตว์ทั้งหลาย แต่ออสซี่หลายหมื่นคนต้องสูญเสียบ้านสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะไฟป่าเช่นกัน

สถานการณ์เลวร้ายลากยาวมาถึงปลายปี ขณะที่กำลังจะย่างเข้าสู่ปีใหม่ พลันชาวโลกก็ต้องผงะ หันไปมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิรักแล้วตื่นตระหนกสุดชีวิตกันทั้งโลก เพราะสิ่งที่ลุงแซมทำลงไปนั้นเลวร้ายถึงขนาดก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้เลยทีเดียว

ก่อนหน้าที่ลุงแซมกับอิหร่านจะเป็นไม้เบื่อไม้เมาอย่างทุกวันนี้ สองชาติเคยรักใคร่กันดี  เพราะสมัยก่อนโน้น ลุงแซมซี้กับกษัตริย์แห่งอิหร่าน ที่ยินยอมให้ลุงแซมเข้าไปสูบทรัพยากรน้ำมันของอิหร่านได้อย่างบันเทิง จนถึง ปี 1979 เกิดการปฏิวัติอิหร่าน เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นระบอบสาธารณรัฐอิสลาม ทำให้พระเจ้าชาห์ต้องวิ่งพระมัสสุปลิวลี้ภัยไปซุกจั๊กกะแร้ลุงแซม  แน่นอนว่า..อิหร่านยึดขุมทรัพย์บ่อน้ำมันที่ลุงแซมเคยสูบเอามาเป็นของประชาชนชาวอิหร่าน เล่นเอาลุงแซมกัดกรามกรอดๆ

ต่อมามีการขอให้ส่งตัวพระเจ้าชาห์คืน แต่ลุงแกไม่คืน เลยมีการจับนักการทูตอเมริกัน 52 คนเป็นเชลย ซ้ำร้ายแม้พระเจ้าชาห์ทรงพระเด็ดสะมอเร่ในปี 1980 ก็ยังไม่ยอมปล่อยเชลย ร้อนถึงเยอรมันต้องมากระซิบกระซาบเจรจาความ  อิหร่านจึงยอมปล่อยเชลยในปี 1981 จากนั้นความสัมพันธ์ของสองประเทศก็เข้าข่าย “ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ”

ลุงแซมนั้นหาเรื่องโจมตีอยู่แล้ว เลยกล่าวหาว่าอิหร่านลักลอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แล้วจัดหนักด้วยการคว่ำบาตร โดยไม่ลืมลากลูกหาบลุงแซมอย่างสหประชาชาติและสหภาพยุโรปมาร่วมกระทืบอิหร่านด้วย แม้จะโดนกระทืบจนอ่วมจากบรรดาพี่เบิ้มโลก แต่อิหร่านก็ยักไหล่ไม่แคร์  จนโอบาม่าลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านได้สำเร็จ  แลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตร ตอนนั้นชาวโลกถอนใจโล่งอกกันทั่วหน้า

แต่พอสิ้นสมัยโอบาม่า ตาลุงผมเป๋จัดหนักอิหร่านทันที แถมหนักกว่าเก่าอีกต่างหาก  ด้วยการอ้างว่า อิหร่านละเมิดข้อตกลง แอบไปพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อีก จึงขอถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ แล้วประกาศคว่ำบาตรอิหร่านแบบนักเลงอันธพาล คือ ห้ามใครคบอิหร่าน ถ้าใครคบค้ากับอิหร่าน ก็ห้ามคบค้าลุงแซม นั่น...มาเฟียชัดๆ นะลุง

หลังจากนั้นทั้งสองประเทศก็ตะโกนด่ากันไปมา จนกระทั่งหลังคริสต์มาสที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ  มือลึกลับยิงจรวดเข้ามาในฐานทัพอิรักแห่งหนึ่งใกล้เมืองเคอร์คุก โดนเจ้าหน้าที่สัญญาจ้างพลเรือนของอเมริกาตายไปหนึ่งคน  

ลุงแซมก็คือลุงแซม เล่นใหญ่รัชดาลัยด้วยการระดมยิงทางอากาศ เพื่อถล่มกลุ่มติดอาวุธคาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ เป็นการเอาคืนของกองกำลังติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับอิหร่าน โดยไม่ขออนุญาตจากทางการอิรักก่อน  จะว่าไม่ขอก็ไม่เชิงนะ เพราะบอกล่วงหน้าก่อนแค่ครึ่งชั่วโมง พออิรักได้ฟังก็ตกใจแทบสิ้นสติ ขอร้องว่า พี่จ๋า อย่ายิง แต่ลุงแซมไม่สนใจฟัง คงถือว่ากูเป็นพี่เบิ้มและเป็นเจ้าโลก   ผลคือตายไป  25 ราย บาดเจ็บ 55 คน

นอกจากรัฐบาลอิรักจะยั๊วะแล้ว  มวลมหาประชาชนอิรักก็หัวร้อนเหมือนกัน เลยแห่ไปบุกสถานทูตอเมริกา  แล้วจุดไฟเผาป้อมยามตรงทางเข้าสถานทูต ขว้างปาก้อนหินใส่ประตู พลางตะโกนว่า "ไม่เอาอเมริกา ไม่เอาทรัมป์" ตะโกนไล่ทหารอเมริกาออกไปจากอิรัก  นอกจากนี้ยังเขียนบนผนังว่า "Soliemani is our leader" (โซไลมานีคือผู้นำของเรา)

พลตรีกัสเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ (Quds Forces) ซึ่งเป็นกองกำลังลับที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอิหร่านและในตะวันออกกลาง  ถือเป็นเบอร์สองรองจากผู้นำอิหร่านก็ว่าได้

เหตการณ์นี้เกิดขึ้นในวันส่งท้ายปีเก่าพอดีคือ วันที่ 31 ธันวาคม  ตาลุงผมเป๋ออกมาแสดงความกวนตีนสุดติ่ง ด้วยการทวีตบอกโลกว่า อิหร่านต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายทุกอย่างที่เกิดขึ้น และต้องจ่ายค่าตอบแทนราคาแพง  นี่ไม่ใช่คำเตือน  แต่คือคำขู่โว้ย จากนั้นก็ตบท้ายว่า “สุขสันต์วันปีใหม่” เออ..เอาซี้ ตะโกนด่าอิหร่านลั่นบางแล้วบอกสวัสดีปีใหม่

ในช่วงเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่กัน  เช้ามืดวันศุกร์ที่ 3 มกราคม ตาลุงผมเป๋เล่นบทโหด สั่งเด็ดหัวพลตรีกัสเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ด้วยโดรนติดอาวุธ ใกล้กับท่าอากาศยานแบกแดด จนร่างแหลกเละ  เหลือไว้เพียงแหวนให้ดูต่างหน้าเท่านั้น   หลังได้รับแจ้งว่าพลตรีกัสเซ็ม โซไลมานีเสียชีวิตแล้ว ทรัมป์ก็ทวิตภาพธงชาติอเมริกันโดยไม่เขียนอะไรเลย

 รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านล้งเล้งลั่นโลก ประณามการโจมตีของอเมริกาว่าเป็นก่อการร้ายระหว่างประเทศ พร้อมเตือนว่าไอ้ลุงแซม ยูจะต้องได้รับผลที่ตามมาอย่างสาสมแน่นอน  ในขณะที่ลุงผมเป๋ยังแรงได้อีก ด้วยการทวิตว่า พลตรีกัสเซ็ม โซไลมานี สมควรตายไปตั้งนานแล้ว เฮ้ย..ลุง พูดแบบนี้เกินไปนะ ถ้าพลตรีคนนี้ไม่มีความดีงามอะไรเลย ทำไมคนอิรักอิหร่านถึงรักและอาลัยแกเป็นล้านๆ คนล่ะ คิดสิ..คิด ฆ่าคนแล้วยังมีหน้าไปหยามจิตใจคนอื่นอีก แล้วไอ้ที่อ้างความชอบธรรมในการฆ่าเนี่ย มาจากฝั่งลุงแซมทั้งนั้น

อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านประกาศกร้าวว่า  จะล้างแค้น "อาชญากร" ที่ฆ่าโซไลมานี  ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ 3 วัน และแต่งตั้งพลจัตวาเอสมาอิล กานี รองผู้บัญชาการกุดส์ ขึ้นรับตำแหน่งผู้บัญชาการแทนทันที

สถานการณ์ในอิรักสับสนวุ่นวายมากเวลานี้ ลุงแซมประกาศให้พลเมืองอเมริกันเผ่นหนีออกจากอิรักทันที แล้วส่งทหารเข้าไปเสริมอีกสามพันนาย ส่วนไทยเราก็เตือนว่า ไม่จำเป็นอย่าเพิ่งไปอิรัก เพราะสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ

ที่หลอนสุดๆ เห็นจะเป็นการชักธงแดงเหนือยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์  นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการชักธงแดงเหนือสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์    สัญลักษณ์การชักธงแดงขึ้นสู่ยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์จามคาราน ( Jamkaran Mosque ) ถือเป็นสัญลักษณ์ที่บอกว่า จะมีการแก้แค้นให้กับผู้ที่เสียชีวิต  ผืนธงมีข้อความอักษรอาหรับว่า يالثارات الحسين คือ สัญลักษณ์ที่บอกว่า ตราบใดการล้างแค้นหรือหนี้เลือดยังมิได้ชำระ จะไม่มีการลดธงผืนนี้ลง

ถึงขั้นนี้แล้ว ตาลุงผมเป๋ยังขู่ฟ่อว่า อเมริกาซื้ออาวุธมาเพียบเลยเว้ย จ่ายไปตั้งสองล้านล้านดอลลาร์แน่ะ เพราะฉะนั้นอย่าได้แหลมเด็ดขาด เพราะอาวุธกูทั้งใหญ่ยาวทั้งเอี่ยมอ่อง ถ้าคิดลองดีแม้แต่นิดเดียว กูจะลองของใหม่ ประเคนอาวุธใหม่ๆ ใส่ซะเลย แล้วจะจัดหนักยุทธศาสตร์สำคัญ 52 จุดทันที โดยไม่ลังเล หากคิดแก้แค้นเอาคืนให้พลตรีกัสเซ็ม โซไลมานี เข้าใจไหมวะ อิหร่าน

บอกตรงๆ เลยว่านาทีนี้ชาวโลกหนาวกันทั่วหน้า เพราะไอ้คู่นี้ตีกันทีไร น้ำมันขึ้นราคาทุกที สุดท้ายคนซวยคือชาวโลกที่ต้องควักเงินจ่ายอย่างไม่มีทางเลือก  และที่ซวยหนักกว่าใครคืออิรัก  โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าตาลุงผมเป๋ใช้วิธีนี้หาคะแนนเสียงให้บรรดาอเมริกันคลั่งชาติหันมาเทคะแนนเลือกตนในศึกเลือกตั้งปี 2020 นั่นแหละ นับว่าเป็นวิธีหาเสียงที่สกปรกบัดซบเอาการ