ผมทิ้งท้ายบทความ ในราชดำเนินอเวนิว ฉบับที่แล้วเอาไว้ว่า เราจะพ้นวังวนอันชั่วร้ายนี้ได้อย่างไร ?
วังวนอะไรหรือครับ วังวนที่มีการรัฐประหาร มีรัฐบาลชั่วคราวมาร่างรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง มีการทุจริตประพฤติมิชอบ มีรัฐประหาร มีเลือกตั้ง วนเวียนอยู่อย่างนี้ตั้งแต่ที่มีการ
เปลี่ยนแปลง 2475 จนถึงทุกวันนี้
จำได้ไหมครับตั้งแต่ที่มีการเลือกตั้งทั่วไป จนกระทั่งตั้งรัฐบาล เสียงปริ่มน้ำ พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ผมเขียนเอาไว้ว่า ก็ต้องถูลู่ถูกังกันไป อย่างนี้แหละ ไปได้ไหม ก็ผ่านมาได้จะ
2 ปีในอีกไม่กี่วันนี้
ใน 2 ปีนี้ ในสภามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว อภิปรายโดยที่ไม่ต้องลงมติไปแล้ว นอกสภามีการชุมนุมขับไล่เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก นับครั้งไม่ถ้วน ผู้ชุมนุมประกาศชัยชนะไปแล้ว
หลายต่อหลายหน
รัฐบาลก็ยังอยู่
ไม่แต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์หรอกครับ รัฐบาลไหนๆใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะเป็นอย่างนี้ คือต่างก็ถูลู่ถูกังกันไป สมัยจอมพล ป. เมื่อมีการเลือกตั้งสกปรก นิสิตนักศึกษาประชาชนเดิน
ขบวนครั้งใหญ่ จอมพล ป. ก็อยู่ได้
ที่ต้องเผ่นไปกัมพูชา เพราะสฤษดิ์วัดรอยเท้า
14 ตุลาคม 2516 นักเรียนนิสิตนักศึกษาลุกขึ้นครั้งใหญ่ แต่ที่ถนอม/ประภาสต้องกระเด็นไปก็เพราะ กฤษณ์ สีวะรา ซึ่งคุมกำลังทหารเห็นว่าไม่ไหวแล้ว รัฐบาล คึกฤทธิ์ ปราโมช จะใช้วิธีถูลู่
ถูกัง ต่อไปก็ได้ โดยผลัดเปลี่ยนให้ ส.ส. สารพัดพรรค 160 คนเป็นรัฐมนตรีกันคนละเดือนสองเดือนตามที่ขอ แต่ท่าน รับไม่ไหว ตัดสินใจ ยุบสภา
พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรีลงจากเก้าอี้ เปลี่ยนเป็นพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ก็เพราะรู้ว่า ที่สุดแล้ว กองทัพไม่สนับสนุน
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่เรียกกันว่า มาจากประชาธิปไตย น่ะ มาแล้วก็ถอนทุนคืนเพราะประชาธิปไตยของเขามาจากประชาชน ประชาชนเป็นคนหย่อนบัตร ประชาชนสนับสนุน ถามว่า
มีไหม ที่ประชาชนรักประชาชนศรัทธา
ก็ต้องบอกว่ามีนะครับ ทั้งที่เสียชีวิตไปแล้ว เช่น นายเตียง ศิริขันธ์ นายแคล้ว นรปติ นายไขแสง สุกใส ที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่างนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายอุทัย พิมพ์ใจชน
แต่ท่านเหล่านี้ก็มีน้อยกว่าน้อย
หลายๆคนเห็นว่า การเมือง ถ้าเข้าถูกช่องถูกทางแล้ว เป็นธุรกิจที่ให้ค่าตอบแทน ยิ่งกว่าธุรกิจอื่นใด จะเห็นว่า เมื่อมีการตรวจสอบทรัพย์สินของรัฐมนตรีบางยุคบางสมัยเมื่อมีการรัฐประหาร เอา
กันจริงๆแล้วนักการเมืองหลายสิบคนก็ไม่สามารถแสดงที่ไปที่มาของทรัพย์สินได้ ก็เคยมีมาแล้ว
การเมืองจึงเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน (สำหรับคนเลว) คือไม่รวย ก็ทำให้รวยขึ้นมาได้ รวยอยู่แล้วก็ให้รวยเพิ่มขึ้นไปอีก ส่วนจะมีแผ่นดินอยู่หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เรา / ประชาชน จึงยากที่จะพ้นไปจากวังวนนี้
งั้นเราจะต้องยอมจำนนอยู่กับประชาธิปไตยหลอกๆ หรือ ยอมทนอยู่กับเผด็จการอย่างนั้นหรือ ?
โลกทุกวันนี้ไม่มีใครยอมหรอกครับกับประชาธิปไตยหลอกๆ ประชาธิปไตยครึ่งใบ หรือเผด็จการ เราต่างก็ตระหนักถึงสิทธิ เสรีภาพ ต่างก็แสวงหาชีวิตที่ดีกว่ากันทั้งนั้น ไม่แต่ประชาชนคนไทย
เป็นเช่นนี้กันทั้งโลก ที่มีการศึกษา มีการสื่อสาร ที่เอื้อให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีงาม มีเสรีภาพ มีความเป็นประชาธิปไตย รักษาผลประโยชน์ของตัวเองมากขึ้น
ลองนึกดูซีครับ เราเคยยอมให้บางคนสัมปทานผูกขาดโทรศัพท์ กินเปล่าเบอร์โทรศัพท์ เดือนละ 300 หรือ 500 บาท จนมันร่ำรวยมหาศาลโดยที่เราไม่ปริปากเลยสักคำได้อย่างไร
ทุกวันนี้ทำได้ไหม ?
ซึ่งก็เช่นเดียวกันในทางการเมือง เรายอมให้เขาเอาพี่ เอาน้อง เอาผัว เอาเมีย มาเป็นรัฐมนตรีแทนกันได้อย่างไร แน่นอน วันหนึ่งเราก็ต้องแก้ไข คุณสมบัติของคนเป็นรัฐมนตรี ต้องไม่มา
ในโควต้า ต้องไม่เคยติดคุกไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ไม่ว่าจะรักชาติแค่ไหนก็ตาม อะไรทำนองนี้
แล้วเราก็จะได้รัฐบาลที่มีคุณภาพ ได้รัฐมนตรีที่มีคุณภาพ ได้นักการเมืองที่มีคุณภาพ โดยสร้างคุณภาพจากตัวเราก่อนนั่นเอง !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี