สถานการณ์ในอเมริกายังปริ่มน้ำทุกวัน แต่ดูเหมือนมวลมหาอเมริกันจะไม่รู้ไม่ดูไม่แคร์ เวลามีกฎมีคำสั่งให้ใส่หน้ากากก็ก่นด่า แถมบางคนโพสต์คอมเมนต์ในโซเชียลมีเดียว่า ยังไงก็ไม่ใส่หรอก เพราะใส่แล้วดูเหมือนคนโง่ อ่านเจอแล้วกุมขมับ
เมืองที่ผู้เขียนอยู่นั้นเป็นเมืองเล็กๆ ในรัฐอินเดียน่า แต่อยู่ติดชายแดนรัฐมิชิแกน ซึ่งทั้งรัฐมิชิแกนและเมืองของผู้เขียนมียอดคนป่วยคนตายสูงอย่างน่ากลัว แม้ไม่สาหัสเท่านิวยอร์ก แต่ก็ถือว่าน่ากังวล นายกเทศมนตรีมีคำสั่งให้ใส่หน้ากาก หากออกไปยังที่สาธารณะหรือเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต ผู้คนพากันโวยวาย แล้วขับรถไปเมืองข้างๆ ที่นายกเทศมนตรีไม่ออกคำสั่งให้พลเมืองต้องสวมหน้ากากเพื่อซื้อของในห้างร้านเมืองนั้นแทน
มาดูสถานการณ์ล่าสุดตอนนี้ ยอดป่วยสะสมในอเมริกาสูงลิ่ว คือ 1,381,342 ราย ยังคงติดเชื้อกันวันละสองหมื่นห้าถึงสามหมื่นรายเสียชีวิตไปแล้ว 81,545 ราย รัฐที่ครองอันดับหนึ่งถึงห้าก็ยังไม่ทิ้งกันไปไหน นั่นคือ รัฐนิวยอร์กอันดับหนึ่ง รัฐนิวเจอร์ซี่อันดับสอง อันดับสามคือรัฐเพื่อนบ้านผู้เขียนอีกรัฐหนึ่งคือรัฐอิลลินอยส์ อันดับสี่แมสซาจูเซสส์ ส่วนอันดับห้าได้แก่แคลิฟอร์เนีย ที่เริ่มจะร้องเพลงแคลิฟอร์เนียดรีมไม่ออกเสียแล้ว
หลายรัฐหลายเมืองเริ่มเปิดเมืองทั้งที่ไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ โดยเฉพาะเริ่มเปิดห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารให้นั่งดื่มกินกันเสรี เห็นแล้วได้แต่ถอนใจ เพราะไอ้ที่ตายก็ตายไป ส่วนพวกที่เหลือก็ไม่สำเนียกสำนึกอะไรเลย ยังลากปืนออกมาเรียกร้องเสรีภาพทุกวี่วันตามรัฐโน้นรัฐนี้
พวกนี้คิดถึงแต่เสรีภาพของตัวเอง ไม่ยักคิดถึงเสรีภาพในการป้องกันตัวของคนอื่นบ้างเลย ที่น่ากังวลที่สุดคือ อุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างน้ำยาฆ่าเชื้อ กระดาษเปียกฆ่าเชื้อ เจลล้างมือ ขาดตลาดทุกหัวระแหงและทุกเมือง ทำให้ชีวิตในอเมริกาอยู่ยากขึ้นทุกวัน
ท่ามกลางความวิตกกังวลของพลเมืองอเมริกัน อยู่ๆ ลุงผมเป๋ก็ประกาศปังออกมาว่า จะยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อเดินหน้าเต็มที่ทางเศรษฐกิจ แม้ว่าการทำแบบนี้จะทำให้คนตายเกลื่อนก็ตาม แถมบอกด้วยว่าจะยุบทีมงานเฉพาะกิจรับมือไวรัสโคโรนาลงเสียด้วย เล่นเอาชาวบ้านตาเหลือก เพราะนาทีนี้ทุกคนอยากฟังหมอแถลงมากกว่าประธานาธิบดีแถลง
พอลุงทรัมป์แถลงปุ๊บ เสียงด่าก็มาเต็ม ทั้งประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่าเสียงขรมถมเถว่า ตาลุงผมเป๋เอาสุขภาพของประชาชนมาสังเวยความกระสันตัวเองเพื่อเดินเครื่องเศรษฐกิจอีกครั้ง ก่อนศึกเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน โดนด่าหนักเข้า สุดท้ายก็อ้อมแอ้มว่า เออ..ไอไม่ยุบก็ได้วะ
จนถึงตอนนี้ทั้งท่านประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีก็ไม่ยอมใส่หน้ากาก ไม่ว่าจะทั้งหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และแล้วความโกลาหลก็มาเยือนทำเนียบขาว เมื่อทหารรับใช้คนสนิทที่ทำหน้าที่ดูแลใกล้ชิดนั่นรวมถึงดูแลอาหารการกินให้ลุงแกด้วยติดโควิด 19 แม้ตอนนี้ทรัมป์กับไมค์ เพนซ์ที่เพิ่งตรวจเชื้อมาหมาดๆ ยังป้องปากบอกโลกว่า พวกไอยังสบายดี เอาเถอะ..รออีก 14 วันค่อยตรวจอีกรอบก็ได้นะ เผื่อได้ลุ้นโชคบวก
ไวรัสโคโรน่าคงนึกสนุก อยากสั่งสอนตาลุงหัวดื้อที่ไม่ยอมใส่หน้ากาก เลยป่วนต่อ คราวนี้เลยโผไปเกาะโฆษกส่วนตัวของรอง ปธน.สหรัฐฯ เล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับทั้งคู่ เพราะคงหนาวๆ ร้อนๆ กันบ้าง เมื่อผู้ช่วยและทหารรับใช้ใกล้ชิดติดโควิด 19 นี่ถ้าลุงเพนซ์แกติดล่ะก็มีหวังงามไส้ เพราะลุงเพนซ์เป็นประธานคณะทำงานเฉพาะกิจรับมือโคโรนาไวรัส แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ ทั้งสองลุงส่ายหน้าเป็นพัดลม ไม่ยอมใส่หน้ากากกันเลย
ลามไปถึงหมอประจำทำเนียบขาว 3 คน รวมทั้งหมอเฟาซี่ ต้องกักกันโรคตัวเอง หลังติดต่อสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ทำเนียบขาว ข่าวล่าสุดตอนนี้มีการออกกฎใหม่หมาดว่าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า โดยเฉพาะในส่วนฝั่งที่เรียกว่าเวสต์วิงส์ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำงานของประธานาธิบดี แต่ประธานาธิบดีจะยอมใส่หน้ากากด้วยไหม มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้
ช่วงที่ทำเนียบขาวป่วน ตาลุงผมเป๋ยังไม่วายทำให้สถานการณ์ป่วนหนักกว่าเดิม เล่นเอาหมอทั้งอเมริกากุมขมับ แทบจะฆ่าตัวตายกันเลยทีเดียว เมื่อลุงทรัมป์ออกมาแถลงหน้าตาเฉยว่า ไม่ต้องกังวลหรอก อีกหน่อยโรคนี้ก็จะหายไปเองโดยไม่ต้องมีวัคซีนป้องกัน
คำพูดของทรัมป์ขัดแย้งกับคำยืนยันของหมอแอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติว่า
“การระบาดจะยังไม่สิ้นสุดจนกว่าเราจะมีวัคซีน”
แล้วนี่อะไร..ลุงไม่เคยฟังหมอเฟาซี่พูดบ้างเลยหรือไงน่ะ อยู่ๆ ก็โพล่งออกมาแบบนี้เพื่ออะไร ในขณะที่หมอทั้งโลกอดหลับอดนอนคิดค้นวัคซีนเพื่อเยียวยาชาวโลกและหาทางหยุดยั้งไวรัสตัวนี้ จะว่าไปแล้วลุงทรัมป์ไม่ควรใส่หน้ากากหรอก ขอแนะนำให้ใส่ตะกร้อครอบปากแบบหมาน่าจะเหมาะกว่า
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี