วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568

จริงๆ แล้วคอนเซปของคอลัมน์นี้คือการเขียนเล่าเรื่องราวในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นการเมืองหรือสังคมศิลปะวัฒนธรรม ตามแต่ความชอบและความสนใจของผู้ขัยน จึงเขียนหนักบ้างเบาบ้าง ตามเหตุการณ์ในอเมริกาแต่ละอาทิตย์
แต่ช่วงนี้สถานการณ์ทางเมืองไทยผันผวนอย่างหนัก มีการใช้ชุดความคิดที่บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือให้ความจริงแค่ครึ่งเดียวในอดีต นำมาปัดฝุ่นใหม่ เพื่อนำมาสร้างเป็นชุดความคิด ป้อนเยาวชนคนรุ่นใหม่ เวลานี้มีการอ้างอิงเอกสารชุดหนึ่งที่ “อ้าง” ว่านำมาจากซีไอเอ จากนั้นก็นำมาติดแฮชแทคโจมตีในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยกล่าวหาว่าพระองค์เป็นผู้สั่งสังหารนักศึกษาในเวลานั้น
เอกสารชั้นนี้เคยนำมาเผยแพร่ก่อนหน้านี้ เพื่อจงใจสร้างความเข้าใจผิดต่อสถาบัน ในช่วงที่เกิดการแตกแยกทางความคิดทางการเมืองยุคเสื้อเหลือง-เสื้อแดง หัวโจกคืออาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่บรรดาคอการเมืองรู้จักดีว่ามักชอบนำข้อมูลที่อ้างว่าลับสุดยอด โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย
คนที่รับช่วงต่อมาคือ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ทั้งคู่หนีคดีมาตรา 112 อยู่ต่างประเทศ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ชุดความคิด และข้อมูลประวัติศาสตร์ที่นำมาบิดเบือน เพื่อเผยแพร่ต่อให้เยาวชน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ทำกันแค่ไม่กี่คน แต่ทำเป็นทีม มีการจ้างนักเขียนอาชีพผลิตข้อความสั้นๆ คมๆ โดนๆ หรือเอกสารที่เป็นชุดความคิดที่สามารถโน้มน้าวใจได้ แม้จะไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง เพื่อโน้มน้าวให้เกลียดชังสถาบันกษัตริย์
หลายคนที่ทันยุคนิตยสาร “ฟ้าเดียวกัน” และเวบ “ฟ้าเดียวกัน” คงรู้ว่าทั้งนิตยสารและเวบมีเนื้อหาและฟอรั่มให้คนเกลียดชังสถาบันกษัตริย์ไปรวมตัวในนั้น ผู้เขียนเองแม้เป็นผู้จงรักภักดีสถาบัน แต่แอบซ่อนตัวในหมู่คนเหล่านั้นเพื่อเก็บข้อมูล เลยทันได้เห็นชุดความคิดต่างๆ ที่ทำมาเล่าต่อกัน เผยแพร่สู่วงกว้าง โดยอัดแน่นไปด้วยเชื้อไฟแห่งความจงชังสถาบัน
ตอนนี้มีการนำชุดข้มูลเหล่านั้น กลับมาปลุกเร้าให้เยาวชนเกลียดชังสถาบันอีกรอบ ปลุกปั่นให้เกลียดชังอย่างถึงที่สุด ไม่ละเว้นแม้รัชกาลที่ 9 ซึ่งเสด็จสวรรคตไปแล้ว ก็ยังถูกลากมาก่นด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย หนึ่งในเอกสารอันเป็นชุดความคิดนั้นคือ เอกสารของซีไอเอ ที่วนกลับมาอีกครั้ง พร้อมแฮชแทคประกอบว่ารัชกาลที่ 9 สั่งฆ่านักศึกษา
เอกสารชุดนั้นตัดมาแค่ข้อความไม่กี่บรรทัดในภาษาอังกฤษ อ่านฉบับเต็มอย่างไม่มีอคติแล้วพบว่า รัชกาลที่ 9 ไม่มีถ้อยรับสั่งให้ฆ่านักศึกษาแต่อย่างใด แต่หมายถึงต้องการให้ระงับเหตุการณ์รุนแรงในครั้งนั้น เอกสารชุดนี้เขียนขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2517 ไม่มีอะไรในกอไผ่เลย นอกจากพวกซีไอเอรายงานให้ประธานาธิบดีรู้ถึงสถานการณ์ในเวลานั้น และ การปฏิบัติงานของหน่วยงานอเมริกันในประเทศนั้นๆ
ในเอกสารย่อหน้าแรกพูดถึงว่าผลจากเหตุการณ์เมื่อมกราคมที่ผ่านมา กฤตในฐานะผบ.ทบ.สั่งกำลังเตรียมพร้อม และคิดจับนักศึกษาบางคน แต่เหตุการณ์ตอนมกราคมใช้กำลังตำรวจไม่ใช้ทหาร
ย่อหน้าที่สองรายงานว่า รัชกาลที่ 9 ทรงสนับสนุนนักศึกษามาตลอด ทรงต้องทบทวนผ่อนปรนให้การทหารเข้ามาควบคุมการปลุกระดมจากผู้นำนักศึกษาหัวรุนแรงที่จุดติดแล้วในบางกลุ่ม
ย่อหน้าที่ 3 เป็นการสรุปว่า ถึงกองทัพจะอยู่ในสถานการณ์ได้เปรียบ แต่ก็ยังไม่ถูกนำมาใช้ และไม่มีข้ออ้างล้มรัฐบาลพลเรือน (สัญญา ธรรมศักดิ์) แต่เหตุการณ์เมื่อเดือนมกราคมก็จะนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างกองทัพกับนักศึกษาเพราะนักศึกษากล่าวหากองทัพที่เผาหมู่บ้านคอมมิวนิสต์ในภาคเหนือ
เหตุการณ์ที่บันทึกของซีไอเอว่า หมายถึงกรณีเผาหมู่บ้านคอมมิวนิสต์ที่ ต.นาทราย จ.หนองคาย แล้วนักศึกษาหัวรุนแรงออกมาประท้วงต่อต้าน ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับกองทัพที่กำลังสู้รบกับซีไอเอ
บันทึกฉบับนี้ยืนยันจุดยืนเดิมของรัชกาลที่ 9 ที่ทรงสนับสนุนนักศึกษา แต่มีพวกหัวรุนแรงแทรกซึมอยู่ และรัฐบาลอ.สัญญาทำท่าจะเอาไม่อยู่ ซึ่งซีไอเออยู่ดีๆจะหาเรื่องล้มก็ไม่ได้เพราะเป็นรัฐบาลพลเรือน ปีเดียวกัน พคท.พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยสร้างค่ายรอรับนักศึกษาลี้ภัยไว้ใหญ่โต ทั้งหมดนึ้แค่รายงานว่าซีไอเอในไทยทำอะไรได้ผลคืบหน้าแค่ไหนเท่านั้นเอง
ขอบคุณรายละเอียดจากคุณปัณฑา พล จากเพจ “แผ่นดินที่ 9” ที่เคยอธิบายรายละเอียดของเอกสารซีไอเอฉบับนี้ไว้อย่างชัดเจน ผู้เขียนได้อ่านเอกสารนี้โดยละเอียด และตรวจสอบกับชาวอเมริกันอีกครั้งหนึ่ง เผื่อแปลความผิดพลาด แต่หลักใหญ่ใจความแล้วยังคงสรุปได้ตามเนื้อหาที่เขียนมาข้างต้น
หลายคนอาจจะสงสัยว่าสามารถนำออกมาจากซีไอเอได้อย่างไร ในกรณีเอกสารเก่า ให้เป็น public record ของ CIA ดังนั้นทุกคนมีสิทธิ์ที่จะ access ได้ จึงมีผู้ไม่หวังดีนำเอกสารนี้มาเผยแพร่โดยหวังผลทางการเมือง จนมีการนำวนกลับมาฉายซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกระทั่งทุกวันนี้ และเยาวชนคนรุ่นใหม่ เมื่อได้รับรู้ข้อมูลที่ถูก “แปล” และ “แปลง” ให้เชื่อ ก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าทุกถ้อยคำคือความจริง จนกลายเป็นเบี้ยหมากในเกมการล้มสถาบันในที่สุด

ห้ะ คิดได้ไง? สฤณี แขวะไทยรบเขมร เพราะ ฮุนเซ็น มีน้ำใจ
รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความกังวล หลังสถานการณ์ไทย-กัมพูชากลับมาตึงเครียด
ในหลวง พระราชินี พระราชทานดอกไม้และตะกร้าสิ่งของให้พลทหารที่บาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา
ต้องโทษ ฮุน เซน คนเดียว! เสธ.เบิร์ด ซัดเดือด ผู้นำเขมร ปากว่าสันติภาพ แต่เรียกหาสงคราม
ศรีสะเกษ ระดมกำลังรับมือชายแดนเดือด อพยพแล้วกว่า 2.9 หมื่นคน ผู้ว่าสั่ง อาหาร น้ำดื่มต้องไม่ขาด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี