อ่านข่าวสารบ้านเมืองวันนี้ นอกจากข่าวโควิด-19 แล้ว ก็มีแต่ข่าวแนวเดิมที่ดำรงอยู่ต่อเนื่องกันมาทศวรรษแล้วทศวรรษเล่า เป็นต้นว่า ข่าวฝ่ายรัฐบาลประกาศขึงขังจะจัดการเจ้าของบ่อน เจ้าของซ่อง ข่าวการตั้งคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นจนปิดไม่มิด รวมทั้งข่าวฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่ออกมาขับไล่ เปิดโปง จริงบ้างไม่จริงบ้าง ในสภาบ้าง บนถนนบ้างสลับกันไป
แต่จะไล่อย่างไร รัฐบาลก็ไม่ไป เปิดโปงอย่างไรก็ไม่ออก เพราะคนมันอยากจะอยู่ในอำนาจ ทั้งคนที่ไล่ที่เปิดโปงเขา ก็ใช่ว่าจะมีอะไรดีไปกว่าคนที่ตนไล่ ที่ตนเปิดโปง
ประชาชนจึงได้แต่เสพข่าวเก่า ดูละครน้ำเน่าไปวันๆ พร้อมความหวังที่จะตื่นขึ้นมาแย่งกันลงทะเบียนออนไลน์เพื่อรับส่วนแบ่งสวัสดิการให้ทันคนอื่นเขา
หลายทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยจึงไม่พัฒนาไปถึงไหน ทั้งที่ศักยภาพด้านอื่นๆ ของประเทศ และของคนไทย สามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้มาก
เหตุผลที่ประเทศไทยย่ำเท้าอยู่แบบนี้ เพราะปัญหาหลัก หรือ ความขัดแย้งหลัก ของประเทศไม่ได้รับการแก้ไขมาโดยตลอด ทั้งหากปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ต่อไป ประเทศชาติและประชาชน จะไปไม่รอด
ปัญหาหลัก หรือ ความขัดแย้งหลัก ของประเทศ ขณะนี้คืออะไร ?
1.การเมืองอยู่ในกำมือของกลุ่มชนชั้นปกครองเผด็จการทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ที่เข้ามาทุจริตโกงกินผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน โดยเอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนผูกขาดขนาดใหญ่ ประชาชนไม่เคยมีตัวแทนทางการเมืองที่แท้จริงของตน
2. เศรษฐกิจอยู่ในกำมือของกลุ่มทุนผูกขาดขนาดใหญ่ไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่ตระกูล ที่เอื้อประโยชน์กับชนชั้นปกครองเผด็จการที่กุมอำนาจรัฐ ผูกขาดตัดตอน เบียดขับกลืนกินทุนขนาดกลางขนาดเล็กไม่ให้มีที่ยืน ประชาชนไม่มีทางเลือก
3. วัฒนธรรมอยู่ในการครอบงำของผู้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองที่จะชักนำไปให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของกลุ่มตน โดยมีอิทธิพลวัฒนธรรมแบบจารีตนิยมดำรงอยู่ ค่านิยมที่ยืนอยู่บนความถูกต้องและผลประโยชน์ของประเทศชาติอ่อนด้อยถอยกำลัง ในขณะที่ค่านิยมที่ยืนอยู่บนความเป็นพรรคเป็นพวกและผลประโยชน์ของส่วนตนกับพวกพ้องของตนแข็งแกร่งขยายตัว
การแก้ปัญหาของประเทศชาติ ด้วยการต่อสู้ทางการเมือง อย่างที่พรรคฝ่ายค้าน หรือที่ขบวนการต่อต้านรัฐบาลนอกสภา จัดชุมนุม พาคนลงถนน แล้วรอรับหมายศาล อย่างที่ทำกันอยู่ วันนี้ไม่อาจแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้นซึ่งเป็นปัญหาหลักของประเทศได้ ตรงกันข้าม รังแต่จะบั่นทอนเศรษฐกิจและความสงบสันติภายในประเทศ บั่นทอนกำลังตนเอง และสูญเสียแนวร่วมในการต่อสู้ระยะยาวไกล
ถ้ากระนั้น จะแก้ปัญหา 3 ข้อข้างต้นซึ่งเป็นปัญหาหลักของประเทศอย่างไร ?
คำตอบคือ เราต้องทำ ไม่ 1 ก็ 2 ทางเลือกข้างล่างนี้
1. หาคนดีมีฝีมือ และพร้อมอุทิศตนเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริงมากุมอำนาจรัฐ ปกครองบ้านเมือง แก้ปัญหาหลักทั้ง 3 ประการข้างต้นแทนกลุ่มผู้ปกครองปัจจุบันซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าว วิธีนี้ ถ้าทำได้ ก็แก้ปัญหาได้ แต่ผู้เขียนไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ในทางปฏิบัติ ยากที่จะหากลุ่มบุคคลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นมาแบกรับภารกิจนี้
2. สร้างแนวร่วมประชาชาติประชาธิปไตยในหมู่ประชาชน ให้การศึกษาให้เกิดความเข้าใจในต้นตอของปัญหา สร้างค่านิยมใหม่ที่พร้อมอุทิศตนเพื่อประเทศชาติ และสร้างวินัยอันแข็งแกร่ง จากนั้น ก็เคลื่อนไหวต่อสู้ในรูปแบบใหม่ทีละก้าว สะสมชัยชนะเล็กๆ อย่างไม่รีบร้อน ที่สำคัญ การเคลื่อนไหวต้องให้ “ประชาชนส่วนใหญ่ที่สุด” (ไม่ใช่ “ประชาชนของตน”) รับได้ และผลของการเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง ต้องเป็นชัยชนะที่แม้จะเล็ก แต่จับต้องได้ มิใช่เป็นเพียงแค่การปลุกระดม สร้างกระแสให้เป็นข่าว ซึ่งจะทำได้ไม่กี่ครั้ง ผู้คนก็จะเบื่อ ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาหลักข้อหนึ่งของประเทศเรา คือ การผูกขาดของกลุ่มทุนผูกขาดขนาดใหญ่ไม่กี่กลุ่ม ซึ่งกระทบและครอบงำชีวิตของคนทุกระดับในประเทศ ปัญหานี้ คนทั่วไปรู้สึกและรับได้ การเคลื่อนไหวให้ศึกษา ทบทวน และแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการผูกขาด เช่น พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า ซึ่งควรมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการผูกขาดของกลุ่มทุนผูกขาดขนาดใหญ่มากกว่านี้ หรือการเคลื่อนไหวพร้อมใจกันไม่ซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าของทุนผูกขาดขนาดใหญ่ แล้วทดแทนด้วยการจัดหาร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็กเข้ามาแทน หากกระทำอย่างมีวินัย มีการจัดตั้ง และมีแผนการรองรับให้พร้อมก่อนการเคลื่อนไหว ก็จะมีคนต้อนรับและเข้าร่วม สามารถเป็นก้าวแรกในการแก้ปัญหาการผูกขาดตัดตอนซึ่งยังมีเรื่องที่จะต้องช่วยกันทำต่อไปอีกมาก
นี่คือหนึ่งในสองทางเลือกที่จะพาเรารอด และเป็นแนวทางทั่วไปที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาหลักอื่นๆ อาจจะช้า แต่ถ้าพร้อมใจ และมีวินัย เราจะทำได้ ในทุกๆ ปัญหาดังกล่าวข้างต้น โดยที่ประเทศชาติจะไม่เสียหาย ประชาชนไม่ต้องลงถนนและปะทะกันเป็นรายวันอย่างสูญเปล่า
เมื่อประชาชนมีความเข้าใจ มีเหตุผล มีจุดยืน และค่านิยมที่พร้อมอุทิศตน พวกเขาจะพร้อมใจกันเปลี่ยนแปลงประเทศของเขาอย่างเหมาะสมและมีเหตุมีผลเอง
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
20 มกราคม 2564
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี