วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ออนไลน์ / แก้ผ้าลุงแซม
แก้ผ้าลุงแซม

แก้ผ้าลุงแซม

โดย...เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
วันอังคาร ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563, 02.00 น.
อเมริกาเมื่อห่าลง

ดูทั้งหมด

  •  

 


ขอหยิบยืมชื่อนวนิยายของนักเขียนรางวัลโนเบลชื่อกาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ ในชื่อเดิมภาคภาษาไทยว่า “เสน่หาเมื่อห่าลง” มาดัดแปลงเป็นชื่อหัวข้อคอลัมน์วันนี้ ปล.ขอโฆษณานิดหนึ่งว่าเรื่องนี้ได้รับการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว ออกแนวตลกร้ายตามแบบงานเขียนละตินอเมริกา

นาทีนี้อเมริกาอ่วมทั้งประเทศ  ยอดล่าสุดเมื่อตอนเที่ยงวันอาทิตย์ตามเวลาในอเมริกาคือ ยอดป่วยสะสมอยู่ที่ 322,995 ราย ตาย 9,149 ราย รอด 16,579 ราย แต่ที่สาหัสที่สุดคือรัฐนิวยอร์ก

รัฐที่มียอดป่วยและตายสูงคือรัฐนิวยอร์กล่อไป 122,031รายตายไป4,159 ราย  (ยอดเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน)  เห็นยอดคนป่วยคนตายแล้ว น่ากลัวเหลือเกินอันดับสอง รัฐนิวเจอร์ซี่ ซึ่งเป็นรัฐพี่น้องกับนิวยอร์ก เพราะคนรัฐนี้ไปทำงานในแมนฮัตตันกันเยอะมาก อันดับสามรัฐมิชิแกน ซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไปว่าทำไมถึงติดเชื้อขนาดหนักแบบนี้ ทั้งที่พรมแดนแทบไม่ติดรัฐไหนเลย เพราะอยู่ทางตอนเหนือโอบล้อมด้วยทะเลสาบมิชิแกน อันดับสี่แคลิฟอร์เนียอันดับห้าน่าสนใจมาก เพราะทะลุทะลวงแซงทุกรัฐติดโผ นั่นคือรัฐหลุยส์เซียน่าเหตุที่แพร่ระบาดกันจนพุ่งลิ่วคืองานมาร์ดิกราส์ อันถือเป็นสุดยอดงานใหญ่ของประเทศสนุกสุดเหวี่ยงเขวี้ยงลูกปัดใส่กันเบียดเสียดเต้นรำร้องตะโกน  จนกลายมาเป็นอันดับห้าวันนี้

รัฐนิวยอร์กมียอดคนป่วยคนตายสูงมากจนไม่สามารถจัดการกับศพได้  ต้องเอารถขนตู้เย็นยาวๆ ใหญ่ๆ ติดแอร์มาบรรจุศพแทน แต่ละโรงพยาบาลในนิวยอร์กจะมีรถอย่างที่บ้านเราเรียกว่ารถคอนวอยยาวๆ เรียงรายเต็มโรงพยาบาล ข้างในมีศพที่ห่อพลาสติกห่อผ้าขาววางเรียงกันเป็นทิวน่าสยดสยอง เพนตากอนต้องเตรียมถุงใส่ศพให้ได้จำนวนแสนถุงเพื่อรองรับคนตายจากโควิด 19 แค่คิดก็น้ำตาจะไหล ในจำนวนนี้มีคนไทยในอเมริกาเสียชีวิตไปแล้ว 3 คน สองคนแรกทำงานในร้านอาหาร คนที่สามเป็นถึงระดับรองบรรณาธิการสำนักข่าวเอพี ขอให้ดวงวิญญาณทั้งสามท่านสู่สคติ

เรือโรงพยาบาลเคลื่อนที่ USNS เมอร์ซี เข้าประจำการที่นิวยอร์ก ซึ่งเรือลำนี้จะรับเฉพาะผู้ป่วยที่ไม่ได้ติดโควิด เพื่อแยกออกจากโรงพยาบาลในเมือง  ใครที่เคยไปนิวยอร์กคงจำได้ว่าสวนเซ็นทรัลพาร์กนั้นงดงามเพียงไรในฤดูร้อน แต่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปเสียแล้ว เพราะมีการตั้งเตียงสนามเพื่อรองรับคนป่วยในนิวยอร์ก

ท่ามกลางศพเรียงรายมากมายจนล้นทุกรัฐ มีทารกวัยเพียงแค่ 6 อาทิตย์เสียชีวิตในอเมริกา นับเป็นผู้เสียชีวิตเพราะโควิดที่อายุน้อยที่สุดในโลก การระบาดในอเมริกานั้นน่ากลัวมาก เพราะบางวันติดเชื้อเพิ่มถึงสามหมื่นคน และตายราวใบไม้ร่วง บางวันตายมากกว่าพันคน

ทำเนียบขาวออกมาคาดการณ์สถานการณ์โควิดในอเมริกาว่าอาจมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดอยู่ระหว่าง 100,000 ราย-240,000 ราย แม้จะมีการล็อคดาวน์แทบทุกรัฐ แต่ดูเหมือนอเมริกันก็ยังไม่ตระหนักสำนึกอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องดูอื่นดูไกล ไปรษณีย์แถวบ้านคนเขียนในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งที่รัฐอินเดียน่า ไม่ใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือ มีการไอใส่กองจดหมายเพราะความประมาท เล่นเอาคนเขียนอึ้ง เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงาน ก็มีคำตอบว่า ทางหน่วยงานไม่มีนโยบายแจกหน้ากากอนามัยและถุงมือให้ไปรษณีย์

แม้จะล็อคดาวน์เมืองและรัฐ แต่ชาวบ้านชาวช่องในอเมริกาก็ยังขับรถไปซุปเปอร์มาร์เก็ตกันอย่างสนุกสนาน  แถมพาลูกหลานไปเดินเล่นในนั้นด้วย สุดท้ายหลายห้างออกประกาศว่าห้างไม่ใช่ที่วิ่งเล่นของลูกหลานและไม่ใช่ที่มาเวเคชั่นของครอบครัวบางห้างจำกัดอายุว่าต่ำกว่า 16 ห้ามเข้าวอลมาร์ทเริ่มจำกัดจำนวนลูกค้าเพราะแออัดมากเกินไป               อเมริกันจูงลูกหลานเดินกันโครมๆเนื่องจากเดอะมอลล์ปิดเลยมาเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตแทน

ไม่เพียงแต่ห่าจะลงประเทศทุกหย่อมหญ้าทุกรัฐทุกพื้นที่ โรคระบาดยังจัดหนักไปถึงเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ซึ่งจอดอยู่ที่เกาะกวมด้วย พบลูกเรือติดเชื้อไวรัสแล้วทั้งสิ้น 93 นาย จากทั้งหมด 4,800 นาย

เบร็ตต์ โครเซียร์ ผู้บังคับการเรือส่งจดหมายแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาว่าเรือ ธีโอดอร์ รูสเวลต์ กำลังมีการแพร่กระจายของไวรัสอย่างควบคุมไม่ได้และขอให้เพนตากอนมีคำสั่งอย่างเด็ดขาดลงมาเพื่อช่วยลูกเรือให้ได้รับการกักกันโรค

ท่ามกลางภาวะห่าลงอเมริกาแบบนี้ ตอนแรกอเมริกันผู้ถูกปลูกฝังสั่งสอนมาว่า หากไม่ป่วย ไม่ต้องใส่หน้ากาก ที่เคยทำหน้าเยาะเย้ยดูถูกคนเอเซียที่ใส่หน้ากากอนามัยกันครึ่งโลกว่าตื่นกลัวเกินเหตุ ตอนนี้หันมาหาหน้ากากอนามัยกันจ้าละหวั่น เพราะศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) กำลังเตรียมออกคำแนะนำใหม่เกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย  เพื่อป้องกันตัวเองจากโควิด 19 มาถึงตอนนี้จะวิ่งหาหน้ากากอนามัยคงไม่ทันแล้ว  ขาดตลาดตั้งแต่เดือนมกราคมโน่นแหละ ตั้งแต่ช่วงระบาดในอู่ฮั่น เพราะคนจีนขนซื้อส่งกลับจีนหมด

ส่วนตาลุงผมเป๋ออกมาพูดเท่ๆ แต่น่าถีบว่า แนะนำให้ชาวอเมริกาใส่หน้ากากผ้านะจ๊ะ  แต่ตัวเองนั้นขอไม่ใส่ดีกว่า  คือลุงคิดว่าการใส่หน้ากากจะทำให้หล่อน้อยลงสินะ คิดสิคิด..คิดถึงสาวกผู้สนับสนุนลุงบ้าง พวกนี้พร้อมจะเดินเชื่องๆ ตามผู้นำอย่างลุง ทำตัวให้เป็นแบบอย่างเสียบ้างเถอะ 

พอถึงจุดนี้ ชาวโลกเลยมีคำถามว่า ทำไมประเทศที่เป็นที่หนึ่งเรื่องการคัดกรองโรคอย่างอเมริกา ถึงกลายเป็นแดนวิกฤติจนตายกันเป็นเบือ คำตอบคือ ความประมาทและความไม่นำพาของรัฐบาลกลาง  ในช่วงแรกที่พบคนป่วยเพียงแค่ 11 คนในอเมริกา หน่วยงานด้านสาธารณสุขเตือนรัฐบาลว่าให้เตรียมตัวรับมือกับโควิด 19 ดีๆ เพราะดูท่าแล้วอเมริกาคงไม่รอดพ้นจากโรคนี้ แม้ตอนนี้จะมีแค่ 11 คนที่ติดเชื้อก็ตาม จึงควรตรวจหาคนป่วยในวงกว้าง  จึงขอให้รัฐบาลผลิต “ชุดตรวจ” และ “น้ำยาตรวจ” ให้มากที่สุด อีกทั้งต้องตรวจหาผู้ติดเชื้อ และแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนทั่วไป        

แต่รัฐบาลไม่รู้ไม่ดูไม่แคร์  แถมทำตรงข้ามกับหน่วยงานสาธารณสุขเสนอแนะ ด้วยการออกกฎ “จำกัดวง” ให้มีการตรวจเชื้อน้อยสุด  เน้นเฉพาะผู้ที่มีประวัติการเดินทางจากอู่ฮั่นและผู้สัมผัสใกล้ชิดเท่านั้นที่สามารถตรวจเชื้อได้    เลยไม่ได้มีการผลิตชุดตรวจเพิ่มตามข้อเสนอของหน่วยงานสาธารณสุข

ตอนแรก ตาลุงผมเป๋ออกมายิ้มแก้มปริอวดจำนวนคนติดเชื้อว่ามีแค่ 11 คนเองในอเมริกา แต่แท้จริงแล้วนั่นคือยอดภูเขาน้ำแข็ง  ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา อเมริกันติดเชื้อไวรัสกันทั่วหน้าโดยไม่รู้ตัว  เพราะไม่มีใครไปตรวจโควิด เพราะคิดว่าตัวเองไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง อีกทั้งค่าตรวจนั้นแพงมหาศาลจนน่าขนลุก ใครที่มีประกันก็ไม่อยากตรวจ เพราะประกันไม่ยอมจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด นี่ยังไม่นับพวกไม่มีประกันจำนวนหลายล้านคนยิ่งไม่ตรวจ เพราะไม่มีเงินไปตรวจ

ชาวอเมริกันกลายเป็นพาหะแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว  จำได้ว่าช่วงแรกนั้นอเมริกาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไวรัสโคโรน่าไม่ได้น่ากลัวอะไร เพราะไม่ต่างจากโรคไข้หวัด คนเป็นไข้ตายมากกว่านี้ตั้งเยอะ หรืออ้างว่าไอ้พวกตายเพราะอุบัติเหตุมากกว่าตายเพราะโควิด ต้นตอการพูดเพ้อเจ้อแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ตาลุงผมเป๋นั่นแหละนี่พูดตลอดเวลา หนักกว่านั้นลุงแกพล่ามว่า พออากาศอุ่นขึ้น โรคระบาดจะหายไปเอง แถมฮึดฮัดไม่เห็ฯด้วยกับนโยบายล็อคดาวน์

ถึง CDC จะเจ๋งสุดแล้วในเรื่องการรับมือโรคระบาดในอเมริกา แต่เจอตอคือไม่มีอำนาจอนุมัติให้ห้องแลบทุกแห่งในประเทศประเมินผลได้เอง  แต่ต้องให้ FDA เป็นผู้อนุมัติเท่านั้น กว่าจะรู้ผลตรวจต้องรอตั้ง 6 วัน ซึ่งบางคนตายก่อนที่ผลตรวจจะออกมาเสียอีก  ทั้งหมดทั้งมวลคือที่มาของภาวะห่าลงอเมริกา

                                                .               ..................................................

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:02 น. 'เลขาอาชีวะ'นำทัพ'Fix It-จิตอาสา' ฟื้นฟู'อยุธยา'หลังน้ำลด
21:48 น. 'พ.อ.กิตติพงษ์'เดือด! ซัดพวกวิจารณ์กองทัพ ไม่เคยเหยียบสนามจริง อย่าริเป็นกูรู
21:25 น. 'ในหลวง' ทรงรับ 'พลทหาร เทิดศักดิ์' ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมพระราชทานน้ำหลวง-เพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
21:18 น. 'เงือกเนย'ลุ้นสุดใจ!คว้าทองผีเสื้อ200ม.ซีเกมส์
21:04 น. ประวัติศาสตร์!ขี่ม้าโปโลไทยคว้าทองแรกซีเกมส์
ดูทั้งหมด
ทนายแก้ว เสียใจอย่างสุดซึ้ง หากเป็นไปตามข่าว ผิดถึงขั้นประหารชีวิต
จับตา พายุลูกใหม่ กำลังก่อตัวช่วง 8-10 ธ.ค. บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 5-11 ธ.ค.68
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 7-13 ธ.ค.68
ฮุน เซน กินหรูอยู่สบาย โพสต์ภาพเที่ยวทะเลในสีหนุวิลล์ ขณะดำรงตำแหน่งรักษาการประมุข
ดูทั้งหมด
Wealth Gap 2030 : ทำไมช่องว่างความมั่งคั่งกำลังขยายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์
สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเขมร
เมื่อระบบธรรมาภิบาลไม่อาจป้องกันอำนาจนอกระบบได้
จบที่ไม่จบ?
ไทยป้องกันตนเอง
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'พ.อ.กิตติพงษ์'เดือด! ซัดพวกวิจารณ์กองทัพ ไม่เคยเหยียบสนามจริง อย่าริเป็นกูรู

'เงือกเนย'ลุ้นสุดใจ!คว้าทองผีเสื้อ200ม.ซีเกมส์

‘รัฐสภา’ไฟเขียว ‘สูตร20หยิบ1’เลือก‘ผู้ร่างรธน.’ ด้าน‘พริษฐ์’แจงป้องผูกขาดเสียงข้างมาก

ประวัติศาสตร์!ขี่ม้าโปโลไทยคว้าทองแรกซีเกมส์

แชมป์รอบ30ปี! ฮอกกี้หญิงไทยคว้าทองซีเกมส์

วาเนสซ่า เปิดใจ หลังรับหน้าที่ถือป้ายกัมพูชาในพิธีเปิดซีเกมส์ 2025

  • Breaking News
  • \'เลขาอาชีวะ\'นำทัพ\'Fix It-จิตอาสา\' ฟื้นฟู\'อยุธยา\'หลังน้ำลด 'เลขาอาชีวะ'นำทัพ'Fix It-จิตอาสา' ฟื้นฟู'อยุธยา'หลังน้ำลด
  • \'พ.อ.กิตติพงษ์\'เดือด! ซัดพวกวิจารณ์กองทัพ ไม่เคยเหยียบสนามจริง อย่าริเป็นกูรู 'พ.อ.กิตติพงษ์'เดือด! ซัดพวกวิจารณ์กองทัพ ไม่เคยเหยียบสนามจริง อย่าริเป็นกูรู
  • \'ในหลวง\' ทรงรับ \'พลทหาร เทิดศักดิ์\' ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมพระราชทานน้ำหลวง-เพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ 'ในหลวง' ทรงรับ 'พลทหาร เทิดศักดิ์' ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมพระราชทานน้ำหลวง-เพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ
  • \'เงือกเนย\'ลุ้นสุดใจ!คว้าทองผีเสื้อ200ม.ซีเกมส์ 'เงือกเนย'ลุ้นสุดใจ!คว้าทองผีเสื้อ200ม.ซีเกมส์
  • ประวัติศาสตร์!ขี่ม้าโปโลไทยคว้าทองแรกซีเกมส์ ประวัติศาสตร์!ขี่ม้าโปโลไทยคว้าทองแรกซีเกมส์
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ราชาอินเดียนแดงผู้ถูกทรยศ

ราชาอินเดียนแดงผู้ถูกทรยศ

9 ธ.ค. 2568

ฆาตกรรมที่นำไปสู่ละครบรอดเวย์

ฆาตกรรมที่นำไปสู่ละครบรอดเวย์

2 ธ.ค. 2568

Gone with the wind..วิมานลอยและความจริงลวง

Gone with the wind..วิมานลอยและความจริงลวง

25 พ.ย. 2568

เสียงร้องไห้ไม่เคยดังกว่าเสียงปืน

เสียงร้องไห้ไม่เคยดังกว่าเสียงปืน

18 พ.ย. 2568

ปลดมงเพราะหลงรักเธอ

ปลดมงเพราะหลงรักเธอ

11 พ.ย. 2568

จากนรกสู่ซีรีย์...ลูซิเฟอร์

จากนรกสู่ซีรีย์...ลูซิเฟอร์

4 พ.ย. 2568

คิดถึงรีดเดอร์ส ไดเจสท์

คิดถึงรีดเดอร์ส ไดเจสท์

28 ต.ค. 2568

มินิทแมน

มินิทแมน

21 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved