นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองคนหนึ่ง ท่านแสดงความคิดความเห็นเกี่ยวกับกฎบัตรกฎหมาย หรือปัญหาสำคัญๆที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองให้สังคมได้คิดอยู่เสมอ
เมื่อวานนี้ท่านก็เขียน เขียนถึงการแถลงข่าวของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหารายหนึ่งที่เผาทรัพย์สินของราชการ หน้าเรือนจำคลองเปรม
ท่านชูชาติ เขียนไว้ว่า
“นักข่าวหญิงตะคอกถามผู้บัญชาการตำรวจนครบาลว่า ตำรวจมีหลักฐานอะไรจึงจับกุมนายไชยอมร หรือ แอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธ์ุ ในข้อหาวางเพลิง เผาทรัพย์
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลตอบว่า ตำรวจมีหลักฐานยืนยันได้ว่า นายไชยอมร ทำผิดจริง โดยได้นพพยานหลักฐานเสนอศาลอาญาในชั่นไต่สวนคำสั่งขอออกหมายจับ ซึ่งศาลพิจารณาแล้ว จึงพิจารณาให้ออกหมายจับ
นักข่าวคนเดิมก็ยังคงถามเหมือนเดิม ว่า มีหลักฐานอะไร ทำไมไม่เอามาเปิดเผย ตะคอกถามย้ำอยู่หลายครั้ง ฟังแล้วรู้สึกเศร้าใจ ไม่รู้ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างไร จึงพูดจาแบบสุภาพเรียบร้อยไม่เป็น และไม่รู้เลยหรือว่า ไม่มีตำรวจที่ไหนจะนำหลักฐานในสำนวนมาบอกให้สื่อมวลชนทราบ
นี่คือมารยาทและคุณภาพของผู้สื่อข่าว สื่อมวลชนไทย”
อ่านที่ท่านชูชาติ เขียนนี้แล้ว ผมก็หน้าชา ความที่ผมเคยเป็นนักข่าว เคยเป็นหัวหน้าข่าว เคยเป็นบรรณาธิการ มาก่อน
ที่หน้าชามิใช่เพราะหน้าบาง หรือมิใช่ไม่เคยพบเคยเห็นกิริยามรรยาทของนักข่าวอย่างที่ท่านชูชาติพูดถึง เคยพบ เคยเจอมาแล้ว แต่ก็เป็นธรรมดา เมื่อพบข้อเขียนหรือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อาชีพที่เราเคยทำ หรือทุกวันนี้ แม้ไม่ได้สังกัด ก็ยังถือว่ายังทำอยู่ เป็นอยู่ ก็ต้องมีความรู้สึกบ้าง
จริงๆแล้ว เราได้อบรมกิริยามารยาทกันหรือไม่ ?
จรรยาบรรณของสมาคมนักข่าว เขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว
/จักต้องส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งเสรีภาพของการเสนอข่าวและความคิดเห็น
/จักต้องให้ประชาชนได้ทราบเฉพาะที่เป็นจริง การเสนอข่าวสารใดๆออกพิมพ์โฆษณาเผยแพร่ ถ้าปรากฏว่าไม่ตรงต่อความเป็นจริง ต้องรีบจัดการแก้ไขให้ถูกต้องโดยไว
/ในการจะให้ได้ข่าว ภาพ หรือเอกสารใดๆมาเป็นของตน เพื่อประโยชน์ต่อการเสนอข่าว จักต้องใช้วิธีการที่สุภาพ และสัตย์ซื่อเท่านั้น
/จักต้องเคารพในความไว้วางใจของผู้ให้ข่าว และรักษาไว้ซึ่งความลับของแหล่งข่าว
/จักต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยมุ่งหวังต่อสาธารณประโยชน์ ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตัวหรือหมู่คณะใดๆ โดยไม่ชอบธรรม
/จักต้องไม่กระทำการอันเป็นการบั่นทอนเกียรติ หรือความสามัคคีของเพื่อนร่วมวิชาชีพ
หลักปฏิบัติ 5/6 ประการนี้ ไม่มีการสอนในโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัยที่สอนวิชาการหนังสือพิมพ์ หรือ วารสารศาสตร์หรอกครับ และคนที่เป็นหัวหน้าข่าว หัวหน้ากอง หรือบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ ก็ไม่ได้เปิดห้องอบรมนักข่าวของตนหรอกครับ
หากแต่เป็นวัตร ปฏิบัติของคนที่เป็นหัวหน้า เป็นผู้บังคับบัญชาปฏิบัติให้เห็น ทำให้เห็น เป็นตัวอย่างให้นักข่าว หรือคนหนังสือพิมพ์ หรือผู้สื่อข่าวสำนักต่างๆ ถือปฏิบัติ
บางสำนักข่าวที่มุ่งแต่ที่จะได้ข่าว หรือไม่ได้สนใจวัตรปฏิบัติ ไม่เคร่งจริยธรรม ก็อาจจะไม่สนใจ ความประพฤติ วัตร ปฏิบัติ ของผู้ปฏิบัติงาน
บางสำนักถึงกับเข้าใจผิดคิดว่า การเป็นนักข่าวค่อนข้างจะเป็นคนพิเศษ อยากถามก็ถาม คิดว่าตัวมีเสรีภาพ มีสิทธิที่จะต้องรู้ เอาส่งที่ตนรู้นั้นไปให้ประชาชนรู้อีกต่อหนึ่ง
ซึ่งเข้าใจผิด อย่างที่ท่านชูชาติบอกเอาไว้ว่า ไม่รู้เลยหรือว่า ไม่มีตำรวจที่ไหนนำหลักฐานในสำนวนมาเปิดเผยให้นักข่าวทราบ
เมื่อไม่รู้ก็ถามหาหลักฐาน
และเมื่อสำคัญผิดว่าตัวยิ่งใหญ่ก็ตะคอกถาม !
ถามว่ามีการทำข่าวที่นักข่าว มีความสามารถ เจาะลึก เข้าไปถึงสำนวน รู้พยานหลักฐานอย่างลึกซึ้งบ้างไหม ?
มีเยอะไป แต่เขาใช้ความสามารถในการขุดเจาะ หรือใช้ความไว้วางใจ ระหว่างนักข่าว กับแหล่งข่าว รู้ว่าจะเปิดเผยได้แค่ไหนไม่ให้เสียรูปคดี จะเปิดเผยได้แค่ไหน ไม่ให้เสียหายถึงแหล่งข่าว
ซึ่งแน่นอน ข่าวเช่นนี้หาไม่ได้หรอกครับจากการแถลงข่าว
การแถลงข่าว ก็คือการประชาสัมพันธ์ การเปิดเผยความคืบหน้าของข่าว ของคดีว่าไปถึงไหนอย่างไร ไม่ใช่การเปิดเผยความลึกลับ เงื่อนงำ
และที่สำคัญจะต้องใช้ความรู้ความสามารถและความสุภาพในการแสวงหา
ฟังให้ดีนะครับ ผมใช้ว่าคำว่า สุภาพเรียบร้อย นะครับ คนละเรื่องกับการพินอบพิเทา นะครับ
นักข่าว นักหนังสือพิมพ์ต้องมีเกียรติยศมีศักดิ์ศรีนะครับ
เว้นเสียแต่ตัวคุณ สำนักของคุณจะทำตัวเป็นขี้ข้ารับใช้ใคร นั่นเป็นอีกเรื่อง !
ช่าวบังเอิญจริงๆ ที่เขียนเรื่องนี้วันนี้ วันนักข่าว !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี