อย่าคิดว่าได้ประธานาธิบดีใหม่แล้วอะไรๆ จะสดใสซาบซ่าในบ้านลุงแซม เพราะไอ้คนเก่าที่จะต้องย้ายก้นออกจากทำเนียบขาวไม่ยอมไปง่ายๆ ขนาดช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนนับจากนี้ ยังป่วนไม่เลิก แทนที่จะทำความสะอาด สะสางทำเนียบขาวให้งามตา รอรับคนที่จะมาอยู่ใหม่ในวันที่ 20 มกราคม ตาลุงผมเป๋ดันขี้กองโต รอให้ไบเดนที่จะหิ้วกระเป๋าย้ายเข้ามาต้องเช็ดล้างตามหลัง
เริ่มด้วยการที่ตาลุงผมเป๋อภัยโทษลิ่วล้อคนใกล้ตัวเพียบ แค่ไม่ถึงเดือน ลุงแกประกาศอภัยโทษรัวๆ ผู้กระทำความผิดรวม 29 คน ก่อนหน้านี้ก็ประกาศอภัยโทษไปแล้ว 20 คน ล่าสุดที่อภัยโทษไปมีชาร์ลส์ คุชเนอร์ พ่อของจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดของทรัมป์
นอกจากนั้น ยังมี พอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของตน ผู้เป็นกุญแจสำคัญในการสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งของอเมริกาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว อีกคนหนึ่งคือ โรเจอร์ สโตน อดีตที่ปรึกษาของทรัมป์ที่ถูกศาลวอชิงตันตัดสินว่าผิด ในการให้การเท็จต่อสมาชิกรัฐสภาในการสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ยังอภัยโทษให้ตัวละครสำคัญในคดีรัสเซียอีก 2 คนคือ ไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และจอร์จ ปาปาโดปูลอส อดีตที่ปรึกษาทีมหาเสียงปี 2016 ไงล่ะ ตัวแสบทั้งฝูงทั้งนั้น
จากนี้ไปลุงผมเป๋คงประกาศอภัยโทษให้ตัวเอง เพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้อง หลังพ้นตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เอาที่สบายใจเลยนะ ลุงทรัมป์ หน้าด้านได้ไม่แคร์โลกแบบนี้มีคนเดียว ขณะที่ชาวโลกกำลังเข้าสู่ช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่กันอย่างมีความสุข แต่จะว่าไปก็สุขได้ไม่เต็มที่นักในบ้านลุงแซม
เช้าวันคริสต์มาส เกิดระเบิดตูมตามขึ้นมาที่แนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี่ ข่าวการระเบิดที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดกลัวไปทั่วทุกรัฐ มีคนบาดเจ็บไปสามคน และอาคารร้านค้าในเมืองเสียหาย แม้จะมีการยืนยันว่ามือระเบิดเสียชีวิต แต่ยังไม่มีการรายงานว่าทำไมถึงวางระเบิด
ควันระเบิดยังไม่ทันจาง ก็มาเรื่องโควิด คนอเมริกันอ้างสิทธิเสรีภาพ จนไม่ฟังคำสั่งหรือคำขอร้องของหมอหรือว่าที่ประธานาธิบดีอะไรทั้งนั้น ช่วงวันขอบคุณพระเจ้าปลายเดือนพฤศจิกายน บินกลับบ้านไปกินดื่มในครอบครัวใหญ่ สุดท้ายก็ติดโควิดกันงอมแงม หลายคนออกมาเขียนวิงวอนผ่านโลกโซเชียลว่า ช่วงคริสต์มาส อย่ากลับบ้าน อย่าทำผิดแบบตนที่เอาเชื้อโควิดมาแพร่ให้ครอบครัว แต่คิดหรือว่ามะริกันจะฟัง ยังบินกันให้ว่อนเหมือนเดิม เหมือนมีหัวไว้คั่นหู ไม่ฟังไม่สนใจไม่แคร์ใดๆ ทั้งนั้น
วันสิ้นปี ยอดป่วยสะสมโควิดพุ่งไปที่ 20 ล้านราย ตายไปสามแสนห้าหมื่นกว่า ช่วงส่งท้ายปีนี่แหละที่พะบู๊ดุเดือดในสภา เรื่องเงินเยียวยาโควิดรอบสอง รอบแรกจ่ายให้คนละพันสอง คือก้อนเดียวเท่านั้นแหละนับตั้งแต่โควิดระบาดเดือนมีนาคม ก้อนที่สองนี้ตอนแรกเสนอว่าจะได้คนละ 600 ดอลลาร์ แต่ทรัมป์บอกว่า ต้องจ่ายสองพันดอลล์ ยื้อกันไปมา ตาทรัมป์ไม่ยอมเซ็นต์ ประชาชนพลเมืองได้แต่ชะเง้อมองเกมการเมืองแล้วถอนใจ หลายคนคงคิดว่าจะเท่าไหร่ก็เอามาโว้ย จะอดตายกันอยู่แล้ว
สุดท้ายทรัมป์ก็ยอมเซ็นต์ สรุปง่ายๆ คือ ชนชั้นกลางและชนชั้นล่างได้กันคนละหกร้อยดอลล์ พุ่งตรงเข้าบัญชีกันตอนต้นปี การที่ตาลุงผมเป๋ยอมเซ็นต์ทำให้ชาติรอดพ้นจากการที่หน่วยงานรัฐต้องชัตดาวน์เพราะบ่จี๊ไม่มีเงินไปได้
แม้ว่าพอมีเงินยาไส้เล็กๆ น้อยๆ แต่มะริกันยังต้องสู้กับโควิดต่อไป วัคซีนรอบแรกจะฉีดให้หมอพยาบาลก่อน ตอนนี้มีคนอเมริกันสี่ล้านคนได้รับวัคซีนแล้ว แต่หมอแอนโทนี่ เฟาซี่บอกว่าอเมริกายังไม่ดิ่งถึงที่สุดของความเลวร้าย คงต้องรอดูหลังปีใหม่ ว่าการระบาดจะแพร่กระจายไปขนาดไหน
ปีใหม่ปีนี้จึงฉลองกันอย่างกร่อยๆ แม้จะมีการเคาต์ดาวน์ที่ไทม์สแควร์เหมือนทุกปี แต่ไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าร่วมเหมือนปีก่อนๆ เชิญแต่แนวหน้าในการแก้ปัญหาโควิดอย่างหมอ พยาบาล นักผจญเพลิง เหล่านี้เข้าไปเป็นแขกผู้มีเกียรติ จากนั้นก็ถ่ายทอดสดทางทีวีแทน
แล้วข่าวร้ายก็มาถึง ตอนนี้ใครๆ ก็กลัวโควิดสายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษที่ติดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ข่าวร้ายท้ายปีโผล่ติดๆ กันคือ พบคนไข้โควิดสายพันธุ์นี้ที่โคโลราโด ทั้งที่ไม่มีประวัติเดินทาง ยังสยองไม่พอ โควิดสายพันธุ์อังกฤษไปโผล่ที่ฟลอริด้าและแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตอนนี้เป็นดงระบาดระดับโลก ทั้งสามรายนี้ไม่มีประวัติการเดินทาง แสดงว่านี่คือการติดเชื้อกันในชุมชน
ก่อนสิ้นปียอดป่วยสะสมอยู่ที่ 20 ล้านราย พอวันที่ 3 มกราคม ยอดป่วยสะสมพุ่งสู่ 21 ล้าน ยอดป่วยใหม่รายวันเมื่อวันที่ 2 มกราคมสูงถึงสองแสนเจ็ดหมื่น ตีเป็นตัวเลขกลมๆ คือสามแสน ล่าสุดพิธีกรชื่อดังลาร์รี่ คิงติดโควิด ดูทรงแล้วน่าเป็นห่วง เพราะทั้งอายุมากและเบาหวาน ตอนนี้ลาร์รี่ยังอยู่ในไอซียู
แม้โควิดระบาดจัดหนัก แต่ดูเหมือนว่าคนที่ลุงผมเป๋ห่วงที่สุดคือตัวเอง ไม่ได้ห่วงประชาชนพลเมืองสักเท่าไหร่ เพราะจนวันนี้ก็ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ทั้งที่ไบเดนคว้าชัยในคะแนนคณะผู้เลือกตั้งแบบรัฐต่อรัฐ 306 ต่อ 232 เสียง และมีคะแนนป็อปปูลาร์โหวตมากกว่าทรัมป์ราว 7 ล้านเสียง แต่ลุงผมเป๋ร้องโวยวายว่าตนนั้นถูกปล้นผลคะแนน แหกปากดิ้นเร่าเหมือนเด็กผีที่ดิ้นชักกลางห้างร้องจะเอาของเล่นนั่นแหละ
ทรัมป์ฟูมฟายด่าทอกล่าวโทษ แต่ไม่ยักมีหลักฐานประจักษ์แจ้ง ไปฟ้องร้องที่ไหนก็โดนตีตกหมดทุกศาล แต่ลุงผมเป๋ยังไม่ยอมแพ้ ทวิตรัวๆ ปลุกผีขึ้นมาชนแทน โดยเฉพาะกลุ่มพราวด์บอยและฝูงคลั่งขาว เรียกร้องให้สาวกไปรวมตัวกันที่วอชิงตันวันที่ 6 มกราคม เพื่อกดดันไม่ให้รัฐสภาลงมติรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน
ลุงมองไม่เห็นหรือไงว่า มนต์ดำของแกนั้นเสื่อมแล้ว บรรดารีพับลิกันในวุฒิสภาที่เคยสนับสนุน ต่างถอยห่าง แล้วบอกลูกพรรคไม่ให้ไปร่วมสุมหัวกับฝูงคลั่งขาวและพราวด์บอย ล่าสุด บรรณาธิการนิวยอร์กโพสต์ ของรูเพิร์ต เมอร์ดอค ที่อวยทรัมป์ไส้แตกมาตลอด เขียนบทความเบิกเนตรให้ทรัมป์ว่าให้ “หายบ้า” และยอมรับได้แล้วว่าแพ้
ก่อนหน้านี้ บรรดาสาวกขวาจัดของทรัมป์ไปชุมนุมหนุนทรัมป์ในเดือนพฤศจิกายนมากกว่า 10,000 คนที่วอชิงตัน จบลงด้วยปะทะเดือด จนมีคนถูกแทงและจับกุมเพียบ หากหนนี้ยกพลกันมาอีก น่าจะหนักหนาสาหัสกว่าหนก่อน แถมโควิดระบาดแบบไม่เลือกที่รักมักที่ชัง มีหวังแพร่กระจายทั่วทุกรัฐแน่ เพราะทรัมป์ผิวปากเรียกสาวกตนจากทุกรัฐให้มารวมตัวกัน
หนักกว่านั้นคือตาลุงผมเป๋วางเบี้ยหมากไว้ในเพนตากอนเพียบ เพื่อยื่นตีนขวางไม่ให้ไบเดนเข้าถึงข้อมูลระดับชาติได้สะดวก ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือ กลุ่มอดีตรัฐมนตรีกลาโหม 10 คน ทั้งจากรัฐบาลรีพับลิกันและเดโมแครตออกมาเตือนกองทัพให้อยู่เฉยๆ อย่าเต้นตามทรัมป์ ที่พยายามยุกองทัพให้เข้ามาหนุนตน เพราะมีข่าวแว่วมาว่าลุงผมเป๋จะยุกองทัพ ให้ประกาศกฎอัยการศึก เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ดูทรงแล้วทั้งผิดกฎหมายและละเมิดรัฐธรรมนูญชัดๆ การเคลื่อนไหวของอดีตรัฐมนตรีกลาโหมหนนี้ต้องการ สะกิดคริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ ที่รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน ให้เลิกรองมือรองตีนช่วยทรัมป์ยื้อเก้าอี้ประธานาธิบดี แต่ควรถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลไบเดนอย่างราบรื่น คือลุงผมเป๋แกสิ้นไร้ไม้ตอกถึงขนาดยุทหาร ให้ออกมายึดอำนาจ หนุนแกให้อยู่ต่อหรือเลือกตั้งใหม่นั่นเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี